
3 ธันวาคม 2568 นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย และในฐานะผอ.รมน เป็นประธานในงานสรุปผลการปฏิบัติงาน ประจำปี 2568 และแถลงแผนการปฏิบัติงาน ประจำปี 2569 ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร หรือ กอ.รมน.
โดยมีพลเอกณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พลเอกพนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. ร่วมงาน และมี พลเอกชัยพฤกษ์ ด้วงประพัฒน์ ในฐานะเลขาธิการกอ.รมน. รายงานผลการปฏิบัติงาน
โดย นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ปัญหาด้านความมั่นคงเป็นปัญหาที่รัฐบาลให้ความสำคัญในการดำเนินการอย่างเร่งด่วน มุ่งหวังยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนและแก้ไขปัญหา ภัยคุกคามทุกรูปแบบ ส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศและความสงบเรียบร้อยของชาติ จึงได้หารือกับผู้บัญชาการทหารบกในฐานะรองผอ.รมน.เพื่อกำหนดทิศทางการปฏิบัติงานในปี 2569 ของกอ.รมน. ให้มุ่งส่งความมั่นคงที่ยั่งยืน ให้ทันสมัยและยึดประชาชนเป็นศูนย์กลาง เปลี่ยนการทำงานจึงรับและเชิงรุก มุ่งเน้นการทำงานให้เห็นผลชัดเจน เพื่อให้มีแนวทาง การปฏิบัติงาน และความพร้อมต่อการป้องกันและแก้ไขปัญหา ให้บรรลุผลในปี 2569 นี้ ตนจึงขอให้ทุกหน่วยงาน
การป้องกันภัยคุกคามเร่งด่วน มุ่งเน้นย้ำถึงสิ่งที่ส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศและให้ความสำคัญของภัยอาชญากรรมข้ามชาติและปัญหายาเสพติดตามแนวชายแดน พร้อมทั้งสนับสนุนการแก้ไขปัญหาในจังหวัดชายแดนภาคใต้
เน้นการทำงานเชิงลึกในพื้นที่ และใช้การมีส่วนร่วมของประชาชนในการสร้างสันติสุข ลดเหตุรุนแรงและลดจุดเสี่ยง อย่างมีรูปธรรมและสนับสนุนการปราบปรามอาชญากรรมภัยทางเทคโนโลยีการ คอลเซ็นเตอร์ สแกมเมอร์ อาชญากรรมออนไลน์และการก่อการร้ายข้ามชาติสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน
รวมถึงการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ด้วยการประสานกับหน่วยหลัก เพื่อนำไปสู่ผลลัพธ์ที่แท้จริง การบริหารจัดการข้อมูลข่าวสาร ของกอ.รมน.ต้องพัฒนาขีดความสามารถด้านข่าวกรองให้รู้จริง รวดเร็วและแม่นยำ พร้อมทั้งเสริมมาตรการสกัดกั้นข่าวปลอม ที่บิดเบือนข้อเท็จจริงและส่งผลกระทบต่อความมั่นคงของประเทศป้องกันไม่ให้เกิดการแตกแยกในสังคม
การสนับสนุนงานรัฐบาลในการดูแล ประชาชน มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตควบคู่กับการแก้ไขปัญหาด้านความมั่นคง ในพื้นที่ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่มีอยู่จริง แก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ สถานะบุคคลไร้สัญชาติ ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินงาน เพื่อความมั่นคงมั่งคั่งยั่งยืน เพื่อให้ชุมชนได้รับเป้าหมายในการแก้ไขปัญหาในพื้นที่ยึดหลักการจัดลำดับความเร่งด่วนของการแก้ไขปัญหา เสริมความพร้อมด้านพลังงานและความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่กับการป้องปรามการลักลอบนำเข้าส่งออกสินค้าการเกษตร ปศุสัตว์ และประมงที่ผิดกฎหมายรวมถึงความพร้อมในการตอบสนองต่อเหตุการณ์ในภาวะที่ไม่ปกติหรือภัยพิบัติที่อาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจและความมั่นคงโดยรวม
ขณะที่ในมิติของการบรรเทาสาธารณภัยและการแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อม ขอให้กอ.รมนดำเนินการเชิงรุก ทั้งการป้องกันบรรเทาผลกระทบ หาความร่วมมือกับท้องถิ่นในการแก้ไขปัญหา PM 2.5 และ การทำลายสิ่งแวดล้อมต่างๆ รวมไปถึงสารเคมีในภาคอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ด้านการปรับปรุงองค์กรและเสริมภาพลักษณ์ที่ทันสมัย โปร่งใสและเป็นที่พึ่งของประชาชน โดยจะเริ่มจากการเสริมศักยภาพ บุคลากร ให้เท่าทันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ทั้งในด้านเทคโนโลยี การใช้ข้อมูลข่าวสาร และทักษะการปฏิบัติงานในพื้นที่ เพื่อให้กำลังพลพร้อมรับมือกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และซับซ้อน สอดรับกับความมั่นคงในปัจจุบัน รวมทั้งเสริมสร้างความโปร่งใสขององค์กร ต้องดำเนินการอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ทั้งการใช้งบประมาณการปฏิบัติงานในพื้นที่ และการสื่อสารต่อสาธารณะ
พร้อมขอบคุณผู้บริหารบุคลากรของกอ.รมนและพื้นที่มีส่วนที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนนที่ทุ่มเทแรงกายแรงใจ และร่วมมือกันขับเคลื่อนภารกิจด้านความมั่นคงของประเทศมาอย่างต่อเนื่อง และขอบคุณและเป็นกำลังใจในการปฏิบัติภารกิจนี้ ด้วยความทุ่มเทและเสียสละของทุกคน เพื่อที่จะทำให้การนำนโยบายไปปฏิบัติให้ส่งผลเป็นรูปธรรม ส่งผลลัพธ์ที่ประชาชนสามารถสัมผัสได้จริง คือผลการปฏิบัติที่คาดหวัง และทุกท่านในที่นี้จะได้เป็นผู้นำพาประเทศไทยร่วมกันให้เดินไปข้างหน้าอย่างมั่นคงและยั่งยืนต่อไป