
11 พ.ย.68 ที่ศาลาว่าการกทม. นายเนติภูมิ มิ่งรุจิราลัย รองประธานสภากรุงเทพมหานคร พร้อมด้วย นายพลภูมิ วิภัติภูมิประเทศ ประธานสภาวัฒนธรรมกรุงเทพมหานคร, นายแมน เจริญวัลย์ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาโรงเรียนคลองกุ่ม (เสรีไทยอนุสรณ์),น.ส.มาลินี ดีพิมาย ผู้อำนวยการโรงเรียนคลองกุ่ม, น.ส.วิภาพรรณ วิทยานนท์ คณะกรรมการสถานศึกษา
และตัวแทนพี่น้องชาวมุสลิมในพื้นที่บึงกุ่มเข้ายื่นหนังสือถึงนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เพื่อขอให้ตรวจสอบพฤติกรรมของครูในสังกังกรุงเทพมหานครรายหนึ่งซึ่งถูกร้องเรียนว่ามีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและลบหลู่ศาสนาอิสลาม
นายเนติภูมิ เปิดเผยว่า รายละเอียดในคำร้อง ระบุว่า ครูคนดังกล่าว มีพฤติกรรมขาดความรับผิดชอบต่อหน้าที่ราชการ มาสาย กลับก่อน ไม่เข้าร่วมประชุม และละเลยภารกิจของโรงเรียนนอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมลบหลู่ศาสนาอิสลาม ด้วยการกล่าวพาดพิงในเชิงลบต่อหลักคำสอนและผู้นำศาสนา ส่งผลกระทบต่อความรู้สึกและศรัทธาของพี่น้องมุสลิมในพื้นที่ แม้ที่ผ่านมาจะมีการร้องเรียนต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องหลายครั้ง แต่ผลการสอบสวนกลับระบุว่า “ไม่มีมูลความผิด” ทำให้บุคลากรในโรงเรียนหมดกำลังใจและบางส่วนขอย้ายออก จึงมาร้องต่อ ผู้ว่าฯ ชัชชาติให้ช่วยดำเนินการ
“เรื่องนี้ยืดเยื้อมานานกว่า 3 ปี และมีผลกระทบต่อชุมชนทั้งครูและนักเรียนเมื่อมีประเด็นศาสนาเข้ามาเกี่ยวข้อง ต้องรีบแก้ไขก่อนจะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียว” นายเนติภูมิ กล่าว
ด้าน น.ส.วิภาพรรณ ตัวแทนชุมชน กล่าวว่า พี่น้องมุสลิมในพื้นที่รู้สึกไม่สบายใจ เพราะเรื่องศาสนาเป็นเรื่องละเอียดอ่อน เมื่อมีการพาดพิงในทางลบ ย่อมกระทบต่อความศรัทธาของชุมชน
ขณะที่ น.ส. มาลินี ผอ.โรงเรียนคลองกุ่ม กล่าวว่าได้รับเรื่องร้องเรียนจากครูในโรงเรียนหลายครั้ง ต่อพฤติกรรมของครูคนนี้ แต่บางกรณีครูผู้ถูกกล่าวหา กลับร้องเรียนเพื่อนร่วมงานโดยไม่มีข้อเท็จจริง จนทำให้บรรยากาศภายในโรงเรียนไม่มีความไว้วางใจซึ่งกันและกัน
ขณะที่ นายพลภูมิ กล่าวทิ้งท้าย โดยเชื่อมั่นว่าผู้ว่าฯกทม. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างเป็นธรรมเพื่อให้โรงเรียนกลับมาสงบสุข และสร้างความไว้วางใจระหว่างครู–ชุมชนอีกครั้ง
ภายหลังรับฟังข้อร้องเรียน ผู้ว่าฯ กทม.ได้สอบถามรายละเอียดจากผู้อำนวยการโรงเรียน ครู และตัวแทนสำนักการศึกษา
พร้อมยืนยันจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม เพื่อให้เร่งพิจารณาดำเนินการตามระเบียบราชการ
และป้องกันไม่ให้ปัญหากระทบต่อความสัมพันธ์ของชุมชน