จากก้นบึ้ง “แม่ทัพกุ้ง” ใครสั่งหยุดยิง จะเก็บไว้ในใจตลอดชีวิต

10 พฤศจิกายน 2568 เวลา 15.10 น. พล.ท.บุญสิน พาดกลาง หรือแม่ทัพกุ้ง อดีตแม่ทัพภาค 2 ปัจจุบัน ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษา ผบ.ทบ. เดินทางมาเป็นแขกรับเชิญรายการคมชัดลึก ทาง NationTV ช่อง 22 โดยให้สัมภาษณ์ในหัวข้อที่กำลังเป็นประเด็นร้อน เรื่อง คำสั่ง “ลับ” หยุดยิง “กัมพูชา” หลังปะทะกันนาน 6 ชั่วโมง ดำเนินรายการโดย วราวิทย์ ฉิมมณี

 

โดยพล.ท.บุญสิน ตอบคำถามกรณี วันที่ 24 กรกฎาคม 2568 หลัง 6 ชม.แรก ใครสั่งหยุดยิง ว่า ตามที่ได้ตอบคำถามพี่น้องประชาชน ประเด็นที่พี่น้องคนไทยถามตลอดว่าปราสาทตาควายเราจะเอาคืนได้ไหม เรียนว่า วันนั้นทุกสิ่งทุกอย่างมันยุติในวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 24.00 น. ด้วยเหตุคณะผู้เจรจาของรัฐบาล 2 ประเทศได้เจรจาสันติภาพในวาระเร่งด่วนเป็นคำสั่งที่ถูกต้องอยู่แล้ว เพื่อความสงบสุข ซึ่งเราไม่สามารถเอาปราสาทตาควายคืนได้ทัน 

 

ส่วนเรื่องคำสั่งหยุดยิงในช่วงแรก เราไม่อยากย้อน เป็นเรื่องการหารือปกติทั่วไป ไม่ได้เป็นคำสั่งผู้บังคับบัญชาทุกระดับ ทุกคนทำหน้าที่อย่างดีที่สุด อาจเป็นความเข้าใจผิดของการสื่อสารของข้อมูล ยืนยันว่า ณ วันนี้ผมเองไม่อยากพูดถึง ไม่อยากย้อนกลับไป เป็นอดีตนานแล้ว มันผ่านมาแล้ว และผู้บังคับบัญชาไม่ได้สั่งการให้หยุด ไม่เป็นคำสั่ง เพราะฉะนั้นมีคำสั่งที่ถูกต้องคือวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ที่ผ่านมาเท่านั้น

 

ส่วนที่มีกระแสข่าวสั่งหยุดยิงหลังปะทะ 6 ชั่วโมงในวันที่ 24 กรกฎาคม 2568 ไม่ใช่คำสั่ง เป็นการหารือปกติ ขออนุญาตไม่พูดถึง โดยผู้บังคับบัญชาทุกระดับทำหน้าที่ดีที่สุดแล้ว นายกฯ รมว.กลาโหม ทำหน้าที่ให้ประเทศชาติ เราได้ทวงคืนแผ่นดินแล้ว

 

ทั้งนี้พิธีกรได้ถามชื่อเป็นรายบุคคล และขอให้แม่ทัพกุ้ง บอกคนที่ไม่ใช่ โดยแม่ทัพกุ้ง บอกว่า พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ - ไม่ใช่ , พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม และรรท.รมว.กลาโหม ในขณะนั้น-ไม่ใช่ , นายภูมิธรรม เวชยชัย -ไม่ใช่ , พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผบ.สส.-ไม่ใช่

 

เมื่อถามว่า แล้วใครสั่งได้ แม่ทัพกุ้ง บอกว่า มีการหารือปกตินิดๆหน่อยๆธรรมดา ไม่ได้สั่งการ เพียงแต่หารือแลกเปลี่ยน ระดับผู้บังคับบัญชา สถานการณ์ดีไหม เป็นห่วงชีวิตลูกน้อง สุดท้ายเราพร้อมปฏิบัติต่อ เพื่อเอาแผ่นดินเราคืน จนมาถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เวลา 24.00 น. นั่นคือคำสั่งที่ถูกต้อง ผมไม่อยากให้เราย้อน สร้างความแตกแยกในชาติ

 

เมื่อถามว่าตัดสินใจกลืนคำถามนี้ โดยจะไม่บอกใคร ไปตลอดชีวิต พล.ท.บุญสิน ตอบว่า ใช่ครับ

 

เมื่อถามว่า มีคนตั้งคำถามว่าทำไมมาพูดอะไรตอนนี้ แม่ทัพกุ้ง กล่าวว่า มีพี่น้องถาม เราก็เล่าให้ฟัง สุดท้ายปราสาทตาควายที่เรายึดไม่ได้เพราะแบบนี้ แม่ทัพไม่ได้ออกมาพูดเพื่อประเด็นการเมือง ไม่ได้อยากทำให้เรื่องเสื่อมเสียไปถึงผู้ใหญ่ ทุกท่านได้ทำดีที่สุด เพื่อชาติบ้านเมือง รัฐบาลที่แล้วก็จบแล้ว รัฐบาลอนุทิน ก็เป็นกำลังใจให้ท่าน

 

เราเป็นทหารอาชีพ เป็นทหารต้องปฏิบัติตามคำสั่งอยู่แล้ว ถ้าท่านไม่สั่งไม่ลงดาบถือว่ายังหารือกันได้ ตั้งแต่วันแรกถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ผู้บังคับบัญชาทุกระดับชั้นอนุญาตให้เดินต่อ จนมาถึงวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 เรามีมาตรการป้องกันอย่างดีที่สุด

 

แม่ทัพกุ้ง บอกด้วยว่า ณ ปัจจุบัน คือ ปราสาทตาควายที่เราต้องร่วมกัน อยากให้พี่น้องคนไทย เอาประเด็นรักชาติ ทวงคืนแผ่นดินที่ยังเหลืออยู่ ทั้งนี้ ในส่วนของปราสาทตาควาย ถ้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไม่มีคำสั่งหยุดยิง เราก็จะต่อสู้ต่อ เราจะทำให้ดีที่สุด จะทวงปราสาทตาควาย ซึ่งผมยังคาใจอยู่จนถึงทุกวันนี้

 

 

“ปัจจุบันทหารกัมพูชา เข้ามาอยู่ในตัวปราสาท สร้างสิ่งกีดขวาง มันกระทบใจคนไทยทั้งประเทศ ก่อนหน้านั้น ปราสาทตาควายอยู่กันแบบพบกันครึ่งทางทุกครั้ง ปราสาทตาเมือนธมก็เช่นกัน ทุกครั้งที่ขึ้นไป ต้องร่วมกันระหว่างไทย-กัมพูชา ปัจจุบันตาเมือนธม ไทยได้ 100% แต่ปราสาทตาควายกัมพูชาอยู่”แม่ทัพกุ้งกล่าว

 

เมื่อถามว่า ถ้าจะปฏิบัติการทวงคืนปราสาทตาควาย และถ้าวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไม่มีคำสั่งหยุดยิง ต้องต่อเวลาเท่าไหร่ แม่ทัพกุ้ง กล่าวว่า เราจะทำให้สั้นที่สุด ใช้เวลาให้ดีที่สุด สูญเสียให้น้อยที่สุด ในห้วงเวลาที่เราวางแผนกัน

 

เมื่อถามว่า พล.ต.ณัฏฐ์ ศรีอินทร์ รองแม่ทัพภาค2 (มทภ. 2) บอกว่า ปราสาทตาควายเอาคืนได้ แต่เราอาจสูญเสียและเสียเปรียบในแง่ภูมิประเทศ อีกวิธีคือเอาคืนด้วยช่องทางอื่น 2 วิธีนี้มันเป็นทางไหน พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า ณ เวลานี้คือ วิธีที่ 1 , 2 , 3 จากเบาไปหาหนัก นับเริ่มต้นใหม่ทวงคืน 1.เจรจาการทูต เรามั่นใจอยู่ในประเทศไทยขอคืนได้ไหม ด้วยสันติวิธี

 

เมื่อถามว่า ถ้าเอาคืนในคืนวันที่ 28 กรกฎาคม 2568  ต้องใช้กำลัง พล.ท.บุญสิน กล่าวว่า อยู่ที่การวางแผน จะสูญเสียมากน้อยทุกอย่างอยู่ที่การวางแผน การปฏิบัติต่อภารกิจนั้นๆ

 

เมื่อถามว่า แม่ทัพกุ้งเคยให้สัมภาษณ์กับเนชั่นว่า สิ่งที่ยากที่สุดคือบอกกับพ่อแม่ลูกน้องถึงการสูญเสีย แม่ทัพกุ้ง บอกว่า การตัดสินใจชั่งน้ำหนัก เอาผลประโยชน์ของชาติ ของแผ่นดินมาก่อน  ส่วนตัวไว้ทีหลัง ชีวิตร่างกายเพื่อแลกกับแผ่นดินที่บรรพบุรุษเรารักษาไว้ มันคุ้มกันใช่หรือไม่ แล้วบรรพบุรุษเราเขาใช้กำลังขนาดไหนที่จะต่อสู้เพื่อรักษาแผ่นดินเรา วิ่งเป็นร้อยเป็นพัน นี่ก็เช่นกันภายใต้การวางแผนที่รอบคอบ เราก็ทำได้ เราก็พร้อมจะทำ เพราะฉะนั้นแผ่นดินสำคัญที่สุด ผู้บังคับบัญชาต้องรอบคอบด้วย ไม่ใช่วางแผนแล้วพี่น้องสูญเสีย แผ่นดินเราใครจะทวงคืนถ้าทหารไม่ทำหน้าที่ มันยอมมาตั้งแต่ใส่เครื่องแบบแล้ว

 

 

ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีทหารเหยียบกับระเบิดสูญเสียขา เป็นรายที่ 7 ในวันนี้ นายกฯสั่งหยุดข้อตกลงทุกอย่าง แม่ทัพกุ้ง ประเมินอย่างไร แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ต้องขอแสดงความเสียใจต่อญาติของทหาร ที่ขาขาดข้างหนึ่ง อีกคนหนึ่งบาดเจ็บ ถามว่ากัมพูชาจริงใจกับเราหรือเปล่า เป็นหน้าที่ของกองทัพและฝ่ายความมั่นคงต้องพิจารณาต่อ จะตัดสินใจอย่างไร ซึ่งเขาละเมิดข้อตกลง

 

ที่จุดเกิดเหตุศรีสะเกษ เราเห็นการเคลียร์ทุ่นระเบิดอยู่แล้ว แม่ทัพกุ้ง บอกว่า อันนี้มี 2 ทาง คือ 1.วางใหม่ก็เป็นไปได้ หรือ 2.เราตรวจไม่พบในห้วงเวลาดังกล่าว มันอาจจะมีความเสี่ยงหรือความแม่นยำเครื่องตรวจทุ่น สมัยเป็นแม่ทัพก็ย้ำตลอดให้ระวัง แต่ทั้งนี้เพื่อรักษาแผ่นดินต้องคืบไป แต่อาจเกิดข้อผิดพลาด ต้องตรวจสอบอีกที

 

เมื่อถามว่า นายกฯสั่งหยุดข้อตกลงสันติภาพทุกอย่าง รวมถึงสั่งเบรกการส่งกลับเชลยศึก แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ผมเห็นด้วยกับ นายกฯอนุทิน , รมว.กลาโหม , ผบ.ทบ. ทำไมเขาไม่ยึดหลักการหยุดยิง ไม่ให้ความร่วมมือเก็บกู้ เขาก็รู้ว่าเขาวางที่ไหนทำไมไม่มาดู เป็นมาตรการที่ดีเลยทีเดียวที่ระงับการปล่อยเชลยศึก สงครามไม่สิ้นสุด

 

การส่งคืนไม่ส่งคืน คือศักดิ์ศรีทหาร และของประเทศ เป็นศักดิ์ศรีของเรา ถ้ามันยังไม่ยุติทุกอย่าง เมื่อเช้าเป็นสิ่งบอกเหตุว่ามันยังไม่ยุติ เป็นกฎหมายสากล ถ้าการสู้รบยังไม่ยุติ แน่นอนว่าต้องกลับมาทบทวน

 

รวมทั้งเราต้องรอบคอบในการส่งกลับ มีการรับรอง มีผลการตรวจของแพทย์ในเรื่องสุขภาพร่างกาย การตรวจสอบจากนานาชาติ เพราะถ้าส่งกลับไปแบบไม่รอบคอบ เราจะมีความเสี่ยง เขาเอาไปบอกว่าเราทำร้ายเชลยศึกเขาได้

 

เมื่อถามว่า เชื่อไหมว่าวันหนึ่งกัมพูชาจะไม่เป็นปฏิปักษ์กับไทย แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ขึ้นกับผู้นำ เรามั่นใจในรัฐบาลกัมพูชาชุดนี้หรือไม่ ผมว่าขึ้นกับผู้นำ ถ้าผู้นำเปลี่ยนแนวคิดวิสัยทัศน์ ตั้งหลักดีๆก็มีโอกาส แต่ถ้าคิดจะเอา ทวงคืน ฟ้องศาลโลก ก็ยาก

 

เมื่อถามว่า ระหว่างการเปลี่ยนผู้นำกับเปลี่ยนแนวคิดของผู้นำ อย่างไหนยากกว่ากัน ขึ้นกับพี่น้องกัมพูชา รวมถึงขึ้นกับความจริงใจ ที่ผ่านมาเขาเริ่มก่อนตลอด

 

เมื่อถามว่า ทำไมผู้นำกัมพูชา ถึงอยากให้เอาแม่ทัพกุ้งออกจากพื้นที่ แม่ทัพกุ้ง ตอบพร้อมหัวเราะว่า ไม่ทราบเหมือนกัน ผมรับคำสั่ง ผบ.สส. ผบ.ทบ. ผมมีหน้าที่อย่างนี้ ผมไม่ทราบว่าจะกระทบใครหรือไม่ เราแค่ป้องกันและผลักดันออกจากอธิปไตยของไทยเท่านั้น ไม่เคยคิดว่าจะทำให้ท่านใดไม่พอใจ

 

เมื่อถามถึงกรณีคลิปเสียง ในวันนี้ที่ไม่ได้ดำรงตำแหน่งแม่ทัพภาค 2 แล้ว เกษียณแล้ว นายกฯเปลี่ยนคนแล้ว อยากพูดอะไรหรือไม่ แม่ทัพกุ้ง กล่าวว่า คำตอบไม่เปลี่ยน คือ ไม่ติดใจ เท่าที่ผมได้ยินคลิปเสียง ผมก็เข้าใจและเห็นใจท่าน ผมเป็นห่วงท่านมากกว่า ตัวท่านเองก็เป็นสุภาพสตรีด้วย และคือนายกฯของไทย สิ่งที่ต้องแบกรับต่อจากคำพูดนั้นมันหนักมาก ผมมีทางเดียวคำพูดเดียว คือให้กำลังใจ ไม่ต้องห่วงผม ผมป้องกันชายแดนอย่างเดียว ทุกวันนี้คิดอยู่แค่นั้น เพราะท่านคือคนไทยและเป็นเพื่อนร่วมชาติ ไม่ได้โกรธ

 

หลังจากคุย ขอโทษกันสั้นๆ จากนั้นก็ไม่ได้คุยกันอีกเลย มีโทรศัพท์มาคุยให้กำลังใจทหารบ้าง ท่านทำหน้าที่ของท่าน ผมก็ทำหน้าที่ของผม ผมทำหน้าที่พาท่านไปดูชายแดน ท่านก็ให้กำลังใจ เท่านั้นเอง

 

เมื่อถามว่า เคยได้ยินเสียงวิจารณ์จากฝ่ายการเมือง ว่าล้ำเส้นหรือไม่ แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ได้ยิน เราก็รับฟังรีแอคตรงไหน เราทำอะไรโอเวอร์แอคชั่นไปหรือเปล่า เราเกินหน้าเกินตาผู้บังคับบัญชาหรือไม่ ช่วงนั้นผมโดนด่าบ่อยมาก ผมรอเวลา รอสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ผมต้องลงพื้นที่ป้องกันลูกน้อง ผมรับประกัน รับผิดชอบแทนลูกน้องทุกคน ใครจะบอกผมรีแอค ขี้โม้ ผมยอมรับ

 

เมื่อถามว่า อีกด้านหนึ่งก็ถูกลูกน้องมองว่าเราทำน้อยไป แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ใช่ครับ มันไม่ได้ง่าย ไม่ใช่ทวงคืนง่ายๆ มันแลกด้วยชีวิตเลือดเนื้อของลูกน้อง มันต้องระมัดระวัง ต้องวางแผนให้ละเอียดรอบคอบ สูญเสียน้อยที่สุด และทำแข่งกับเวลา ผมทบทวนตลอด มากไปไหม น้อยไปไหม เหมาะสมหรือยัง ขอบคุณในเสียงวิจารณ์และชื่นชม ขอบคุณพี่น้อง

 

เมื่อถามว่า ทหารต้องฟังคำสั่ง อยู่ภายใต้รัฐบาลพลเรือน แม่ทัพกุ้ง บอกว่า ศูนย์ปฏิบัติการ ภาค 2 และ ทบ. มีหน้าที่ป้องกันกองทัพ มีหน้าที่ต้องรักษาอธิปไตย แต่การปฏิบัติต้องขอความเห็นชอบ ถ้าเขาอยู่มานานแล้ว เราต้องขอความเห็นชอบ เราไม่ได้ทำโดยพลการ แต่ถ้าเหตุการณ์ซึ่งหน้าเขาล้ำมา เราต้องปฏิบัติทันที เราทำตามขั้นตอน ไม่ได้คิดว่าเป็นประเด็นขัดแย้งกับ รัฐบาลพลเรือน ซึ่ง รมว.กลาโหม จะผ่านไปที่ ผบ.ทบ.ก่อนมาถึงผม เราไม่สามารถขัดแย้งกับรัฐบาลพลเรือนได้เลย  ผบ.ทบ.ออกคำสั่ง ถ้าทำโดยลำพังคือ ขัดคำสั่ง ผบ.ทบ. ทั้งหมดคือความอยู่รอดของประเทศชาติ ศักดิ์ศรีของประเทศไทย มันต้องรับผิดชอบร่วมกัน จะทำอะไรที่เป็นผลกระทบภาพกว้างเราต้องปรึกษา

 

กองทัพเราทำหน้าที่ที่เป็นกลาง ไม่เอนเอียง ท่านใดพรรคไหนมาเป็น รมว.กลาโหม เป็นนายกฯ  เราก็เคารพท่านอยู่แล้ว เพราะท่านคือผู้นำคำสั่งที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตอนที่ฝ่ายการเมืองจะสั่งเขาต้องคุยกับผู้นำเหล่าทัพอยู่แล้ว มันถึงจะเกิดความร่วมมือร่วมใจกัน