
10 พฤศจิกายน 2568 ที่โรงแรมพูลแมน คิง เพาเวอร์ รางน้ำ สำนักงาน ปปง. ร่วมกับกลุ่มต่อต้านการฟอกเงินเอเชียแปซิฟิก (APG) และสำนักงาน UNODC จัดประชุม 2025 APG Typologies Workshop ซึ่งมีผู้แทนจากกว่า 40 ประเทศเข้าร่วม เพื่อหารือแนวทางรับมือ “ไฮบริดสแกม” การค้ามนุษย์ และการเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการแสวงประโยชน์ทางเพศเด็กออนไลน์ ซึ่งเป็นความท้าทายด้านอาชญากรรมข้ามชาติที่ขยายวงกว้างทั่วโลก
นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง. เปิดเผยว่า ขณะนี้ ปปง. อยู่ระหว่างสืบทรัพย์ และตรวจสอบธุรกรรมของ นายเฉิน จื้อ และเครือข่ายในไทย โดยอยู่ภายใต้กระบวนการลับตามมาตรการกฎหมาย ย้ำไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้ในที่สาธารณะ เพื่อไม่ให้เครือข่ายรู้ตัวและโยกย้ายทรัพย์หลบหนี แต่ยืนยันว่า “ดำเนินการแล้ว และคืบหน้าอยู่”
นายกมลสิษฐ์ วงศ์บุตรน้อย รองเลขาธิการ ปปง.
ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางเศรษฐกิจในภูมิภาค จึงมีความเสี่ยงถูกใช้เป็นเส้นทางเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมาย แต่รัฐบาลและหน่วยงานเกี่ยวข้องกำลังเร่งบูรณาการข้อมูลและดำเนินการอย่างจริงจัง เช่น กรณีล่าสุดการตรวจค้นและอายัดทรัพย์เครือข่าย นายพัด สุภาภา หรือ ลี ยงพัด นักธุรกิจรายใหญ่ในกัมพูชา ซึ่ง ปปง. ได้ดำเนินการร่วมกับตำรวจไซเบอร์
ส่วนกรณีรายชื่อบุคคลต่างชาติ 43 ราย ที่ทางการสหรัฐประกาศเชื่อมโยงขบวนการสแกมออนไลน์
รองเลขาฯ ปปง. ย้ำว่า หน่วยงานไทยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและตรวจสอบธุรกรรมตามกระบวนการอยู่แล้ว หากพบความเกี่ยวข้องกับการกระทำผิด จะสามารถใช้อำนาจฟอกเงินยึดทรัพย์ได้ แม้บุคคลนั้นจะไม่ได้เป็นผู้กระทำผิดโดยตรง แต่เชื่อมโยงหรือเกี่ยวข้องกับเครือข่ายก็สามารถดำเนินการตามกฎหมายได้
สำหรับประเด็นการส่งออกทองคำจากไทยไปกัมพูชาในปริมาณผิดปกติ
นายกมลสิษฐ์ ระบุว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบเส้นทางทางการเงินและข้อเท็จจริงทั้งหมด แต่ยังไม่สามารถสรุปหรือชี้ตัวบุคคลได้จนกว่าการสืบสวนจะเสร็จสมบูรณ์
"ปปง. จะเร่งดำเนินการให้ชัดเจนโดยเร็วที่สุด พร้อมขอความเชื่อมั่นจากประชาชนว่า “ปปง. ทำงานเต็มที่ ไม่ปล่อยให้เครือข่ายอาชญากรรมเคลื่อนย้ายเงินผิดกฎหมายได้อย่างเสรีในประเทศไทย" นายกมลสิษฐ์ ระบุ
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : เชื่อ "เฉิน จื้อ" มี ทรัพย์สินในไทย หวั่นโยกทรัพย์สินหนี ชี้ส่งออก "ทองล็อตมโหฬาร" ผ่านไทยไป "กัมพูชา" คาดเอี่ยว "ธุรกิจสีเทา"