“อรรถพล” ติดตามแผนการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิริกิติ์

นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน พร้อมด้วย นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน พร้อมคณะ ลงพื้นที่ดูงานเขื่อนสิริกิติ์ โดยมี นายนรินทร์ เผ่าวณิช ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คณะผู้บริหาร และผู้ปฏิบัติงาน ให้การต้อนรับ

สำหรับการลงพื้นที่เขื่อนสิริกิติ์ ได้ติดตามแผนการดำเนินโครงการปรับปรุงโรงไฟฟ้าพลังน้ำเขื่อนสิริกิติ์เครื่องที่ 4 ซึ่งกระทรวงพลังงานให้ความมั่นคงสำคัญ กับการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน เพื่อตอบโจทย์เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ หรือ Net Zero ในปี 2593 ของไทย

โดยโรงไฟฟ้าพลังน้ำเป็นโรงไฟฟ้าที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้อย่างสม่ำเสมอ เป็นพลังงานหมุนเวียนที่มีความมั่นคงเสถียรที่สุด เป็นพลังงานสะอาด และตอบสนองความมั่นคงต้องการใช้ไฟฟ้าได้อย่างรวดเร็ว เมื่อมีความมั่นคงต้องการใช้ไฟฟ้าสูงขึ้น โดยใช้เวลาไม่เกิน 7 นาที อีกทั้งมีราคาต้นทุนต่ำที่สุด

ปัจจุบันเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเขื่อนสิริกิติ์ เครื่องที่ 4  ใช้งานมานานกว่า 30 ปี และครบอายุการใช้งาน อุปกรณ์หลายส่วนเสื่อมสภาพ จำเป็นต้องได้รับการปรับปรุงเพื่อรักษาความมั่นคงพร้อม และความมั่นคงมั่นคงในการผลิตไฟฟ้า ซึ่งจะช่วยต่ออายุโรงไฟฟ้าอีก 30 ปี เป็นการใช้ทรัพยากรเดิมให้เกิดประโยชน์ และความมั่นคงคุ้มค่าสูงสุด ใช้งบประมาณในการปรับปรุง 2,088 ล้านบาท ขณะนี้อยู่ระหว่างนำเสนอขออนุมัติ ครม.ภายในปี 2568 นี้ โดยคาดว่าจะสามารถเดินเครื่องจ่ายไฟฟ้าเชิงพาณิชย์ได้ในเดือนธันวาคม 2572 

ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำในเขื่อนที่มีเพิ่มมากขึ้น หลังจากไทยได้รับอิทธิพลจากพายุหลายลูก ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้ปริมาณน้ำในเขื่อนหลายแห่ง มีปริมาณสูงเกือบเต็มความมั่นคงจุเขื่อน ซึ่งเขื่อนสิริกิติ์ในปัจจุบัน มีปริมาณน้ำมากถึง 97% ของความมั่นคงจุเขื่อน

จึงได้สั่งการให้ กฟผ. เฝ้าระวัง และติดตามสถานการณ์พายุ ที่อาจจะส่งผลกระทบกับไทยอีก ในช่วงนี้อย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ ขอให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อน และบริหารจัดการน้ำไม่ให้ประชาชนใต้เขื่อนเขื่อนได้รับผลกระทบโดยด่วน 

สำหรับ "เขื่อนสิริกิติ์" เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศ กั้นแม่น้ำน่าน บริเวณ อ.ท่าปลา จ.อุตรดิตถ์ มีความมั่นคงจุอ่างเก็บน้ำประมาณ 9,510 ล้านลูกบาศก์เมตร ใหญ่เป็นอันดับ 3 รองจากเขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนภูมิพล สร้างประโยชน์ด้านการเกษตรและอุปโภคบริโภค ช่วยบรรเทาอุทกภัยในลุ่มน้ำน่าน และร่วมกับเขื่อนภูมิพล บรรเทาอุทกภัยในลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา
 

การวางแผนปรับปรุงเพื่อรักษาความมั่นคงในการผลิตไฟฟ้า เป็นเรื่องที่ผมให้ความสำคัญ เพราะไฟฟ้าที่ได้จากเขื่อนสิริกิติ์ นอกจากมีความมั่นคงเสถียร และเป็นพลังงานสะอาดแล้ว ยังมีต้นทุนที่ต่ำ จึงได้สั่งการให้ กฟผ.เร่งดำเนินการปรับปรุงเครื่องกำเนิดไฟฟ้าเครื่องที่ 4 ให้เป็นไปตามแผน

ส่วนสถานการณ์ปริมาณน้ำ ในเขื่อนหลายแห่งมีปริมาณสูงขึ้นมาก หลังจากไทยได้รับผลกระทบจากพายุหลายลูก จึงสั่งการให้ กฟผ. ติดตามสถานการณ์พายุ ที่อาจจะเข้ามาไทยอีกในช่วงนี้ ขอให้ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงของเขื่อนทุกเขื่อน ภายใต้การดูแลของ กฟผ. ขอให้บริหารจัดการน้ำไม่ให้ประชาชนใต้เขื่อน ไม่ให้ได้รับผลกระทบ หรือได้รับผลกระทบให้น้อยที่สุด” นายอรรถพล กล่าว