สถานทูตไทยในฮังการี ชู "พลังหญิง" ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ "อาหาร - มวย" (มีคลิป)

3 พฤศจิกายน 2568 ภารกิจแรกของ “ประธานวันนอร์” วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา และประธานสภาสถาบันพระปกเกล้า พร้อมด้วย รศ.ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ เลขาธิการสถาบันพระปกเกล้า พร้อมคณะ ในการเดินทางเยือนประเทศฮังการีอย่างเป็นทางการ ระหว่างวันที่ 2-6 พฤศจิกายน คือ การไปเยี่ยมสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ 

โดยทางสถานทูต นำโดย คุณพรหเมศ พหลพลพยุหเสนา เอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ พร้อม “ทีมไทยแลนด์” ได้จัดเลี้ยงอาหารค่ำให้กับคณะของประธานรัฐสภา พร้อมหารือข้อราชการร่วมกันหลากหลายประเด็น โดยเฉพาะบทบาทของ “ทีมไทยแลนด์” ในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจเชิงรุกและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับประเทศไทยตามนโยบายของรัฐบาล

ความน่าสนใจของสถานทูตไทยที่นี่ คือ การใช้ “ซอฟต์พาวเวอร์ไทย” เป็นใบเบิกทางในการประชาสัมพันธ์เมืองไทย และส่งเสริมภารกิจในทุกมิติที่ฮังการี

ซอฟต์พาวเวอร์สำคัญที่นำมาใช้ คือ “ความเป็นผู้หญิงไทย” โดยภรรยาของท่านทูตพรหเมศ ได้ดำรงตำแหน่งเป็นประธานสมาคมคู่สมรสนักการทูตที่ฮังการี ทำให้มีโอกาสจัดกิจกรรมด้านคู่สมรสอยู่เป็นระยะ มีการผสมผสานกิจกรรมเข้ากับงานประจำปีของสถานทูตที่เชื่อมโยงกับประเพณีและวัฒนธรรมไทย เช่น สงกรานต์ ลอยกระทง โดยบางกิจกรรมมีภริยาของประธานาธิบดีฮังการี มาเป็นประธานเกียรติยศด้วย ทำให้กิจกรรมของสถานทูตด้านที่เกี่ยวกับ “คู่สมรส” ได้รับความสนใจจากสถานทูตนานาประเทศ​ และสื่อมวลชนในฮังการีอย่างกว้างขวาง 

สำหรับซอฟต์พาวเวอร์ที่เน้นเป็นพิเศษ คือ อาหารไทย กับมวยไทย ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาก็ได้จัดกิจกรรมโปรโมทอาหารไทย โดยเชิญภรรยาทูตประเทศต่างๆ มาทดลองทำอาหารไทย และลองชิมอาหารไทย พร้อมสอดแทรกความรู้ให้ผู้ร่วมงานเข้าใจอาหารไทยมากยิ่งขึ้น 

นอกจากนั้นยังมีการจัดงาน Thai Food Week ร่วมกับโรงแรมอนันตรา บูดาเปสต์ โดยนอกเหนือจากการจัดแสดงการทำอาหารแล้ว ยังมีการฝึกอบรมทำอาหารไทย โดยเชิญเชฟชื่อดังจากเมืองไทยมาอบรมเชฟท้องถิ่น หรือเชฟโรงแรมต่างๆ ในฮังการี เพื่อพัฒนารสชาติและคุณภาพอาหารไทยให้ถึงระดับ Fine dining ซึ่งไม่ได้มีแค่ผัดไทย กับต้มยำกุ้งเท่านั้น 

ปัญหาที่ผ่านมา คือ มีการเปิดร้านอาหาร ใช้ชื่อว่า “ร้านอาหารไทย” จำนวนไม่น้อย แต่เจ้าของและเชฟกลับไม่ใช่คนไทย ทำให้รสชาติผิดเพี้ยน เช่น ผัดไทยใส่ซอสมะเขือเทศ เป็นต้น ทางสถานทูตจึงมีโครงการฝึกอบรมเพื่อยกระดับทั้งคุณภาพและรสชาติแบบไทยจริงๆ ขึ้นมา และระหว่างเสิร์ฟอาหาร ก็มีการแสดงนาฏศิลป์ สร้างความสนใจด้านศิลปะการแสดงทางวัฒนธรรมของไทยไปพร้อมกันด้วย 

ส่วน ”มวยไทย“ ก็เพิ่งร่วมกับโรงแรมอนันตรา บูดาเปสต์ จัดงานมวยไทยแบบ ”กาล่า“ (คล้ายๆ กาล่า ดินเนอร์) โดยนำเวทีมวยไทยไปอยู่ในห้องบอลรูมของโรงแรมห้าดาว และแข่งขันชกมวยไทยกันจริงๆ สร้างความตื่นตาตื่นใจอย่างมาก โดยทางฮังการีได้คัดนักมวยของตัวเองมาต่อยกับนักมวยไทย ทำให้คนฮังกาเรียนยิ่งให้ความสนใจมากขึ้นไปอีก

สำหรับประเทศฮังการี มีคนไทยพำนักอยู่ราวๆ 4,500 คน มีนักศึกษาไทยมาศึกษาต่อ 200 คน และมีร้านนวดไทยมากกว่า 400 ร้าน แต่ก็มีบางส่วนที่ไม่ใช่ของคนไทยจริงๆ เป็นของคนจีนบ้าง เวียดนามบ้างก็มี 

สำหรับไทยกับฮังการีมีความสัมพันธ์ที่ดีต่อกันมายาวนานถึง 156 ปี ตั้งแต่ยุคที่ยังเป็น “จักรวรรดิออสเตรีย-ฮังการี” และได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อ 24 ตุลาคม 2516 ในปีนี้จึงครบ 52 ปี 

สำหรับสถานทูตไทย ณ กรุงบูดาเปสต์ ยังรับผิดชอบประเทศในแถบยุโรปกลางและใกล้เคียงอีก 3 ประเทศ คือ โคโซโว บอสเนีย และมอนเตเนโกร 

“วันนอร์“ แนะรุกตลาด ”นวดแผนไทย“ รับสังคมสูงอายุ

ด้าน ประธานวันนอร์ กล่าวว่า สนับสนุนให้เปิดตลาดสินค้าและบริการของไทยในยุโรปกลาง ซึ่งถือเป็นโอกาสในการเปิดตลาดที่ใหม่จริงๆ และเห็นด้วยกับการส่งเสริมเผยแพร่ซอฟต์พาวเวอร์ไทย โดยตนอยากให้ขับเคลื่อนเรื่อง “นวดแผนไทย” อย่างจริงจัง โดยต้องเป็นการนวดแบบไทยแท้ๆ เพราะน่าจะสอดรับกับสถานการณ์ปัจจุบันที่เป็นสังคมผู้สูงอายุด้วย 

ภาพและข้อมูลจากเพจเฟซบุ๊ก Royal Thai Embassy,Budapest 

ดูคลิป