svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"กกต." ประกาศพร้อมจัด "เลือกตั้ง" ควบ "ประชามติ"

"กกต." ขอเวลา 75 วัน เตรียม "เลือกตั้ง สส." ควบ "ทำประชามติ" เป็นครั้งแรกของคนไทย

30 ตุลาคม 2568 ที่โรงแรมเซ็นทาราไลฟ์ ศูนย์ราชการ แจ้งวัฒนะ นายแสวง บุญมี เลขาธิการคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ​ กกต.​ กล่าวถึงประเด็นการเตรียมการเลือกตั้ง ว่า กกต.มีความพร้อมในการจัดการเลือกตั้งทั่วไป พร้อมการทำประชามติ​ร่างแก้ไข​รัฐธรรมนูญ​และ​การยกเลิก​ MOU 43-44 แต่​ ก​กต.เป็นเพียงปลายทางที่ต้องรอความพร้อม​ หลังรัฐบาลและรัฐสภา​ ตัดสินใจและประสานการดำเนินการ จึงยังไม่สามารถตอบกำหนดการ "วัน-เวลา" ได้ชัดเจน

 

"กกต." ประกาศพร้อมจัด "เลือกตั้ง" ควบ "ประชามติ"

 

 

 

 

 

แต่ทั้งนี้ตาม MOA มีเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย โดยมี 3 หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  คือ รัฐสภา ส่งเรื่องให้ ครม.และครม.ส่งมายังกกต.จึงจะจัดให้มีการทำประชามติได้ รัฐสภาจึงต้องใช้เวลา ดังนั้นจึงยังบอกไม่ได้ว่าจะทำประชามติได้ตามเวลาหรือไม่ตามเงื่อนเวลาที่เหลืออยู่

 

"กกต." ประกาศพร้อมจัด "เลือกตั้ง" ควบ "ประชามติ"

 

"กกต." ประกาศพร้อมจัด "เลือกตั้ง" ควบ "ประชามติ"

 

"กกต." ประกาศพร้อมจัด "เลือกตั้ง" ควบ "ประชามติ"

 

 

แต่ทั้งนี้สำนักงานมีความพร้อม หากต้องการจัดการทำประชามติ และเลือกตั้งพร้อมกัน เพราะสามารถใช้หน่วยเลือกตั้งรวมกันได้ตามกฎหมายใหม่ โดยขึ้นอยู่กับว่ารัฐสภา ครม.และกกต.ร่วมกัน จัดสรรเวลา ให้ไม่น้อยกว่า 60 วันและไม่เกิน 150 วัน

ซึ่งทาง กกต.ได้แจ้งไปยังคณะรัฐมนตรีว่าขอเวลา 75 วัน โดยเฉพาะการจัดทำประชามตินั้นจะต้อเผยแพร่ข้อมูล ให้ประชาชนได้รับรู้และทำความเข้าใจ ซึ่งต้องเป็นเนื้อหาที่เข้าใจง่าย ไม่ใช้ภาษากฎหมาย เพื่อที่จะประชาชนได้ตัดสินใจในขณะเดียวกันก็ต้องเปิดเวทีแสดงความคิดเห็นด้วย แต่ในส่วนนี้กกต.ไม่ได้เป็นคนจัดทำเนื้อหา 

 

ส่วนบัตรเลือกตั้ง ต้องจัดสรรว่าจะต้องใช้กี่บัตร ทั้งการเลือกตั้ง สส. เขตและบัญชีรายชื่อ ส่วนบัตรของการทำประชามติสามารถลดบัตรลงเหลือ 1  ใบได้ ตามรัฐธรรมนูญ ดังนั้นการให้ข้อมูลและการให้ความเห็นจะเพียงพอที่จะทำให้ประชาชนตัดสินใจตามความต้องการได้หรือไม่ ก็ต้องทำข้อมูลให้ประชาชนเข้าใจและถูกต้องและส่งไปยังแต่ละบ้าน ก่อนที่จะออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เช่นเดียวกับการส่งรายชื่อผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งในการทำข้อมูลดังกล่าวจะต้องยึดหลักของประชามติคือไม่ชี้นำ เสมอภาค เป็นธรรม 

ส่วนเรื่องงบประมาณ ยืนยันว่าเราใช้จ่ายงบประมาณตามหลักของกฎหมายและโปร่งใส ซึ่งหากวันเลือกตั้งมีการทำประชามติร่วมด้วย งบประมาณจะสูง เพราะหน่วยเลือกตั้ง เพิ่มขึ้นจาก 90,000 กว่าหน่วยเป็น 120,000 หน่วย และในครั้งนี้ จะเป็นครั้งแรกที่คณะกรรมการประจำหน่วยจะได้รับค่าแรงเพิ่ม เนื่องจากเจ้าหน้าที่จะต้องใช้เวลาทำงานตั้งแต่ 06.00-23:00 น. หรือกว่า 17 ชม.อีกทั้งมีจำนวนคนที่เพิ่มขึ้นตกหน่วยละประมาณ 14 คน จำนวนหีบบัตรเพิ่มมากขึ้น จำนวนบัตรเพิ่มขึ้น งบประมาณจึงลงไปที่หน่วยเลือกตั้ง จำนวนมาก นอกจากนี้ยังมีการเลือกตั้งล่วงหน้า และต่างประเทศงานของกระทรวงการต่างประเทศก็จะเพิ่มขึ้น รวมถึงเพิ่มภาระงานในการรับในการนับคะแนนการทำประชามติในต่างประเทศด้วย แต่บัตรเลือกตั้งสส.ยังต้องส่งมานับคะแนนที่ไทยอยู่

นายแสวง ยังกล่าวว่า การทำประชามติจะไม่มีการทำล่วงหน้า แต่สามารถไปทำประชามติในหน่วยใกล้บ้านได้ในวันเลือกตั้ง โดยที่ไม่ต้องกลับไปที่ภูมิลำเนา  ดังนั้นในวันเลือกตั้งจึงมีทั้งคนที่มาลงคะแนนทั้งเลือกตั้งสส.และทำประชามติ และมีทั้งคนที่มาเฉพาะการทำประชามติ เพราะได้เลือกตั้งล่วงหน้าไปแล้ว อย่างไรก็ตามในเรื่องนี้ กกต.ได้มีการประชุมเตรียมขั้นตอน การเลือกตั้งและการทำประชามติแล้ว และได้มีการจำลองการเลือกตั้งในวันนั้น และการนับคะแนนโดย เบื้องต้นจะให้ผู้ใช้สิทธิ์ ใช้สิทธิ์เลือกตั้งสส.ก่อน ก่อนที่จะวนมาใช้สิทธิ์ ทำบัตรประชามติ 

ทั้งนี้ ในวันที่นายกฯมาหารือกับ กกต.เป็นการหารือนอกรอบ ตามกฎหมาย จะต้องมีการหารือกับ ครม.อีก 2 ครั้ง ครั้งแรกคือเมื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จแล้วส่งมายัง ครม. จากนั้น กกต.ก็จะมีการหาโดยร่วมกัน จะเป็นการหารือเรื่องงบประมาณ ในการจัดการเลือกตั้งซึ่งตามเวลาของรัฐบาลตอนนี้เป็นปลายปิด ที่กำหนดการเลือกตั้งไว้ที่วันที่ 29 มีนาคม 69 เมื่อกำหนดเวลาปกติมาเช่นนี้จะมาบีบให้เราจัดการเลือกตั้งภายใน 60 วัน นั้นสามารถทำได้แต่เหนื่อย ฉะนั้นรัฐสภา กับครม.ต้องจัดสรรเวลาเพื่อให้เวลา กกต.ในการทำงานด้วย อย่างน้อย 75 วัน ซึ่งประเด็นที่สำคัญจะอยู่ที่การจัดทำประชามติ และ ไม่แน่ว่าอาจจะต้องมีการจัดทำประชามติ MOU43-44 ด้วย ดังนั้นหากมีการตามประชามติเรื่องเหล่านี้ด้วยก็จะต้องบริหารจัดการเวลาให้ได้เป็นอย่างดี ซึ่ง กกต.ได้วาง การบริหารจัดการการนับคะแนนให้แล้วเสร็จไม่เกิน 23:00 น. เพราะเรามีบทเรียนมาแล้ว

 

"สมมุติตามข่าว จะเลือกตั้ง 29 มีนาคม แต่เราบอกเราขอเวลา 75 วัน ดังนั้น รัฐสภา กับ ครม.จะต้องจัดสรรเวลาให้เหมาะสม เพื่อให้ กกต.ได้มีเวลาทำงาน ซึ่งหากรัฐสภาดำเนินการล่าช้าวันเลือกตั้ง 29 มีนาคมก็จะต้องเลื่อนออกไป" นายแสวง กล่าว

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหากนับย้อน จากวันที่ 29 มีนาคม 2569 ที่รัฐบาลได้วางโรดแมพเลือกตั้งไว้ ดังนั้นรัฐบาลจะต้องส่งคำถามประชามติให้ กกต.ก่อนวันที่ 13 มกราคม 2569 เพื่อเริ่มการดำเนินงานของ กกต.ทั้งหมดภายใน 75 วัน ซึ่งจะสอดคล้องกับการแก้รัฐธรรมนูญของรัฐสภาที่วางไทม์ไลน์ไว้ว่าจะแล้วเสร็จในช่วงกลางธันวาคม 2568