
28 ตุลาคม 2568 จากการลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ หรือแร่หายาก ระหว่าง ไทย-สหรัฐ ที่ถูกตั้งข้อสังเกตจากหลายฝ่ายว่า จะทำให้ไทยเสียเปรียบ และหากมีการลงทุนจริงจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
ล่าสุด นายกัณวีร์ สืบแสง สส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเป็นธรรม ตั้งข้อสังเกตถึงผลกระทบจากการลงนาม MOU แรร์เอิร์ธ ว่า
1. MOU แรร์เอิร์ธ ได้ไม่คุ้มเสีย เสียเปรียบมากกว่าได้ จะมีปัญหามลพิษข้ามแดน ยังแก้ไม่ตก จากการทำเหมืองแรร์เอิร์ธในเมียนมา และไทยได้รับผลกระทบ
2. เนื้อหาใน MOU คือ พัฒนาความหลากหลายทาง “ห่วงโซ่อุปทาน” เป็นประเด็นที่น่ากังวล
ความหมาย “ห่วงโซ่อุปทาน” ครอบคลุมตั้งแต่… การหาทรัพยากรต้นทาง ผลิตอย่างไร กระบวนการผลิตต้องทำอย่างไร นำแรงงานมาทำงานอย่างไร ส่งออกไปไหน อย่างไร การตลาดทำอย่างไร
“ห่วงโซ่อุปทาน” คือทั้งสายการผลิตและจำหน่าย ตั้งแต่ศึกษาวิจัย เปิดตลาด รวมถึงการนำเข้ามาจากเมียนมา แล้วส่งออก ก็เข้าข่ายทั้งหมด ไม่ได้จำกัดแค่ผลิตเอง แปลว่าความหมายกว้างขวางมาก
3.การพัฒนาเป็นเรื่องดี ไม่ได้ค้านจุดนี้ และแม้ MOU จะยังสรุปไม่ได้ว่าเสียเปรียบหรือไม่ แต่ก่อนทำ MOU ควรต้องดูเรื่องผลกระทบในพื้นที่ด้วย โดยเฉพาะมลพิษข้ามแดน ประชาชนในหลายภูมิภาคของไทยมีความเป็นห่วงกังวลอย่างมาก
“ก่อนทำ MOU ควรขอให้สหรัฐร่วมมือ ช่วยเหลือแก้ไขเรื่องมลพิษข้ามแดนก่อนหรือไม่ เช่นคุยกับจีน กดดันเมียนมา”
4. ไทยตกเป็นเครื่องมือในเกมการเมืองระหว่างประเทศหรือไม่ เพราะจีนครอบครอง ควบคุมการผลิตแร่แรร์เอิร์ธ 60-70% ของโลก
- จากเอ็มโอยูที่ทำกับสหรัฐ แม้ไม่ถึงกับไทยทิ้งจีน แต่เหมือนกับไทยช่างเลือก และเลือกข้างสหรัฐฯ
- MOU แรร์เอิร์ธ เหมือนเป็นออปชั่นต่อเนื่องจากปฏิญญาร่วมไทย-กัมพูชา
- ต้องไม่ลืมว่า 4 ข้อที่เป็นเงื่อนไขไทยในปฏิญญาร่วมฯ ในข้อ 3 เรื่องอาชญากรรมข้ามชาติ จีนเกี่ยวข้องโดยตรง เมื่อมาต่อที่เรื่องแรร์เอิร์ธ จีนก็เกี่ยวข้อง ผู้ลงทุนคือจีน ฉะนั้นเมื่อไทยไปเซ็นสัญญากับสหรัฐฯ ย่อมทำให้จีนรู้สึกไม่สบายใจ เหมือนกับไทยจะพูดเรื่องหนึ่ง แล้วไปทำอีกเรื่องหนึ่งด้วย ถือเป็นเรื่องใหญ่ โดนัลด์ ทรัมป์ มาร่วม แล้วจีนไม่มาร่วม
“โลกทั้งใบกำลังวิ่งเข้าหาแร่แรร์เอิร์ธ แล้วเราไปวิ่งตามสหรัฐฯ ไทยจะถูกตั้งคำถามจากจีนหรือไม่ว่าเราเปิดประตูแบ่งปันทรัพยากรกับสหรัฐฯ แต่ไม่ได้ทำอะไรกับจีน”
5. เรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเวทีสาธารณะ ปรึกษาหารือ กับภาคประชาชน ภาคประชาสังคมที่ต่อต้าน การทำ MOU แบบนี้ ทำให้ไม่สบายใจ เหมือน MOU 43-44 รัฐบาลก็ทำฝ่ายเดียว พอจะยกเลิก ก็ให้ไปถามประชามติ แต่วันนี้ไปทำ MOU แรร์เอิร์ธ ทำไมไม่ถามประชาชนก่อน หรืออย่างน้อยปรึกษาสภาก่อน จะทำให้เห็นความโปร่งใสของรัฐบาลยิ่งขึ้น
“ผมเชื่อว่ารัฐบาลไม่รู้จริงๆ เป็นการต่างตอบแทนที่ลดภาษีนำเข้าสหรัฐหรือไม่ ก็เลยทำตามที่สหรัฐฯเสนอ รัฐบาลอาจคิดแค่นี้ ไม่ได้คิดลึก จึงไม่ได้ถามประชาชนก่อน
6.ยืนยันไม่เสียใจหรือผิดหวังที่โหวตเลือก คุณอนุทิน ชาญวีรกูล เป็นนายกฯ และจัดตั้งรัฐบาลภูมิใจไทย เพราะได้คุยกันก่อนแล้วว่า ขอ 2 เรื่อง คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญก่อนยุบสภา และแก้ไขสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ให้นำไปสู่สันติภาพ ซึ่งนายอนุทิน ทำทั้ง 2 เรื่องตามที่สัญญาไว้แล้ว
“แต่จะทำ 100% หรือไม่ เราบังคับไม่ได้ หรือรัฐบาลจะไปทำเรื่องอื่นด้วย ก็บังคับไม่ได้ แต่ในฐานะที่เป็นฝ่ายค้าน ก็จะตรวจสอบถ่วงดุล และทำหน้าที่ท้วงติงอย่างเต็มที่ต่อไป”