
27 ตุลาคม 2568 ดร.สนธิ คชวัฒน์ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อมและสุขภาพ โพสต์ข้อความว่า ประเทศ สหรัฐอเมริกาลงนามข้อตกลงการค้าและแร่หายาก(แรร์เอิร์ธ) กับ 4 ประเทศคู่ค้าในอาเซียนรวมทั้งประเทศไทย
1.แร่หายาก(Rare earths) คือ กลุ่มธาตุโลหะ 17 ชนิด ซึ่งประกอบด้วยแลนทาไนด์ 15 ชนิด ร่วมกับสแกนเดียมและอิตเทรียม ธาตุเหล่านี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ เช่น อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ รถยนต์ไฟฟ้า และระบบป้องกัน แม้ชื่อจะบ่งบอกว่า "หายาก" แต่ธาตุเหล่านี้กลับไม่หายากในเปลือกโลกเท่าใดนัก แต่มีความเข้มข้นต่ำ
การทำเหมืองและสกัดให้บริสุทธิ์ทำได้ยากและมีค่าใช้จ่ายสูง คุณสมบัติทางแม่เหล็ก เคมี และไฟฟ้าที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ธาตุเหล่านี้ขาดไม่ได้สำหรับหลายการใช้งาน
2.การทำเหมืองแร่ธาตุหายากใช้วิธีการแบบดั้งเดิม เช่น การทำเหมืองแบบเปิด (open-pit) หรือการทำเหมืองใต้ดิน เพื่อสกัดเอาแร่ จากนั้นจะนำมาบด สกัดและทำให้เข้มข้นเพื่อแยกธาตุหายาก (rare earth elements) ออกจากแร่ชนิดอื่น กระบวนการนี้ใช้พลังงานและน้ำเป็นจำนวนมาก และอาจก่อให้เกิดของเสียอันตรายที่มีธาตุกัมมันตรังสี เช่น แร่ทอเรียมและยูเรเนียม แม้ว่าธาตุหายากจะมีความสำคัญต่อเทคโนโลยีสมัยใหม่ แต่การทำเหมืองและการแปรรูป ก็ก่อให้เกิดความเสียหายต่อสิ่งแวดล้อมอย่างมาก ทั้งการปนเปื้อนของน้ำ มลพิษทางอากาศ และการกัดเซาะหน้าดิน
3.การขุดแร่หายากส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมหลายด้าน ทั้งการปนเปื้อนของน้ำ และดินจากสารเคมี และกากแร่ที่มีกัมมันตรังสี , การปล่อยฝุ่นและก๊าซอันตราย , การทำลายป่าและถิ่นที่อยู่ของสัตว์ , และการใช้น้ำปริมาณมาก ปัญหานี้รุนแรงขึ้นจากกระบวนการขุดและแปรรูปที่ต้องใช้สารเคมีจำนวนมาก ซึ่งก่อให้เกิดของเสียและมลพิษในระยะยาว