svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ไชยชนก” สั่งการ คกก. มาตรา 13 ฉีดยาแรง รุกปราบโจรออนไลน์

“ไชยชนก” สั่งการ คกก.ตามมาตรา 13 ฉีดยาแรง อัดแผนเชิงรุก ลุยปราบโจรออนไลน์ อย่างเป็นรูปธรรม ประสาน กสทช.-ธปท.จัดเจ้าหน้าที่ประจำศูนย์บริหารเหตุการณ์

24 ตุลาคม 2568 นายไชยชนก ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการ ประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตาม พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามการอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรา 13 ครั้งที่ 6/2568 ร่วมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อหารือการดำเนินงานตามนโยบายของ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ที่กำหนดให้การปราบปรามภัยออนไลน์ เป็นวาระแห่งชาติ

 

นายไชยชนก เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ให้ความสำคัญ และจริงจังกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ สแกมเมอร์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และการพนันออนไลน์ โดยยกระดับการจัดการปัญหานี้เป็น “วาระแห่งชาติ” เช่นเดียวกันกับประเทศต่างๆทั่วโลก ซึ่งจะต้องมีการบูรณาการข้อมูลและการทำงานร่วมกันของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ปรากฏผลการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม

ไชยชนก ชิดชอบ

 

ทั้งนี้ ตนได้สั่งการให้มีเพิ่มการดำเนินการเชิงรุกมากยิ่งขึ้น โดยขอความร่วมมือจากสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จัดให้มีเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการใน “War Room” ศูนย์บริหารเหตุการณ์ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ และค้ามนุษย์นานาชาติ (ศกต.) หรือ IAC เพื่อร่วมบูรณาการข้อมูล ในการป้องกันและปราบปรามแบบ Real Time อย่างทันท่วงที

 

พร้อมกันนี้ ได้มอบหมายให้ กสทช. พิจารณาแนวทางการควบคุมการใช้ซิมโทรศัพท์มือถือ โดยกำหนดหลักเกณฑ์ว่า บุคคลทั่วไปสามารถถือครองซิมของผู้ให้บริการเครือข่าย (โอเปอเรเตอร์) ทั้งหมดได้จำนวนไม่เกิน 5 หมายเลข/คน และบทลงโทษโอเปอเรเตอร์หากมีการละเว้นไม่ปฏิบัติ

“ไชยชนก” สั่งการ คกก. มาตรา 13 ฉีดยาแรง รุกปราบโจรออนไลน์

 

นอกจากนี้ยังมอบหมายให้ ธปท.กำหนดมาตรการเชิงรุกการป้องกันและปราบปรามบัญชีม้า โดยป้องกันการกระทำความผิดซ้ำ เช่น การกำหนดจำนวนบัญชีในรายบุคคล โดยอาจมีการพิจารณาให้เปิดบัญชีตามเหตุผลและเงื่อนไขความจำเป็น โดยพิจารณากำหนดแนวทางให้บุคคลที่เกี่ยวข้องกับบัญชีม้า สามารถมีบัญชีเพื่อการยังชีพได้เพียง 1 บัญชี และหากกระทำความผิดซ้ำ ให้มีการยกเลิกบัญชีธนาคารของบุคคลนั้นทันที

 

ขณะเดียวกันได้มีการหารือเพื่อการปรับปรุงแก้ไข พ.ร.ก.มาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทาง ฉบับที่ 2 ปี พ.ศ.2568 ซึ่งได้รับการปรับปรุงแก้ไขมาจากฉบับที่ 1 พ.ศ.2566 โดยเน้นให้ความสำคัญ ในการ “ป้องกัน ปราบปราม และตอบโต้” การก่ออาชญากรรมออนไลน์ โดยเน้นการกำกับดูแลตามหลักเกณฑ์ และมีบทลงโทษที่มีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น

 

“ไชยชนก” สั่งการ คกก. มาตรา 13 ฉีดยาแรง รุกปราบโจรออนไลน์

 

“ขณะนี้รัฐบาลนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล ได้กำหนดให้การปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงการยกระดับความสำคัญ และเอาจริงเอาจังกับเรื่องดังกล่าว ในส่วนของ คกก.ตาม พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี มาตรา 13 ตนได้มอบหมายให้แต่ละหน่วยงาน เร่งรัดกำหนดมาตรการเชิงรุก และเดินหน้าแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อประชาชนอย่างจริงจัง โดยให้มีการประชุมติดตาม และตรวจสอบผลการดำเนินงานทุกสัปดาห์ พร้อมทั้งบังคับใช้กฎหมายขั้นรุนแรงอย่างถึงที่สุด หากตรวจสอบพบว่าข้าราชการ เจ้าหน้าที่ มีส่วนเกี่ยวข้องกับสแกมเมอร์” นายไชยชนก กล่าวในตอนท้าย

 

“ไชยชนก” สั่งการ คกก. มาตรา 13 ฉีดยาแรง รุกปราบโจรออนไลน์