svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

นายกฯ ใส่ใจภัยไซเบอร์ ตั้งระดับบิ๊กร่วมแก้ปัญหาให้ประชาชน

"นายกฯ อนุทิน" รุกแล้ว! แก้ภัยไซเบอร์อย่างใส่ใจ ลงนามคำสั่งแต่งตั้งบิ๊กหลายหน่วยงาน มาร่วมทีมแก้ปัญหา ปราบสแกมเมอร์-ภัยไซเบอร์ ให้ประชาชน

16 ตุลาคม 2568 เมื่อวานนี้ (15 ตุลาคม) นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงนามในคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ 341/2568 แต่งตั้ง “คณะกรรมการอำนวยการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดอาชญากรรมทางเทคโนโลยี” เพื่อวางยุทธศาสตร์กลางในการต่อสู้กับอาชญากรรมรูปแบบใหม่ ที่ขยายตัวรวดเร็ว ทั้งการหลอกลวงทางออนไลน์ การพนัน ฟอกเงินผ่านสินทรัพย์ดิจิทัล และข่าวปลอมที่กระทบต่อความมั่นคงของประเทศ
 

คณะกรรมการชุดนี้มีองค์ประกอบระดับ “บิ๊กเนม” ของประเทศ นำโดย
 

-นายกรัฐมนตรี อนุทิน ชาญวีรกูล เป็นประธาน

-นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เป็นรองประธานคนที่ 1

-รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดูแลระบบข้อมูลและโครงข่ายเทคโนโลยี

-พล.ต.อ. เพิ่มพูน ชิดชอบ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีและอดีตรัฐมนตรีร่วมเป็นกรรมการด้านนโยบาย

-พล.ต.ท. จิรภพ ภูริเดช ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ 

-ร.ต.อ. เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ DSI 

-ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ดูแลการไหลเวียนของเงินดิจิทัลและระบบการเงินที่อาจถูกใช้ฟอกเงิน

-เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อเชื่อมโยงการตรวจสอบธุรกรรมในตลาดทุน

นอกจากนี้ยังมีตัวแทนจาก ปปง. ปปท. กสทช. และปลัดหลายกระทรวงเข้าร่วม เป็นโครงสร้างที่รวมหน่วยการเงิน-ตำรวจ-เทคโนโลยีและความมั่นคง ไว้ในชุดเดียวกัน


            
            
            นายกฯ ใส่ใจภัยไซเบอร์ ตั้งระดับบิ๊กร่วมแก้ปัญหาให้ประชาชน
        

คำสั่งดังกล่าวระบุเหตุผลว่า การตั้งคณะกรรมการนี้ เพื่อให้การป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมไซเบอร์ดำเนินไปอย่างมีเอกภาพ และตอบสนองต่อสถานการณ์จริงได้ทันท่วงที เพราะขณะนี้รูปแบบการหลอกลวงออนไลน์ซับซ้อนขึ้น ทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ เว็บไซต์ปลอม และธุรกรรมคริปโตที่ใช้ฟอกเงิน

การผสมผสานผู้เชี่ยวชาญจากหลากหลายหน่วย ทำให้คณะกรรมการชุดนี้มีทั้ง “อำนาจ-ข้อมูล-เทคโนโลยี” อยู่ในมือ สามารถสั่งการเชื่อมต่อได้ตั้งแต่ระดับนโยบายถึงภาคปฏิบัติ

อย่างไรก็ตาม การตั้งคณะกรรมการระดับนายกรัฐมนตรีเช่นนี้ ถือเป็นสัญญาณชัดเจนว่า รัฐบาลอนุทินให้ความสำคัญกับการปกป้องประชาชนจากภัยออนไลน์ ซึ่งสร้างความเสียหายทางเศรษฐกิจหลายหมื่นล้านบาทต่อปี โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง เช่น ผู้สูงอายุและเยาวชน