
23 กันยายน 2568 ที่กองทัพบก พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจเยี่ยมศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ภายในกองทัพบก พร้อมร่วมร้องเพลงชาติกับเด็ก
พลโท บุญสิน กล่าวย้ำว่า แม้จะเกษียณอายุราชการในอีกไม่กี่วันข้างหน้านี้ ยืนยันว่าจะยังคงช่วยงานของกองทัพอย่างแน่นอน แม้ไม่ได้แต่งเครื่องแบบทหารแล้ว ยังสามารถเป็นที่ปรึกษาให้กับเพื่อนๆ ได้ พร้อมยืนยันว่าจะไม่ทำงานด้านการเมือง และที่ผ่านมา ตนได้เข้าไปพูดคุยกับนักศึกษามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อเราบอกว่าไม่ได้เล่นการเมือง เขาก็เปิดใจ พูดคุยกับเรา ยืนยันจะรักษาสถานภาพนี้ไปเรื่อยๆ ไม่เอาเรื่องการเมืองเข้ามายุ่ง พร้อมยอมรับมีคนติดต่อเข้ามา จะให้ตำแหน่งระดับสูงทางการเมือง แต่ไม่เอา เพราะมองว่าไม่ยั่งยืน
สำหรับการเตรียมความพร้อมการประชุม คณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค ไทย-กัมพูชา (RBC) ยังไม่ได้กำหนดวัน ส่วนการถอนอาวุธหนักออกจากพื้นที่ตามข้อตกลงการประชุมคณะกรรมการชายแดนทั่วไปไทย-กัมพูชา (GBC) ที่ให้รื้อกันภายใน 3 สัปดาห์ นั้น ยังไม่ได้มีการพูดคุยกัน ซึ่งยอมรับว่าเป็นสิ่งที่เขาพูดกันเอาไว้ แต่ก็ต้องรอดูสถานการณ์ และความจริงใจของกัมพูชาว่าเป็นอย่างไร
แม่ทัพภาคที่ 2 ยังย้ำว่า สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ว่าจะเป็นฝั่งของกองทัพภาคที่ 1 บ้านหนองจาน และบ้านหนอมหญ้าแก้ว อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว และพื้นที่กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด(กปจ.ชต.) ส่งผลต่อพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 เพราะเป็นเส้นเขตแดนเดียวกัน พื้นที่ที่มีส่วนเกี่ยวข้องก็ต้องเป็นนโยบายเดียวกัน และมีข้อระมัดระวังร่วมกัน
อีกทั้งยอมรับว่าการทำงานต่อจากนี้ของกองทัพในการปกป้องอธิปไตยชายแดนจะราบรื่นขึ้น เพราะได้รับความร่วมมือของทุกภาคส่วน ซึ่งนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี ก็สนับสนุนอยู่แล้ว พร้อมทั้งย้ำว่าทหารทำตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อปกป้องอธิปไตยและความมั่นคง รวมถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติ
ทั้งนี้ ไม่ห่วงสถานการณ์ในพื้นที่ แม้ใกล้เกษียณอายุราชการอีกไม่กี่วันข้างหน้า เพราะเราทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว ส่วนที่เหลืออาจมีบ้างเล็กน้อย หรือพื้นที่ไหนที่ยังไม่เรียบร้อย และเป็นหน้าที่ของแม่ทัพภาคที่ 2 คนใหม่ ที่จะต้องดำเนินการต่อ
เมื่อถามว่า ประชาชนมีความเป็นห่วงว่าอาจจะมีเหตุปะทะรอบ 2 พลโท บุญสิน กล่าวว่า เป็นเรื่องของสถานการณ์ ทุกอย่างที่จะเกิดขึ้นเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ เพื่อปกป้องอธิปไตย ซึ่งมันจะเกิดหรือไม่เกิด ก็ขึ้นอยู่กับสถานการณ์
เมื่อถามถึงกรณีที่กัมพูชาไม่ให้ความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิดในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 2 พลโท บุญสิน กล่าวว่า ไม่มีความร่วมมือ เพราะเขาวางเองแล้วจะมาเก็บทำไม ความเป็นภัยคุกคามของทหาร ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ซึ่งจะประสานกับคณะอนุกรรมการออตตาวา ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบ แต่มองว่ายาก
จากนั้น พลโทบุญสิน รับมอบสิ่งของ จากหน่วยงานรัฐและภาคเอกชน เพื่อนำไปช่วยเหลือทหารที่ปฏิบัติ ภารกิจสนามที่ชายแดนไทย-กัมพูชา
ต่อมาในเวลา 10.00 น. พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุม หน่วยขึ้นตรงกองทัพบก เพื่อสรุปสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา และชายแดนไทย-เมียนมา สถานการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ตลอดจนถึงการช่วยเหลือประชาชนที่ประสบอุทกภัย ในช่วงรอยต่อการปรับเปลี่ยนตำแหน่งสำคัญซึ่งจะมีผล 1 ต.ค. นี้