
3 คำร้อง “นิติสงคราม” ที่พรรคเพื่อไทยเตรียมเล่นงานศัตรูการเมือง ทั้งพรรคประชาชน และภูมิใจไทย โดยใช้บริการ “ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน นั้น
ดร.ณัฏฐ์” ณัฐวุฒิ วงศ์เนียม นักกฎหมายมหาชน
ล่าสุดวันนี้มีการนำคำร้องไปส่งถึงพรรคเรียบร้อยแล้ว / หลังจากนี้ต้องรอดู “ปฏิบัติการส่งด่วน” จากเพื่อไทย ที่จะดำเนินการทันทีหลัง ครม.ใหม่ได้รับโปรดเกล้าฯ และเข้าทำหน้าที่
มีประเด็นความสงสัยเกี่ยวกับข้อกฎหมาย โดยเฉพาะคำร้องที่ 2 ที่ยื่นถอดถอนหัวหน้าพรรคประชาชน และ สส.ของทั้ง 2 พรรคที่ร่วมโหวตหนุนคุณอนุทิน เป็นนายกฯ โดยยึดตาม MOA ที่ทำร่วมกันนั้น ผิดมาตรฐานจริยธรรมข้อไหน อย่างไร
เพราะคำร้องนี้ แตกต่างจากอีก 2 คำร้องแรกที่ค่อนข้างชัดเจนว่าฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรม หรือกระทำสุ่มเสี่ยงขัดรัฐธรรมนูญมาตราไหน / ที่สำคัญ เรื่อง MOA พรรคเพื่อไทยเองก็เคยประกาศยอมรับ แถมเพิ่มเงื่อนไขข้อตกลงให้เหนือกว่าภูมิใจไทย เรียกว่า “เกทัพบลัฟแหลก” อีกต่างหาก คือถ้าเลือกแคนดิเดตนายกฯของเพื่อไทย ได้รับโปรดเกล้าฯวันใด ยุบสภาวันนั้นเลย
หรือว่าการเพิ่มเงื่อนไข แปลว่าไม่ปฏิบัติตาม MOA ตัวเองจึงไม่ผิด ลอยตัว ลอยนวล
เราสอบถามจาก “ดร.ณัฏฐ์” ได้คำตอบว่า การปฏิบัติตาม MOA เป็นการทำงานการเมืองที่ขัดต่อมาตรฐานจริยธรรม 2 หมวด รวม 5 ข้อด้วยกัน คือ
หมวด 1 มาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นอุดมการณ์ หากฝ่าฝืน ถือว่าร้ายแรงทันที ผู้ถูกกล่าวหาต้องหลุดจากตำแหน่งทันที / ในส่วนนี้ มองว่าฝ่าฝืน 2 ข้อ คือ
ข้อ 7 ต้องถือผลประโยชน์ของประเทศชาติเหนือกว่าประโยชน์ส่วนตน
ข้อ 8 ต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต ไม่แสวงหาประโยชน์โดยมิชอบเพื่อตนเอง หรือผู้อื่น หรือมีพฤติการณ์ที่รู้เห็นหรือยินยอมให้ผู้อื่นใช้ตําแหน่งหน้าที่ของตนแสวงหาประโยชน์โดยมิชอบ
นอกจากนั้น ยังมีพฤติการณ์ฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอันเป็นค่านิยมหลัก อยู่ในหมวด 2 อีก 3 ข้อ ซึ่งในหมวดนี้ ให้อำนาจศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระพิจารณาว่าพฤติกรรมของการฝ่าฝืน มีลักษณะร้ายแรงหรือไม่ ได้แก่
ข้อ 11 ไม่กระทําการอันเป็นการขัดกันระหว่างประโยชน์ส่วนตนกับประโยชน์ส่วนรวม ทั้งนี้ไม่ว่าโดยทางตรงหรือทางอ้อม
ข้อ 17 ไม่กระทําการใดที่ก่อให้เกิดความเสื่อมเสียต่อเกียรติศักดิ์ของการดํารงตําแหน่ง
ข้อ 19 ไม่คบหาสมาคมกับคู่กรณี ผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพล หรือผู้มีความประพฤติ หรือผู้มีชื่อเสียงในทางเสื่อมเสีย อันอาจกระทบกระเทือนต่อความเชื่อถือศรัทธาของประชาชนในการปฏิบัติหน้าที่