svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“สิริน” แนะดึงแรงงานกัมพูชาในไทย ช่วยสื่อสารความจริงกับคนกัมพูชา

“สิริน” แนะดึงแรงงานกัมพูชาในไทย ช่วยสื่อสารข้อเท็จจริงกับคนกัมพูชา ชี้ชาวบ้านไม่ใช่ศัตรูของไทย แต่ถูกปิดกั้นต้องใช้ข้อมูลจริงสื่อสารกับโลก

นายสิริน สงวนสิน สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน กล่าวถึงปัญหาระหว่างไทยกับกัมพูชาว่า การที่ความขัดแย้งระหว่างไทยกัมพูชา ถูกยกระดับเป็นความรุนแรง ปฏิเสธไม่ได้ว่า สืบเนื่องมาจากภาวะผู้นำของสองประเทศเสื่อมถอย จึงมีการปั่นกระแสชาตินิยมมาใช้เป็นเครื่องมือ ความจริงแล้วสำหรับผู้คนทั้งสองประเทศ คือเพื่อนบ้านที่มีการไปมาหาสู่กันมาอย่างยาวนาน "ไม่ใช่ศัตรูกัน" พึ่งพาอาศัยกันทางเศรษฐกิจ และในบางพื้นที่ยังมีความเป็นเครือญาติกันด้วย จึงไม่มีเหตุผลเลยที่จะต้องจ้องเอาชีวิต หรือโกรธเกลียดฆ่าฟันกัน เพื่อตอบสนองความต้องการรักษาอำนาจตัวเองของผู้นำ
 

“สิ่งที่น่ากังวลสำหรับทั้ง 2 ประเทศคือ ความเกลียดชังที่ฝังลึกขึ้นเรื่อยๆ จากการหล่อเลี้ยงเมล็ดพันธุ์แห่งความเกลียดชัง มีการผลิตสร้างความรู้สึกผ่านสื่อต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นข่าวสาร หนังละคร รวมไปถึงบรรดาอินฟลูฯ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สำหรับรัฐบาลกัมพูชามีขบวนการสร้าง fake new อย่างแข็งแรง ที่รัฐบาลกับกัมพูชาทำมาทุกวิถีทาง เพื่อสร้างศัตรูร่วมให้กับชาติของตนเอง เหมือนในอดีตที่เคยทำมาแล้วจากการเต้าข่าวดาราชื่อดังของไทยว่าดูถูกคนกัมพูชา นำไปสู่การเผาสถานทูตไทยในกรุงพนมเปญ ขณะที่เหตุการณ์ปัจจุบัน คนกัมพูชาโดนรัฐบาลสวมความคิดให้เกลียดชังคนไทยไม่ต่างจากเดิม” 
 


นายสิริน สงวนสิน สส.กรุงเทพฯ พรรคประชาชน

นายสิริน กล่าวต่อไปว่า สิ่งที่ไทยต้องมีความหนักแน่นคือ การไม่ใช้ความรุนแรงเป็นแนวทางหลัก เพราะมีแต่จะสร้างประวัติศาสตร์บาดแผลต่อกันไปเรื่อยๆ ไม่เป็นผลดีต่อความสัมพันธ์ต่อสองประเทศในอนาคต ต้องยอมรับความจริงที่ว่า ทั้งสองประเทศมีพรมแดนติดกัน ไม่สามารถย้ายไปไหนได้ และความขัดแย้งมีแต่จะทำให้คนตามแนวชายแดนได้รับความลำบาก ความขัดแย้งครั้งนี้ควรต้องยุติโดยเร็ว แต่การที่จะเกิดขึ้นได้ รัฐบาลไทยจะต้องยกระดับการต่อสู้ด้วยข้อมูล และความจริงให้โลกรู้ รวมถึงต้องทำให้คนในกัมพูชาได้ข้อมูลที่เป็นจริง
 

“จริงอยู่ที่คนกัมพูชาอาจจะมีอิสระภาพมากกว่า แต่ภายใต้การปกครองและสืบทอดอำนาจภายในครอบครัวของผู้นำคนปัจจุบัน และจากที่ผมเคยได้คุยกับกับเพื่อนชาวกัมพูชาทำให้รู้สึกได้ว่า การรับรู้ข้อมูลข่าวสารของคนกัมพูชา แทบไม่ต่างกับคนที่อยู่ในประเทศเกาหลีเหนือ จึงโดนรัฐบาลครอบงำได้ไม่ยาก แม้แต่กรณีระเบิดใส่เซเว่น ลาวโดนลูกหลงจากระเบิด หรือแม้แต่การวางกับระเบิด ข่าวฝั่งโน้นที่เขาได้รับคนละแบบเราเลย ทุกกรณีถูกบอกว่าประเทศไทยเป็นคนทำหมด คนที่โน่นจึงไม่รู้อะไรจริงอะไรไม่จริง จนกลายเป็นขาดความเห็นอกเห็นใจและมองเห็นไทยเป็นศัตรูในทุกกรณี”

นายสิริน ทิ้งท้ายว่า การยกระดับการสื่อสารให้โลกรู้จึงเป็นสิ่งจำเป็น ที่ผ่านมารัฐบาลไทยยังทำน้อยเกินไป จนต่างประเทศก็เริ่มมองเราเป็นคนผิดเหมือนกัน เราต้องใช้ข้อมูลที่ชัดเจนยืนยันว่า ประเทศไทยถูกละเมิด MOU ไปแล้วกี่ครั้ง ในแต่ละกรณีใครยิงใครก่อน หรือใครเป็นคนวางกับระเบิด เพื่อหวังให้เหตุการณ์ไม่สงบดำเนินต่อไป และสิ่งสำคัญคือ เราจะต้องทำให้คนในประเทศกัมพูชาได้รับรู้ด้วย ข้อมูลจากฝั่งไทยควรมีการแปลและสื่อสารเป็นภาษากัมพูชา
 

อาจขอความร่วมมือให้แรงงานชาวกัมพูชาในไทย หรือคนไทยที่สามารถสื่อสารภาษากัมพูชาได้เป็นผู้ชื่อสื่อสาร เช่น การทำคลิปต่างๆ ในโซเชี่ยล เพื่อสร้างความเข้าใจต่อสถานการณ์ที่ตรงกัน ไม่ให้ใครนำสถานการณ์ไปปลุกปั่นกระแสชาตินิยมสร้างประโยชน์ให้ตัวเอง จนประชาชนทั้งสองประเทศต้องกลายเป็นผู้รับเคราะห์อย่างที่เป็นอยู่