เสียงสะท้อน! "คนชายแดนใต้" ผิดหวัง 2 ปี "รัฐบาลเพื่อไทย" สูญเปล่า

31 สิงหาคม 2568 คนปลายด้ามขวานบ่นพึม สองปีรัฐบาลเพื่อไทย ทำกระบวนการพูดคุยดับไฟใต้หยุดชะงัก แต่สิ่งที่รุดหน้าคือ “กระท่อม-กัญชาเสรี” ท้อใจเด็กเยาวชนเดินถือกันเกร่อ เพราะไม่ผิดกฎหมาย แถมเศรษฐกิจย่ำแย่หนัก 

 

 

 

 

 

ฟังเสียงสะท้อนจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ภายหลังรัฐบาลพรรคเพื่อไทยปิดฉากไป 2 ชุด จากรัฐบาลเศรษฐา จนถึงรัฐบาลแพทองธาร

โดยคนในพื้นที่บ่นกันพึมพำว่าปัญหาเก่าๆ ก็ไม่ได้ถูกแก้ ทั้งเศรษฐกิจ ยาเสพติด ส่วนปัญหาความไม่สงบ ก็ไม่มีความคืบหน้าเรื่องโต๊ะพูดคุยสันติสุข ทั้งๆ ที่อดีตนายกฯทักษิณ ชินวัตร เคยลงพื้นที่ และให้คำมั่นว่าปีนี้จะมีการตั้งคณะพูดคุยดับไฟใต้ และปัญหาจะจบอย่างบริบูณ์ในปีหน้า 

 

 

โดย ร.ต.อ.เจษฎาวุธ เพ็งลาย ชาวไทยพุทธใน จ.สงขลา ซึ่งมีบทบาทขับเคลื่อนให้เกิดกระบวนการพูดคุยสันติสุข บอกว่า สถานการณ์ไฟใต้ในปัจจุบันเหมือนมีกระจกมากั้นตรงกลาง ทำให้ไม่สามารถสื่อสารกันได้อย่างแท้จริง

 

การที่รัฐบาลยังไม่มีการแต่งตั้งหัวหน้าคณะพูดคุยสันติสุขอย่างเป็นทางการ ทำให้การแก้ไขปัญหาหยุดชะงักและไม่มีความคืบหน้า ซึ่งตนเชื่อว่าทุกความขัดแย้งจะจบลงได้ด้วยการพูดคุยและการเจรจาเท่านั้น

 

ร.ต.อ.เจษฎาวุธ เพ็งลาย แกนนำชาวไทยพุทธ จ.สงขลา 

 

 

คุณรัชดา เมาะมุสอ ชาวอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา ซึ่งเป็น 1 ใน 4 อำเภอรอยต่อกับสามจังหวัดชายแดนภาคใต้ และมีปัญหาความไม่สงบ บอกว่า ในฐานะคนที่เป็นแม่ รู้สึกกังวลอย่างยิ่งต่อการเปิดเสรีใบกระท่อม เพราะทำให้เยาวชนสามารถเข้าถึงยาเสพติดได้ง่ายขึ้นอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน จากที่ต้องแอบกิน ต้องหลบซ่อน ตอนนี้กลับกลายเป็นเรื่องปกติที่พบเห็นได้ทั่วไปตามตลาดและชุมชน

 

ขณะที่ในมิติเศรษฐกิจ สถานการณ์ภาพรวมก็แย่ลงอย่างเห็นได้ชัด ร้านค้าหลายแห่งต้องปิดกิจการ ผู้ประกอบการต้องเลิกค้าขาย

ทำให้ชาวบ้านต้องตัดสินใจไปทำงานที่ประเทศมาเลเซียแทน สะท้อนว่าปัญหาปากท้องยังไม่ดีขึ้น และพรรคเพื่อไทยก็แก้ไม่ได้ 

 

 

 

 

คุณรัชดา เมาะมุสอ ชาวอำเภอสะบ้าย้อย จ.สงขลา 

 

 

นอกจากน้ำกระท่อม ยังมีปัญหากัญชาเสรี ซึ่งคนในพื้นที่ต่อต้าน แม้จะไม่ใช่นโยบายของรัฐบาลพรรคเพื่อไทยโดยตรง แต่ 2 ปีที่ผ่านมาก็ไม่ได้แก้ไขให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรม

มีเพียง พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม ที่ลงมาเปิดแคมเปญในพื้นที่ แต่ก็ยังไม่สามารถผลักดันกฎหมายควบคุมกัญชาได้  เนื่องจากรอการพิจารณาของสภา

 

ทีมข่าวยังสำรวจความเห็นประชาชนอีกหลายคน เช่น คุณอิสกันดา ตาและ ชาว จ.ยะลา คุณอับดุลเลาะ ยาโง๊ะ ชาวนราธิวาส และ นางอิซมีนูดีนา สาและ ชาวปัตตานี 

 

ทุกคนพูดตรงกันว่ารู้สึกผิดหวังกับรัฐบาลพรรคเพื่อไทย ซึ่งไม่ใช่รัฐบาลทหาร แต่มาจากการเลือกตั้ง แต่เมื่อบริหารประเทศจริงๆ เป็นเพียงภาพที่ดูสวยงาม แต่ชาวบ้านไม่สามารถจับต้องอะไรได้เลย ตองเผชิญแต่ปัญหา ทั้งราคาสินค้าแพง น้ำมันเชื้อเพลิงราคาแพง แต่ราคายางพารากับผลไม้กลับตกต่ำอย่างหนัก แถมปัญกหาความไม่สงบก็รุนแรงยิ่งขึ้น สุดท้ายแล้วประชาชนในพื้นที่ก็ต้องรับชะตากรรมด้วยตัวเองเหมือนเคย 

 

 

สถานการณ์และปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้ 2 ปี ภายใต้รัฐบาลเพื่อไทย

 

1. มิติการพูดคุยสันติภาพ

แม้จะมีรายงานล่าสุดว่ารัฐบาลเตรียมแต่งตั้ง พลเอก นิพัทธ์ ทองเล็ก ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ให้เป็นหัวหน้าคณะพูดคุยเพื่อสันติสุขคนใหม่เพื่อสานต่อการเจรจา แต่ ณ ขณะนี้ยังไม่มีการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ

 

 

2. ปัญหาด้านกระบวนการยุติธรรมและความเชื่อมั่น

คดีตากใบที่หมดอายุความ ทำให้ประชาชนตั้งคำถามถึงความจริงใจของรัฐบาลเพื่อไทยในการแก้ไขปัญหา รวมถึงกระบวนการพูดคุยสันติสุขที่ถูกมองว่ายังไม่มีความจริงจังและจริงใจเพียงพอ

 

 

3. ปัญหาเศรษฐกิจและสังคม

ปัญหาปากท้อง: ราคาพืชผลทางการเกษตรตกต่ำ และยังมีการละเลยปัญหาของชาวบ้านในพื้นที่ เช่น ปัญหาช้างทำลายพืชผลทางการเกษตร

ปัญหายาเสพติด: ยังคงมีการระบาดอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ยังไม่มีการปราบปรามอย่างจริงจัง ทำให้ยาเสพติดหาซื้อง่าย ราคาถูกลง และส่งผลให้เกิดปัญหาอาชญากรรมและการขโมยในชุมชน รวมถึงปัญหาครอบครัวแตกแยกตามมา

 

 

4. บทบาทของอดีตนายกรัฐมนตรี

นายทักษิณ ชินวัตร เดินทางไปพื้นที่เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2568 และกล่าวแสดงความเชื่อมั่นว่าปัญหาจะจบลงในปีหน้า และสันติสุขชายแดนใต้ต้องเกิดขึ้นในรัฐบาลนี้

 

 

5. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร เดินทางไปที่จังหวัดนราธิวาสเมื่อวันที่ 16 มกราคม 2568 เพื่อเป็นประธานเปิดงาน "มหกรรมไกล่เกลี่ยช่วยลูกหนี้ มีอยู่ มีกิน มีใช้" และติดตามความคืบหน้าโครงการพัฒนาในพื้นที่ เช่น โครงการก่อสร้างสะพานและโครงการรถไฟทางคู่ โดยเน้นย้ำถึงความสำคัญของการศึกษาในการพัฒนาเยาวชนและสร้างความสามัคคี