svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“บิ๊กเต่า” แฉแต่งตั้งตำรวจ เกือบโดนเด้ง เพราะขวางขาใหญ่ใน ตร.

ทำงานแต่ไม่โต “บิ๊กเต่า” ประกาศพลีชีพแฉ เกือบโดนเด้งเหตุเป็นก้างขวางคอ กุนซือถือโผรายชื่อแต่งตั้งตำรวจ ลั่นถ้ายังไม่หยุด จะสู้แบบไม่ไว้หน้า

27 สิงหาคม 2568 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รอง ผบช.ก. กล่าวถึงกรณีที่เข้าไปรายงานความคืบหน้าคดีอดีตพระอลงกต และหมอบี ที่ทำเนียบรัฐบาลกับ นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี เมื่อช่วงค่ำวานนี้ ว่า มีการพูดคุยเรื่องการยื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม เกี่ยวกับการแต่งตั้งโยกย้ายตำรวจปี 68 ด้วยหรือไม่ ว่า นายภูมิธรรมก็รับปากว่า จะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้ ถ้ามีเหตุมีผลก็จะดำเนินการให้

ส่วนที่มีการตั้งข้อสังเกตว่า ตัวของ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ก็มีการเลื่อนขั้นอย่างเร็วผิดปกติด้วยนั้น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวว่า ตนพร้อมให้ตรวจสอบเรื่องนี้ ยืนยันว่าไม่ได้เลื่อนขั้นอย่างรวดเร็ว พร้อมเล่าว่า เมื่อช่วงปีที่ผ่านมา มีคนโทรศัพท์มาหาว่า จะให้ไปเป็นลำดับผู้บังคับการ โดยที่ตนไม่ต้องวิ่งเต้น ซึ่งในยุคทหารก็มีเรื่องตั๋ว ทำให้เลื่อนขั้นได้เร็วขึ้น 2 ปี 

 พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว หรือ บิ๊กเต่า รอง ผบช.ก.

 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ยืนยันว่า มาตามขั้นตอน ไม่ได้วิ่งเต้นตำแหน่งแต่อย่างใด และไม่ได้กังวลใจที่จะต้องถูกกลับมาตรวจสอบแทน
 

“คนที่เป็นใหญ่เป็นโตก็ฟาสแท็กมาทุกคน แต่เราไม่พูดเรื่องนี้ ผมเป็นระเบิดพลีชีพอยู่แล้วพร้อมวิ่งเข้าชน ไม่กลัวอะไร รับได้ทุกสภาพ ทุกเหตุการณ์ เรื่องที่เราไปทำเป็นการร้องขอความเป็นธรรม ให้กับเพื่อนข้าราชการทุกคน แต่มันจะเป็นบัตรสนเท่ห์ เลยต้องเอาตัวเองใส่เข้าไปด้วย เพราะก็เป็นผู้เสียผลประโยชน์ เลยต้องร้องไปในภาพรวมเพื่อให้มีการพิจารณา และเชื่อว่าการทำตรงนี้ ทั้งเพื่อน พี่น้องไม่มีใครกล้าทำ แต่เราในฐานะที่อยู่ในความทำงาน เพราะเราอยู่ในหน่วยงานปราบทุจริต ถ้าเราไม่กล้าทำ เราก็อยู่กับระบบนี้อีกอย่างนาน ขวัญและกำลังใจก็จะถูกบั่นทอน นำมาซึ่งความเสื่อมศรัทธาของประชาชน”
 

และยืนยันว่า ตนเจะไม่มีการงอแง แต่ขอให้พิจารณาคนที่มีความรู้ความสามารถมากกว่าตน และเรียกร้องให้ผู้บังคับบัญชา ให้ความเป็นธรรมกับลูกน้องทุกคนเสมือนเท่าเทียมกัน
 

"สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ถึงเวลาต้องเปลี่ยนแล้ว ตำรวจมาทำเรื่องพระ พระก็เริ่มเปลี่ยน แต่เมื่อเราหันกลับไปมองหน่วยงานของเรา ยังไม่เปลี่ยนเลย ยังเป็นระบบอุปถัมภ์ และยังไม่ให้ความเป็นธรรมกับข้าราชการ ต้องมาเริ่มต้นกันใหม่ หากผมจะถูกตั้งคณะกรรมการก็รับได้หมด ทำด้วยรอยยิ้มเหมือนอลงกตด้วย" 

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การแต่งตั้งโยกย้ายในปีนี้ จะซ้ำรอยแบบปีที่แล้ว ที่เกือบจะถูกย้ายไปอยู่หน่วยอื่น พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ระบุว่า ตนต้องพูดเรื่องจริงว่า เมื่อปีที่แล้วตนถูกเสนอให้ย้ายไปอยู่กองบัญชาการตำรวจนครบาลโดยไม่มีเหตุผล ซึ่งก็รู้สึกงงกับตัวเองเหมือนกันว่า ทำผิดอะไรหรือไปเหยียบตาปลาใครหรือไม่ จนคำสั่งออกมาให้ไปอยู่ บช.น. จึงได้ถามกับผู้บังคับบัญชาว่าเป็นเพราะเหตุใด ก็ได้รับคำตอบว่าเป็นคำสั่งนโยบาย

ตนจึงเริ่มย้อนดูว่า เกิดจากปัญหาอะไร จนได้รับคำตอบจาก ผู้การฯ ปปป. ว่า มีตำรวจชั้นผู้ใหญ่ได้เรียกให้เข้าไปพบเกี่ยวกับเรื่องไร่ภูนับดาว จ.สระบุรี เพื่อให้อธิบายเกี่ยวกับคดี ซึ่งตำรวจชั้นผู้ใหญ่เข้าใจดี ไม่น่ามีปัญหาอะไร
 

แต่ติดที่ว่าคนที่เรียกผู้การฯ ปปป. ไป เป็นรองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลางในครั้งนี้ และเป็นคนที่มีความใกล้ชิดกับตำรวจชั้นผู้ใหญ่ ซึ่งเขาก็กำชับผู้การฯ ปปป. ว่า อย่าเอาเรื่องนี้มาบอกตน ทำให้ตนเข้าใจว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสาเหตุในการถูกย้าย
 

แต่ต่อมา ที่ ก.ตร.ก็ได้พิจารณาไม่ให้ตนเองย้าย เพราะทำงานที่นี่ดีอยู่แล้ว ไม่มีเหตุผลให้ย้าย ตนก็ได้กลับมาประชุม ศปก. และพูดกับตำรวจทั้งหมด โดยมีผู้บัญชาการอยู่ด้วย ว่า “ บช.ก.จะอยู่กันอย่างนี้หรือ จะเอาเรื่องเท็จมาคุยกันหรือ จะทำงาน และเอามีดพกมาแทงกันหรือ“ ตนตอนนี้เลือดสาดแล้ว แต่ตนก็เตือนไว้ว่า ขอให้หยุดพฤติกรรมนี้ ถ้าท่านไม่หยุด ตนก็จะสู้แบบไม่ไว้หน้า
 

“ผมเชื่อว่า ผมคือก้างขวางคอของคนบางคน ที่จะขึ้นตำแหน่ง เพราะคน ๆ นี้ ถือบัญชีการแต่งตั้ง ที่มีการประเมินคะแนน ที่จะใช้เกณฑ์วัดในการขึ้นตำแหน่ง การที่จะเอาผมให้ได้ เพราะเป็นการตัดปัญหา ก่อนที่จะมีการแต่งตั้งในปีหน้า“ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าว
 

พล.ต.ต.จรูญเกียรติ กล่าวต่อว่า ปีนี้มีการพิจารณาในบอร์ดกลั่นกรองชุดเล็ก ตนก็ถามแล้วทราบว่า ลำดับผู้บังคับการ 4 ปี จะไม่พิจารณา แต่จะพิจารณาที่เกณฑ์ที่ 5 ปี ซึ่งสาเหตุที่ตนคิดว่า ทำไมเรื่องปีที่แล้วมาสอดคล้องกับปีนี้ ก็เพราะคนที่ทำบัญชีการแต่งตั้งคือ กุนซือของผู้ใหญ่ในการทำงาน ในการวางแผน  ส่วนจะใช่หรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่เราจะต้องมาต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมในหลักการ