svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สว.เปรมศักดิ์" จี้ถาม "นายกฯ ปมความไม่ชัดเจนการรับรองวุฒิการศึกษาต่างประเทศ

"สว.เปรมศักดิ์" จี้ถาม ”นายกฯ“ ปมความไม่ชัดเจนการรับรองวุฒิการศึกษาต่างประเทศ หวังสร้างความเชื่อมั่นระบบการศึกษาไทยไม่ตกอยู่ภายใต้เกมการเมือง

27 สิงหาคม 2568 ที่รัฐสภา นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกวุฒิสภา (สว.) เปิดเผยว่าตนได้ยื่นกระทู้ถามต่อประธานวุฒิสภา เพื่อนำส่งถึงนายกรัฐมนตรี ในเรื่องของปัญหาการรับรองคุณวุฒิจากต่างประเทศ เพื่อใช้ในการบรรจุและแต่งตั้งบุคลากรเข้ารับราชการพลเรือนในสถาบันอุดมศึกษาเนื่องจากปัจจุบันยังไม่มีความชัดเจนในอำนาจหน้าที่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) และสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม (สป.อว.) ส่งผลให้ผู้สำเร็จการศึกษาจากต่างประเทศจำนวนมากไม่ได้รับสิทธิ์อย่างเป็นธรรม ทั้งที่ควรได้รับการพิจารณาตามมาตรฐานสากล

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตัวอย่างกรณีของ นายสืบพงษ์ ปราบใหญ่ อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ผู้สำเร็จการศึกษาปริญญาเอกจาก Pacific States University สหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการรับรองจาก Accrediting Council for Independent Colleges and Schools (ACICS) ว่าเป็นตัวอย่างชัดเจนของความไม่เป็นธรรม แม้เขาจะผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและบรรจุเป็นอาจารย์ตั้งแต่ปี 2554 แต่ภายหลังกลับถูกตรวจสอบซ้ำหลายเรื่อง และถูกถอดถอนตำแหน่งอธิการบดี พร้อมเพิกถอนตำแหน่งทางวิชาการ ทั้งที่กระทรวงการต่างประเทศยืนยันว่ามหาวิทยาลัย และหลักสูตรที่ศึกษาได้รับการรับรองตามมาตรฐานสากล

“กรณีนี้ไม่เพียงสร้างความเสียหายต่อบุคคล แต่ยังสะท้อนว่าระบบการตรวจสอบวุฒิอาจถูกใช้เป็นเวทีเล่นงานคู่แข่งทางการเมือง ซึ่งบั่นทอนความน่าเชื่อถือของระบบราชการและวงการอุดมศึกษาไทย” นพ.เปรมศักดิ์กล่าว

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวว่า ตนตั้งคำถามสำคัญต่อรัฐบาล 3 ประเด็น ได้แก่

  1. การกำหนดอำนาจหน้าที่ระหว่าง ก.พ. และ สป.อว. ให้ชัดเจน เพื่อป้องกันการเลือกปฏิบัติและการใช้ดุลพินิจทางการเมือง
  2. การจัดทำฐานข้อมูลกลางของสถาบันการศึกษาต่างประเทศและองค์กรรับรอง เพื่อให้การตรวจสอบโปร่งใส รวดเร็ว และเป็นมาตรฐานเดียวกัน
  3. มาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ พร้อมกลไกป้องกันไม่ให้เกิดการกลั่นแกล้งและเลือกปฏิบัติซ้ำ

นพ.เปรมศักดิ์ กล่าวย้ำว่า รัฐบาลต้องชี้แจงต่อสาธารณะผ่านราชกิจจานุเบกษา เพื่อสร้างความเชื่อมั่นว่าระบบการศึกษาไทยจะไม่ตกอยู่ภายใต้เกมการเมืองหรือแรงต้านจากกลุ่มอำนาจเก่า