
24 สิงหาคม 2568 ส่องสมรภูมิการเมือง ซึ่ง วันที่ 29 สิงหาคมนี้ เวลา 15.00 น. คือ วันชี้ชะตาสร.1คนที่ 31ว่า จะอยู่หรือไปจากการวินิจฉัยของเก้าตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในคดีคลิปลับเเพทองธาร ชินวัตร-ฮุนเซน
การขึ้นชี้เเจงล่าสุดของนายกฯหญิงคนที่สองของประเทศนั้น สื่อหลายเเขนงเจาะเเละวิเคราะห์กันในชั้นต้นกันเเล้วเเละชี้ทิศทางการเมืองของเธอเเล้วว่าจะได้ไปต่อ พอเเค่นี้กับอนาคตทางการเมืองของเธอในไม่กี่วันข้างหน้า
สิ่งที่บางฝ่ายมองอนาคตไว้คือ หากเเพทองธารยังได้โอกาสทำหน้าที่ได้ต่อ เครดิตของเธอจะพอฝ่ามรสุมเเละเเก้ปัญหาบ้านเมืองได้หรือไม่ รวมทั้งจะยุบสภาเมื่อใด
เพราะหลากนโยบายหาเสียงของพรรคเพื่อไทยในปี2566ที่หัวหน้าครอบครัว เพื่อไทย เเละหัวหน้าพรรคเพื่อไทยหาเสียงไว้พบว่าไม่ตรงปก/ ไม่สำเร็จเเถมยังมีนโยบายเเฝงเเทรกขึ้นมา เช่น ร่างกฎหมายคาสิโนจนมีกระเเสต้านเเละต้องพับโครงการเเบบดื้อๆ
บวกกับกรณีข้อพิพาท ชายเเดนไทย-กัมพูชา ในตอนนี้ ที่โพลหลากสำนักชี้ตรงกันว่า คะเเนนนิยมของคุณอุ๊งอิ๊ง พ่วงกับพรรคสีเเดงร่วงกราวเเบบกู่ไม่กลับเเละยากที่จะกู้คืนในเวลานี้
หากผลการวินิจฉัยในไม่กี่วันข้างหน้า ทำให้สภาผู้เเทนฯต้องลงมติเลือกสร.1คนที่ 32 นั้น เเคนดิเดตเบอร์สามของค่ายสีเเดง คือ คุณชัยเกษม นิติสิริ จะได้สมหวังหรือไม่เเละคะเเนนสนับสนุนของพรรคร่วมรัฐบาลจะมีเท่าใด/เกลี่ยกระทรวงกันใหม่หรือไม่/อายุขัยของครม.ใหม่จะยืนยาวเท่าใด
เหตุการณ์ในอนาคตนั้น กูรูการเมืองหลายคนเชื่อว่า กระเเสสังคมส่วนใหญ่ ไม่ให้ใจกับพรรคสีเเดงเเล้ว เเละเซียนการเมืองหลายคนเชื่อว่าคุณทักษิณ กำลังคิดวางหมากการเมือง เเม้เจ้าตัวจะเชื่อว่าลูกสาวคนสุดท้องจะยังมีโอกาสทำงานให้บ้านเมือง (หลังเจ้าตัวพ้นบ่วงกรรมคดีม.112ไปเเล้วจากศาลชั้นต้น )
ดังนั้นอดีต สร.1คนที่ 26 น่าจะใช้เวลานี้ ประคองเกมอำนาจระหว่างรอลุ้นวันที่ 9 กันยายนว่าคดีชั้น14 รพ.ตำรวจนั้นจะบวกหรือลบกับเสมียนประเทศคนนี้ เ ที่สำคัญ มติวันที่ 29 สิงหาคมนั้น น่าจะเป็นการวัดบารมีของทักษิณ ชินวัตร อีกครั้งว่า จะพาพรรคสีเเดง ลุยไฟได้หรือไม่ เเละลุ้นกันอีกวาระ ว่าจะเป็นการใช้บารมีครั้งสุดท้ายทางการเมืองของชายคนนี้หรือไม่
หากอ่านอาการดีๆ ในยามที่เเทบทุกรัฐบาลวิกฤต นั้นพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆต่างหลบมรสุมการเมืองเเละรออ่านจังหวะ
เพราะสิ่งหนึ่งที่ปรากฏบนภาวะเปราะบางเเละชี้วัดอายุรัฐบาลนั้นๆคือ
เหตุสภาล่ม/ ชิงปิดประชุมก่อนการนับองค์ประชุม /ร่างกฎหมายหลายฉบับไม่ผ่านหรือไม่มีการลงมติ เพราะสมัยประชุมนึัก็มึเหตุเเบบนี้เกิดหลายคราวเเล้ว(เเม้ร่างกฎหมายงบประมาณปี2569 ผ่านความเห็นชอบของสส.ไปเมื่อหลายวันก่อน)
เเละอย่าลืมประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลายยุค ที่พบว่า พรรคร่วมรัฐบาลสละเรือเเละไปร่วมฟอร์มครม.ชุดใหม่กับฝ่ายค้านเเบบดื้อๆมาเเล้ว โดยอ้างว่ารักษาประชาธิปไตยเเละบ้านเมืองต้องเดินหน้า
หากย้อนดูข้อมูลของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรมีการจัดกลุ่มพรรคการเมืองในสภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 26 จำนวน 16 พรรคการเมือง (ข้อมูลวันที่ 24 มิ.ย. 2568 )พบว่าฝ่ายรัฐบาลประกอบด้วย 11 พรรค 256 เสียง ประกอบด้วย1.เพื่อไทย 142 เสียง 2.รวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง 3.กล้าธรรม 26 เสียง 4.ประชาธิปัตย์ 25 เสียง 5.ชาติไทยพัฒนา 10 เสียง 6.ประชาชาติ 9 เสียง 7.ชาติพัฒนา 3 เสียง 8.ไทรวมพลัง 2 เสียง 9.เสรีรวมไทย 1 เสียง 10.ประชาธิปไตยใหม่ 1 เสียง 11.ไทยก้าวหน้า 1 เสียง เเละหากนับงูเห่าจากฝ่ายค้านล่าสุดกับร่างกฎหมายงบประมาณ ปี2568คือ ไทยสร้างไทย3เสียง ภูมิใจไทย1เสียง ประชาชน1เสียง พลังประชารัฐ3เสียง
ตัวเลขก็จะวิ่งระหว่าง 257 คะเเนนเเบบไม่มากกว่านึ้ กับตัวเลขกึ่งหนึ่งคือ248เสียง ตรงนี้นับว่าเหนื่อยไม่น้อย เเละหากร่างกฎหมายงบประมาณผ่านความเห็นชอบของสว.นั้นเวลา 4 – 6 เดือนในการที่เสนาบดียี่สิบกระทรวงจะนำงบ3.78 ล้านล้านบาทไปพัฒนาบ้านเมืองเเละหวังผลกับคะเเนนนิยมเพื่อใช้หาเเต้มนั้น จะได้ผลเพียงใด
ดังนั้น การอ่านภาพรวมการเมืองวันนีัจะพบว่ามีสามพรรคเท่านั้นที่ครองพื้นที่ส่วนใหญ่ของข่าวสาร คือ เพื่อไทย ประชาชน ภูมิใจไทย ส่วนพรรคร่วมรัฐบาล/พรรคฝ่ายค้านอื่นๆเเทบจะไม่ปรากฏข่าวสาร
ความน่าสนใจ คือ การจับมือเสนอยกเลิก MOu 2543 เเละ 2544 ของพรรคสีส้มเเละสีน้ำเงินที่ไม่เคยปรากฏภาพเเบบนี้มาก่อน จนมีการลือไปบ้างว่าพรรคประชาชนอาจจับมือพรรคสีน้ำเงินตัดเส้นทางเเห่งอำนาจของพรรคสีเเดงในวันข้างหน้า(พรรคสีส้มหนุนพรรคสีน้ำเงินตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย) จากภาพร่วมกิจกรรมล่าสุดของสองพรรคนี้ เพราะข่าวสารต่างๆ วันนี้ชัดเเล้วว่า ค่ายสีเเดงเปิดธงรบกับขั้วสีน้ำเงินเต็มร้อยทุกกรณี เเละค่ายสีส้มก็พร้อมปรับตัวกับสภาพการเมืองไทยวันนีั/วันข้างหน้าเเล้ว
เพราะตอนนึัมีสูตรการเมืองเเปลกๆ ลือในวงการการเมืองเเล้ว เช่น พรรคสีส้มเเตะมือพรรคสีน้ำเงินชั่วคราว คือ ตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อย (4 - 6เดือนก่อนยุบสภา ) พท.จะดีลกับพรรคพลังประชารัฐเเละดันพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณนั่งเเท่นสร.1ด้วยหลากกลวิธี ( หากเเพทองธารหมดสิทธิไปต่อเเละดันชัยเกษมไม่ผ่าน ) นัยว่าค่ายสีเเดงยอมง้อเเละดีลกับลุงป้อมดีกว่า เเละเพื่อตัดเส้นทางของอนุทิน ชาญวีรกุลเเห่งขั้วสีน้ำเงินไม่ให้เป็นเบอร์หนึ่งเเห่งตึกไทยคู่ฟ้า
สูตรการเมืองต่างๆ ข้างต้น จะเกิดอย่างไร/เพราะอะไร รอลุ้นวันที่ 29 สิงหาคมนี้เเล้วจะกระจ่าง