svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 ครบ 2 ปีการกลับไทย จับสัญญาณดีลลับแนวโน้ม 2 คดีใหญ่หนักหน่วง “คลิปเสียง-ชั้น 14” จุดกำหนดทิศทางอนาคตการเมืองไทย

คดี ม.112 ของอดีตนายกฯทักษิณ เป็น 1 ใน 3 คดีที่รุมเร้า “สองพ่อลูกชินวัตร” ซึ่งรู้กันดีว่า เป็นนายกฯตัวจริง และนายกฯหน้าฉากของประเทศไทยอยู่ในขณะนี้

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

กูรูการเมืองหลายคนมองทั้ง 3 คดีเป็นแพ็กเดียวกัน เพราะเชื่อเรื่อง “ดีลลับกลับไทย” ของอดีตนายกฯ ในวันนี้เมื่อ 2 ปีก่อน (22 สิงหาคม 2566) ซึ่งเชื่อกันว่าเป็นผลมาจาก “ดีลลับลังกาวี” และทำให้การเมืองไทยอยู่ในภาวะ “ผิดปกติ” มาตลอดจนถึงปัจจุบัน แม้แต่มีสถานการณ์สงคราม ก็ยังไม่ยอมตั้งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม นี่คือตัวอย่างของความไม่ปกติ

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

ฉะนั้นหากเชื่อว่า “ดีลลับกลับไทย” มีจริง และยังมี “คนกำกับดีล” คอยบังคับวิถีให้ทุกอย่าง “ไม่ผิดดีล” ก็น่าคิดว่า คดีแต่ละคดีน่าจะเป็นการ “พิสูจน์ดีล” ไปด้วยนั่นเอง

จึงมีกระแสข่าวมาตลอดว่า หากอดีตนายกฯทักษิณรอดคดี 112 ก็น่าจะมีความมั่นใจมากขึ้น และคงให้ลูกสาว “ลุยไฟ” ไปฟังคำวินิจฉัยคดีคลิปเสียงฮุนเซน เพราะอดีตนายกฯทักษิณก็ย้ำทุกเวที ทุกวงสนทนา และกับทุกคนที่ได้คุยด้วยว่า “รอดแน่นอน - ไม่มีปัญหาแน่ๆ”

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

และหากทิศทางแนวโน้มทุกอย่างไปเป็นตามที่คิด คดีที่น่ากังวลที่สุด ก็จะเป็นคดีชั้น 14 ซึ่งองค์คณะไต่สวนของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง นัดอ่านคำสั่ง วันที่ 9 กันยายน 2568 ซึ่งอดีตนายกฯทักษิณ เชื่อว่า เลวร้ายที่สุดที่ตนต้องเจอ คือ องค์คณะของศาลชี้ว่า การย้ายตัวเขาไปพำนักที่โรงพยาบาลตำรวจ เป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยระเบียบกฎหมาย แต่ผู้ที่ต้องรับผิดชอบคือ “ข้าราชการ” ไม่ใช่ตัวอดีตนายกฯในฐานะผู้รับผลของการกระทำ

 

แต่นั่นคือการประเมินในแง่บวกจากทั้งฝั่งคุณทักษิณและพวกเท่านั้น เพราะฝ่ายที่อยู่ตรงกันข้ามทางการเมือง ก็เห็นว่า มีโอกาสสูงที่อดีตของ “สองพ่อลูก” จะรอด 1 และร่วง 2

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

นั่นก็คือ คดีที่รอด ได้แก่คดี ม.112 ซึ่งไม่ได้เกี่ยวกับ “ดีลลับ” แต่เป็นเพราะพยานหลักฐานไม่ขัดเจน ฝ่ายโจทก์ ผู้ฟ้อง ไม่สามารถหาคลิปฉบับเต็มมายืนยันได้ และคำพูดของอดีตนายกฯก็ไม่ชัดเจนว่าหมายถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นที่รู้กันใน “วงใน” อยู่แล้ว

 

ส่วนคดีนายกฯแพทองธาร เชื่อกันว่า “ไม่น่ารอด” เพราะหากปล่อยให้ทำหน้าที่ต่อไป จะเกิดวิกฤตศรัทธาต่อรัฐบาลหนักขึ้นไปอีก รวมถึงจะส่งผลต่อกระบวนการยุติธรรม และความรู้สึกชาตินิยมของพี่น้องประชาชนด้วย

 

เช่นเดียวกับคดีชั้น 14 ฝ่ายที่อยู่กลางๆ และฝ่ายตรงข้ามทางการเมือง ก็ประเมินว่าไม่น่ารอด ส่วนจะถึงขั้นถูกสั่งให้กลับไปติดคุกใหม่หรือไม่ ต้องรอลุ้นฟังคำสั่ง แต่มีการส่งสัญญาณถึงขนาดว่า การจะเดินลอยชายกลับบ้านเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นนั้น ไม่น่ามีจริง

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

ข้อวิเคราะห์นี้ตรงกับ คุณเทพไท เสนพงศ์ อดีต สส.ประชาธิปัตย์ ซึ่งผันตัวเป็นนักวิเคราะห์ทางการเมือง ซึ่งเชื่อว่าคดีของสองพ่อลูก จะ “รอด 1 ร่วง 2”

 

แนววิเคราะห์ที่ว่านี้ยังตรงกับ “ทีมยุทธศาสตร์” ของพรรคสีแดง ที่ประเมินกันวงในว่า คดีนายกฯอิ๊งค์ ตัวเลขจริงๆ ยังอยู่ที่ 7 ต่อ 2 คือ ไม่รอด ส่วนตัวเลข 5 ต่อ 4 เป็นตัวเลขเป้าหมาย ยังต้องลุ้นกันรายวัน รายชั่วโมง

 

ส่วนคดีชั้น 14 ดูจากทิศทางลม และผลกระทบที่จะเกิดกับหลักนิติธรรมของประเทศ ตลอดจนความเหลื่อมล้ำทางความยุติธรรมในบ้านเมืองแล้ว อาจทำให้ผลของคำสั่งที่ออกมา เป็นลบมากกว่าที่คิด

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

ด้วยเหตุนี้จึงมีข่าวล่าสุดจากพรรคเพื่อไทยว่า มีการเรียกประชุมระดับแกนๆ ของ “ วิปรัฐบาล” แจ้งข้อมูลทุกพรรคสแตนบายในวันที่ 29 สิงหาคม 2568  ห้ามออกนอกพื้นที่เด็ดขาด ให้รอฟังผลคดี อย่าเพิ่งกลับต่างจังหวัด และงดไปต่างประเทศ เพราะหากผลคดีออกมาเป็นลบ อาจมีการเชิญแกนนำเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้าทันที เหมือนเมื่อครั้งคดีอดีตนายกฯเศรษฐา

 

ความเคลื่อนไหวที่ทำให้เห็นว่าเริ่มมี “คลื่นใต้น้ำ” ทำให้สถานการณ์ไม่นิ่ง ก็คือเริ่มมีการปล่อยชื่อ “คุณพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค” หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ ออกมาชิมลางเป็นนายกฯชั่วคราว ช่วงฝ่าวิกฤตไทย-กัมพูชา กลางกระแสรักชาติ เพื่อบรรเทาแรงกดดันของรัฐบาลเพื่อไทย หากต้องการต่อท่ออำนาจต่อไป

 

ขณะที่แวดวง “ขันต่อ” ข่าวล่าสุดออกมาว่า ราคารอด พุ่งขึ้น หลังจากเห็นภาพนายกฯชี้แจงศาล แล้วออกมาด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม 

 

แต่การที่รัฐบาลเร่งแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการ โดยเฉพาะกระทรวงมหาดไทย และตำรวจ ซึ่งส่งผลต่อการเลือกตั้ง รวมถึงตั้ง “คณะทำงาน” แบบรัวๆ อีก 5-6 คณะ แก้หนี้ แก้ยาเสพติด ซึ่งเป็นแนวทางสร้างคะแนนนิยมทั้งสิ้นนั้น

 

เหล่านี้คือ “สัญญาเร่ง” เพราะนายกฯกำลังจะไม่รอด ใช่หรือไม่

 

ที่น่าสนใจก็คือ แม้นายกฯจะรอดคดี แต่ก็หนีไม่รอด 10 ปัญหาที่รุมเร้า

 

“ทักษิณ” ฉลุย ม.112 จับทิศทางสัญญาณดีล 2 คดี “คลิปเสียง-ชั้น 14”

 

10 ทุกขลาภของรัฐบาลเเพทองธาร

 

 1. ปัญหากัมพูชา

 2. ปัญหาไฟใต้

 3. ปัญหาสงครามกลางเมืองเมียนมา

 4. ปัญหาภาษีทรัมป์ - ยังไม่นำเข้าขอความเห็นชอบจากรัฐสภา

 5. ปัญหาเศรษฐกิจภายใน

 6. ปัญหาสแกมเมอร์และการพนันออนไลน์

 7. ปัญหายาเสพติด

 8. ปัญหาเรื่องความเปลี่ยนแปลงของอากาศและมลพิษข้ามชาติ ถึงกรณีแม่น้ำกก

 9. ปัญหาเสถียรภาพทางการเมือง

 10.ปัญหาเกี่ยวกับการแข่งขันของรัฐอำนาจใหญ่  

 

ไม่นับโจทย์สงคราม hybrid และสงคราม 6 โดเมน ที่เราเผชิญกับกัมพูชา