
19 สิงหาคม 2568 สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (สำนักงาน ปปง.) จัดงานวันคล้ายวันสถาปนาครบรอบ 26 ปี สำนักงาน ปปง. โดยมีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เป็นประธานในพิธีเปิดงาน พร้อมด้วย นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ผู้แทนหน่วยงานทั้งภาครัฐ เอกชน สถาบันการเงิน คณะผู้บริหารและข้าราชการสำนักงาน ปปง. เข้าร่วมงาน
นายเทพสุ กล่าวว่า ตลอด 26 ปีที่ผ่านมา ปปง. ในฐานะหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้มุ่งมั่นป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน รวมถึงการต่อต้านการสนับสนุนทางการเงินแก่การก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง โดยยกระดับมาตรการและกลไกต่าง ๆ ให้ทันต่อพฤติกรรมอาชญากรรมที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว พร้อมเตรียมความพร้อมในการเข้ารับการตรวจประเมินมาตรฐานสากล AML/CFT ในปี 2571 เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อระบบการเงินของประเทศและภาพลักษณ์ของไทยในเวทีโลก
ผลงานการดำเนินงานในรอบปี (สิงหาคม 2567 – สิงหาคม 2568) ปปง. จัดการทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดมูลค่ารวมกว่า 28,269 ล้านบาท โดยยึดและอายัดทรัพย์สินกว่า 10,266 ล้านบาท ส่งให้ศาลมีคำสั่งตกเป็นของแผ่นดินกว่า 11,888 ล้านบาท ส่งคืนหรือชดใช้คืนผู้เสียหายกว่า 5,783 ล้านบาท ครอบคลุมผู้เสียหายกว่า 7,000 ราย และส่งมอบให้กระทรวงการคลังกว่า 332 ล้านบาท
ในส่วนของคดีสำคัญ ปปง. ดำเนินการกับเครือข่ายยาเสพติด เครือข่ายการพนันออนไลน์ การฉ้อโกงประชาชน คดีลักลอบหนีศุลกากร และคดีเกี่ยวกับอาชญากรรมทางการเงินข้ามชาติ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ยึดและอายัดนับหมื่นล้านบาท โดยในปีนี้ยังมีการดำเนินคดีสำคัญอย่างกรณีหุ้น STARK การฉ้อโกงลงทุนคริปโต และคดีเครือข่ายการพนันออนไลน์หลายเว็บไซต์ที่สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
ปปง. ยังเน้นมาตรการสกัดกั้นภัยจากบัญชีม้าและอาชญากรรมทางเทคโนโลยี โดยประกาศรายชื่อบุคคลเสี่ยงแล้วกว่า 93,000 รายชื่อ ครอบคลุมการจำกัดธุรกรรมเกือบ 1 ล้านบัญชี มูลค่าเงินคงเหลือกว่า 3,000 ล้านบาท ป้องกันไม่ให้ถูกนำไปใช้ในกิจกรรมผิดกฎหมาย อีกทั้งยังประกาศรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธทำลายล้างสูง ตามมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และกฎหมายไทยหลายร้อยรายชื่อ
นอกจากนี้ ปปง. ยังเดินหน้าสร้างความร่วมมือทั้งในและต่างประเทศ โดยลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) เพิ่มเติมกับหลายหน่วยงาน ครอบคลุมกว่า 56 ประเทศทั่วโลก รวมถึงพัฒนาระบบเทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการตรวจสอบ การคุ้มครองสิทธิผู้เสียหาย และการบริหารจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ
เลขาธิการ ปปง. ย้ำว่า ในปีที่ 26 สำนักงานจะยังคงก้าวต่อไปด้วยความมุ่งมั่น ปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง และปฏิบัติหน้าที่ด้วยประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อปกป้องระบบการเงินและสร้างความมั่นคงปลอดภัยแก่ประเทศชาติและประชาชนอย่างยั่งยืน