svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

โฆษก กต.ซัด “กัมพูชา” หยุดปิดหูปิดตา ปชช.รับข้อมูลแค่ รบ.ป้อนให้

โฆษก กต.ซัด “กัมพูชา” หยุดปิดหูปิดตา ปชช.รับข้อมูลแค่ รบ.ป้อนให้ – ชี้การปล่อยข่าวปลอมผิดข้อตกลง GBC - ย้ำ ปชช.กัมพูชาไม่ใช่คู่ขัดแย้งฝ่ายไทย

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารของกัมพูชาว่า ที่ผ่านมา ฝ่ายกัมพูชา ยังเผยแพร่ข่าวปลอมและข่าวบิดเบือนอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากหน่วยงานภาครัฐ และจากสื่อกัมพูชา ซึ่งขัดต่อข้อตกลงการหยุดยิงของที่ประชุม GBC สมัยวิสามัญ ที่ระบุให้งดเว้นการกระทำดังกล่าวเพื่อลดความตึงเครียด ลดความรู้สึกเชิงลบของสาธารณชน และส่งเสริมสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการเจรจาอย่างสันติ

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุว่า ประชาชนกัมพูชา ยังถูกปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลในช่องทางต่าง ๆ รวมถึงสื่อหลักของไทยส่วนใหญ่ โดยรัฐบาลกัมพูชา ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ทางการกัมพูชาปิดหูปิดตาประชาชนของตนเอง ไม่ให้รับฟังข้อมูลที่รอบด้าน โดยจำกัดให้รับฟังรับรู้ข้อมูลข่าวสารที่รัฐบาลกัมพูชาเป็นผู้ป้อนให้เท่านั้น การกระทำเช่นนี้ถือเป็นการละเมิดเสรีภาพสื่อ และสิทธิในการรับทราบข้อมูลข่าวสารของประชาชน ดังนั้น ไทยขอเรียกร้องให้ทางการกัมพูชาเปิดกว้างให้ประชาชนกัมพูชาได้เข้าถึงข้อมูลข่าวสารอย่างอิสระ เพื่อให้ประชาชนได้ใช้วิจารณญาณ และดุลยพินิจในการเลือกรับรู้ด้วยตนเอง เพราะประชาชนไทยสามารถเข้าถึงข้อมูลข่าวสารจากทุกแหล่งทั่วโลก รัฐบาลไทยไม่เคยปิดกั้น

 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังย้ำว่า ประชาชนกัมพูชาไม่ใช่คู่ขัดแย้งกับฝ่ายไทย แต่เป็นผู้ถูกจำกัดการเข้าถึงข้อมูลที่รอบด้านจากรัฐบาลของตนเอง

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังย้ำถึงการลอบวางทุ่นระเบิดสังหารบุคคลบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา เมื่อวันที่ 9 และ 12 สิงหาคม 2568 ว่า กระทรวงฯ ไม่ได้นิ่งนอนใจและมีหนังสือประท้วงไปยังกัมพูชาต่อทั้ง 2 กรณี ในวันที่ 15 สิงหาคม 2568 กระทรวงฯ จะร่วมกับกระทรวงกลาโหม เชิญคณะทูตของประเทศผู้บริจาค และองค์กรระหว่างประเทศด้านการเก็บกู้ทุ่นระเบิด มารับฟังข้อมูลการละเมิดอนุสัญญาฯ และท่าทีของกัมพูชาในการปฏิเสธความร่วมมือกับฝ่ายไทยในภารกิจการเก็บกู้ทุ่นระเบิดของกัมพูชา โดยจะเรียกร้องให้พิจารณาทบทวนการให้ความช่วยเหลือต่อกัมพูชาต่อไป และในวันที่ 16 สิงหาคม 2568 กระทรวงฯ พร้อมด้วยหน่วยงานไทยที่เกี่ยวข้อง จะจัดให้ผู้แทนประเทศและองค์กรเหล่านี้ลงพื้นที่สังเกตการณ์ความเสียหายจริงและรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ทุ่นระเบิด