5 ประเด็นคาใจ ไทยกำลังพ่ายเกมกัมพูชา?

31 กรกฎาคม 2568 กลายเป็นประเด็นคาใจของสังคมไทย และคนไทยผู้รักชาติทุกคน กับ 5 ประเด็น คือ

1. ในสนามรบตามแนวชายแดน เราได้เปรียบกัมพูชาก็จริง แต่จะเอาชนะได้แน่หรือไม่ เพราะทุกจุดที่ควบคุมพื้นที่ไว้ อาจถูกประท้วงและถูกโต้แย้งจนกลายเป็นข้อพิพาทได้ตลอดเวลา 

2. กัมพูชา ได้พลิกเกมจากการเป็น “ผู้โจมตีก่อน - เปิดฉากยิงก่อน” กล่าวหาไทยว่าเป็น “ผู้รุกราน” กล่าวคือ 

• มีประเด็นพิพาทเขตแดนกับกัมพูชา 
• กัมพูชา “แฟร์เพลย์” นำไปยื่นฟ้องศาลโลก 4 พื้นที่ 
• กัมพูชาเชื่อว่าพื้นที่เหล่านั้นเป็นของกัมพูชา จึงรุกคืบเข้ามา
• เกิดสถานการณ์ความไม่สงบขึ้น เช่น เสียงปืนดัง จัดคนไปร้องเพลง มีมวลชนสองชาติเผชิญหน้ากันตามพื้นที่พิพาท 

**ไม่เกี่ยวว่าใครยิงก่อน แต่ข้อพิพาทกลายเป็นชนวนความรุนแรง จึงต้องมี “คนกลาง” มาตัดสินหรือไกล่เกลี่ย 

3. กัมพูชาพลิกเกมอีกรอบ ดึงมหาอำนาจ และกลไกอาเซียนเข้ามาช่วยตัดสิน เป็นคนกลาง 

• ทำตัวเป็นเด็กดี พร้อมหยุดยิงทันที แม้ในพื้นที่จริงไม่ยอมหยุด แต่ใช้วิธีชิงปล่อยข่าวกล่าวหาไทยก่อน 
• ไทยเสียเปรียบ เพราะขยับตัวช้ากว่าด้านข่าวสาร และการร้องเรียน ขณะเดียวกันด้วยสถานะความเป็นประเทศใหญ่กว่า ขนาดเศรษฐกิจโตกว่า และมียุทโธปกรณ์ทันสมัยกว่า จึงถูกมองว่ารังแกกัมพูชา และหลายประเทศก็เชื่อตามกัมพูชา 

4. ข้อพิพาท (ซึ่งจริงๆ แล้วไม่ได้พิพาท) จะถูกรื้อขึ้นมา แล้วนำมาต่อรองกับไทย 

• กัมพูชา มีแต่ “ได้” ไม่มี “เสีย” 
• เพราะจุดเริ่มต้นมาจากการ “ไม่ใช่พื้นที่พิพาท” 

5. ความนิยมของรัฐบาลตระกูลฮุน จะยังคงมั่นคงเหมือนเดิม เพราะแม้การบริหารประเทศด้านอื่นจะล้มเหลว คดโกง ละเมิดสิทธิมนุษยชนอย่างไร แต่พวกเขาเป็นคนที่ทำให้เขมรได้ดินแดนเพิ่มขึ้น หรือสร้างสตอรี่ว่าได้ดินแดนของตัวเองกลับมา 

**ชดเชยกับการเสียดินแดนให้เวียดนาม เพื่อแลกกับผลประโยชน์ของผู้มีอำนาจฝ่ายการเมือง