
29 กรกฎาคม 2568 ชาวบ้านที่อพยพมาพักอยู่ที่วัดตาไก้พลวง ต.ตาไก้ อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเปิดเป็นศูนย์พักพิงชั่วคราว ในช่วงมีการปะทะระหว่างทหารไทยกับทหารกัมพูชา ต่างเอาด้ายมาผูกแขนให้กับนายกิมแดง กระจ่างทอง อายุ 60 ปี และนางติน กระจ่างทอง อายุ 61 ปี สองสามีภรรยาเพื่อให้กำลังใจ ซึ่งทั้งสองกำลังอยู่ในอาการโศกเศร้า หลังจากนายโชคชัย สว่างรัตน์ นายอำเภอนางรอง เข้าไปแจ้งว่า พลทหารธีรยุทธ กระจ่างทอง อายุ 22 ปี ที่ไปปฏิบัติภารกิจสู้รบแนวชายแดนด้านจังหวัดศรีสะเกษ ได้เสียชีวิตขณะปฏิบัติหน้าที่เมื่อคืนที่ผ่านมา (28 ก.ค.2568)
น.ส.หอมจันทร์ กระจ่างทอง อายุ 26 ปี พี่สาวพลทหารธีรยุทธ เล่าว่า น้องชายได้ติดต่อมาครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 25 ก.ค.2568 ตอบทางแชทไลน์มาว่า ไม่ต้องเป็นห่วง ปลอดภัยดี พอเช้านี้เวลา 09.00 น.ได้มีคนโทรเข้ามาบอกว่าเป็น ผบ.ร้อยประจำหน่วย ถามว่าเป็นญาติกับพลทหารธีรยุทธ หรือไม่ ตนตอบว่าใช่ ตนคิดว่าน้องชายน่าจะบาดเจ็บจากการสู้รบ แต่ปลายสายบอกว่า "น้องได้ทำหน้าที่ได้ดีที่สุดแล้ว" ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัวด้วย จึงสรุปด้วยตัวเองว่า น้องชายได้เสียชีวิตแล้ว ส่วนศพจะมาถึงบุรีรัมย์วันที่ 30 ก.ค.นี้ โดยจะตั้งศพไว้ที่วัดยางโป่งสะเดา ต.ตาจง อ.ละหานทราย จ.บุรีรัมย์ และจะมีพิธีพระราชทานเพลิงศพในวันที่ 2 ส.ค.นี้
ขณะที่ สถานการณ์ทั่วไปตามแนวชายแดนด้านจังหวัดบุรีรัมย์ ยังไม่คลี่คลายทหารทั้งสองฝ่ายยังตรึงกำลังกันอยู่ แม้จะมีมติข้อตกลงของทั้งสองฝ่ายว่าจะหยุดยิงโดยไม่มีข้อแม้ตั้งแต่เที่ยงคืนที่ผ่านมา ตั้งแต่เช้าวันนี้มีเสียงปืนประปลาย แต่ไม่มีการยิงปืน BM 21 เข้ามายังฝั่งไทย
ล่าสุดนายปิยะ ปิจนำ ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ ได้ส่งหนังสือไปยังนายอำเภอชายแดนอ้างถึงกองทัพภาคที่ 2 แจ้งว่า "ขอให้ประชาชนงดเดินทางกลับภูมิลำเนาพื้นที่ใกล้ชายแดนจนกว่าจะมีประกาศจากทางราชการ" ปัจจุบันสถานการณ์ยังไม่มีความปลอดภัย จังหวัดบุรีรัมย์ จึงขอให้ประชาชนที่อพยพในสถานที่ต่างๆ ยังมิให้เดินทางกลับภูมิลำเนา โดยขอให้ประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยพักอาศัยในศูนย์พักพิงชั่วคราวที่ทางราชการจัดให้ หรือสถานที่ต่างๆจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลายซึ่งจังหวัดจะแจ้งให้ทราบต่อไป