
26 กรกฎาคม 2568 ที่ศูนย์พักพิงผู้อพยพ อำเภอกันทรารมย์ จังหวัดศรีสะเกษ นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ พร้อมคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังผู้อพยพ และเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานอยู่ที่ศูนย์ต่างๆ โดยมี นายทวีศักดิ์ ทรงอยู่ รองผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ พร้อม นายพนันท์ บุญคล้าย อำเภอกันทรารมย์ พันตรวจเอก รัชพล เสริมศรัณย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดศรีสะเกษ และหัวหน้าส่วนราชการ พี่น้องประชาชน ให้การต้อนรับ
หลังเดินทางมาถึง รมช.กระทรวงพาณิชย์ ได้เดินพบปะเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในศูนย์พักพิง ก่อนจะมีการพูดคุยกับผู้อพยพ เดินเยี่ยมให้กำลังใจ และมอบสิ่งของเครื่องอุปโภค บริโภค ข้าวของเครื่องใช้ ให้กับศูนย์พังพิง เพื่อจะได้นำไปแจกจ่ายให้ผู้อพยพ ต่อไป
นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตนลงพื้นที่มาในวันนี้เพื่อเป็นตัวแทนรัฐบาล ตัวแทนนายกรัฐมนตรีและตัวแทนจากกระทรวงพาณิชย์ วันแรกที่ตนได้ทราบข่าวว่ามีการสู้รบกันตนเองก็รู้สึกเป็นห่วงและสงสาร ตนอยากลงมาให้กำลังใจตั้งแต่วันแรกแต่ก็กลัวว่าจะเป็นภาระกับฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ที่จะต้องมาให้การต้อนรับตน
พอวันนี้ตนได้ลงพื้นที่มาแล้ว และก็เห็นถึงการทำงานของฝ่ายปกครองผู้นำทุกฝ่าย ผู้นำท้องถิ่นทุกๆท่านมีความพร้อมความสามัคคีกันมาก วันแรกที่เกิดเหตุการณ์ในการอพยพกำลังคนออกจากพื้นที่อย่างรวดเร็ว พอเกิดเหตุการณ์สู้รบขึ้น ตนดูแล้วว่าการนำเสนอข่าวจากฝ่ายต่างๆ ที่ออกมาดิสเครดิตกันนั้น ตนว่ามันไม่เหมาะสมหรือไม่สมควรทำ
ตอนนี้เราทุกคนต้องมาช่วยกันเพื่อที่จะแก้ปัญหาร่วมกัน เพราะปัญหาที่เกิดการสู้รบขึ้นในวันนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง มันเกิดขึ้นจากปัญหาระหว่าง 2 ประเทศ ตนจึงอยากขอให้คนที่กำลังทำอยู่ให้หยุดการกระทำได้แล้ว หันมาช่วยเหลือและสร้างขวัญกำลังใจผู้ที่ประสบภัยและผู้ที่สูญเสียจะดีกว่า
ในวันนี้ที่ตนลงมาก็ได้นำสินค้าเครื่องอุปโภคบริโภคมาเต็มคันรถเพื่อที่จะช่วยเหลือในศูนย์อพยพหรือศูนย์พักพิงต่างๆในเขตพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ท่านรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ได้สั่งการให้พาณิชย์ทุกจังหวัดในประเทศชายแดนดูแลเรื่องสินค้าไม่ให้ขาดแคลน และไม่ให้ใครฉวยโอกาสขึ้นราคาสินค้า ให้เปิดร้านบริการสำหรับพี่น้องประชาชน ถ้าขาดแคลนหรือเดือดร้อนในส่วนไหนขอให้แจ้งมายังพาณิชย์จังหวัดได้เลย ถ้าหากเจอว่าร้านค้าไหนฉวย
ด้าน นางสา ประสงค์ อายุ 64 ปี เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนอยู่บ้านบึงมะรู หมู่16 อำเภอกันทรลักษ์ ตนอพยพมาจากหมู่บ้านบึงมะลูที่อยู่ติดกับตะเข็บชายแดนไทย -กัมพูชา ฝั่งอำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ ที่อยู่ห่างจากประเทศกัมพูชาไม่ถึง 10 กิโลเมตร ตอนที่เกิดเหตุตนกับสามียังทำนาอยู่ที่ทุ่งนา ตนได้ยินเสียงดังบึ้มๆ นึกว่าเสียงฟ้าร้องพอหยุดฟังแล้วถึงรู้ว่าเป็นเสียงระเบิดจากฝั่งกัมพูชายิงมายังฝั่งไทย เสียงดังมาก ตนและสามีกลัวจึงรีบกลับเข้ามาที่บ้าน รอดูสถานการณ์แต่สถานการณ์ไม่ดีขึ้น การยิงกันยังมีต่อเนื่อง ตนกลัวว่าจะไม่ปลอดภัยจึงรีบอพยพหนีออกจากพื้นที่มาก่อน ส่วนสามีและลูกยังอยู่ในหมู่บ้านและสัตว์เลี้ยง เพราะห่วงบ้านตนมาอยู่ที่ศูนย์อพยพนี้ได้วันนี้เป็นคืนที่ 2 แล้ว มาอยู่ที่นี่ตนนอนไม่ค่อยหลับเพราะแปลกที่
โดยส่วนตัวตนก็เตรียมใจและเฝ้าระวังมาตลอดกับเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้น แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดเหตุปะทะกันเร็วและแรงขนาดนี้ คนอยากให้เหตุการณ์สงบเร็วๆ ตนอยากกลับบ้านและห่วงใยคนทางบ้านที่ขาดการติดต่อ โทรไปก็ไม่ติดไม่มีสัญญาณ
เหตุการณ์ที่ทหารกัมพูชายิงระเบิดมาตกที่เซเว่นแล้วทำให้เกิดการสูญเสียชีวิตหลายราย ซึ่งเป็นประชาชนผู้บริสุทธิ์ ร่วมถึงเด็กที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ตนว่าการกระทำเช่นนี้เป็นการกระทำโหดร้าย ตนไม่ขอให้อภัยทหารกัมพูชา ตนยากให้ทหารไทยยิงให้มันตายให้หมดเลย และตนก็ไม่รู้ว่าทหารจะยิงกันทำไม ทำไมไม่คุยกันดีๆ การอพยพมาอยู่ในครั้งนี้ตนรู้สึกอบอุ่น และต้องขอบคุณทุกท่านที่มีน้ำใจ ขอบคุณพี่น้องชาวไทยที่ส่งเงิน ส่งข้าวของอาหารเครื่องอุปโภคบริโภค และทุกอย่างมาช่วยเหลือ ทำให้พวกเรารู้สึกว่าคนไทยเราไม่เคยทิ้งกัน