
26 กรกฎาคม 2568 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ครั้งที่ 5/2568 ที่มีศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดีอี เป็นรองประธานกรรมการฯ นายเอกพงษ์ หริ่มเจริญ ผู้ตรวจราชการกระทรวงดีอี เป็นเลขานุการคณะกรรมการฯ ร่วมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ร่วมหารือเพื่อดำเนินงานการตามนโยบายปราบปรามภัยออนไลน์ของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
โดยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆ ประกอบด้วย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) สมาคมธนาคารไทย สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) สำนักงานคณะกรรมการการรักษาความมั่นคงปลอดภัยไซเบอร์แห่งชาติ (สกมช.) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ สมาคมโทรคมนาคมแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และสมาคมการค้าผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลไทย (TDO)
นายประเสริฐ กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งมีผลกระทบต่อประชาชนเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบัน พระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2568 และพระราชกำหนดการประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัล (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2568 มีผลบังคับใช้แล้วเมื่อวันที่ 13 เม.ย.2568 ที่ผ่านมา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการกำหนดมาตรการเพื่อให้เป็นไปตาม พ.ร.ก. ทั้ง 2 ฉบับ
ทั้งนี้ กระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณาในด้านของการเยียวยาผู้เสียหายที่ได้รับผลกระทบ ด้วยการคืนเงินที่สามารถยึดหรืออายัดมาได้จากมิจฉาชีพที่กระทำผิด ภายหลังผลการพิจารณาคดีของศาลถึงที่สุดแล้ว โดยมอบหมายให้ สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นผู้พิจารณาร่างกฎกระทรวงการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ ....ขึ้นมารองรับ
ในส่วนของรายละเอียดกฎกระทรวงฉบับดังกล่าว ประกอบด้วย การกำหนดหลักเกณฑ์ เงื่อนไข รายละเอียด /การพิจารณาคืนเงินหรือสินทรัพย์ดิจิทัล หรือชดใช้เงินคืนให้แก่ผู้เสียหายของคณะกรรมการธุรกรรม การแจ้งสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง / กำหนดวิธีการคืนเงิน หรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหาย / กรณีผู้เสียหายได้ใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง โดยต้องแจ้งให้ ปปง. รอผลการพิจารณาของศาลจนกว่าคดีจะถึงที่สุด / การจัดทำบัญชีการนำเงินคืนให้แก่ผู้เสียหายไว้เป็นฐานข้อมูล / การเก็บรักษาและจัดการเงิน กรณีไม่มีผู้เสียหายหรืออยู่ระหว่างการใช้สิทธิยื่นคำร้องต่อศาลแพ่ง และรอผลการพิจารณาคดีของศาล
ขณะเดียวกัน ที่ประชุม ยังได้พิจารณาผลดำเนินการและมาตรการเร่งด่วนเพื่อแก้ปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ ที่มีผลการดำเนินงาน ถึง 30 มิ.ย.2568 ที่ผ่านมา โดยสรุปได้ดังนี้
1.การปราบปรามจับกุมคดีอาชญากรรมออนไลน์ รวมทุกประเภท สถิติถึง 30 มิ.ย.2568 (ข้อมูลสำนักงานตำรวจแห่งชาติ)
2. การปิดโซเชียลมีเดีย เว็บผิดกฎหมาย และเว็บพนันออนไลน์ สถิติถึง 30 มิ.ย.2568
3. การแก้ปัญหาบัญชีม้า เร่งอายัด ตัดตอนการโอนเงิน
ผลการดำเนินงานที่สำคัญถึง 30 มิ.ย.2568 มีดังนี้
4.มาตรการแก้ไขปัญหาซิมม้า (ซิมของบุคคลธรรมดา/ต่างด้าว)
ที่ประชุม กสทช. เมื่อวันที่ 30 มิ.ย.2568 ได้มีมติเห็นชอบมาตรการเพื่อป้องกันอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ตามมาตรา 4/1 วรรคหนึ่ง เพื่อให้ผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้องร่วมรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น ตามมาตรา 8/10 แห่งพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ตามที่คณะอนุกรรมการบูรณาการบังคับใช้กฎหมายความผิดทางเทคโนโลยีฯ พิจารณาเสนอ ใน 8 มาตรการด้วยกัน
5. การออกกฎหมายลำดับรอง
ปัจจุบันกระทรวงดีอี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการออกกฎหมายลูกตามพระราชกำหนดมาตรการป้องกันและปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ. 2566 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ซึ่งบางฉบับได้รับการประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้ว อาทิ
“การออกกฎกระทรวงการคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายจากอาชญากรรมทางเทคโนโลยี พ.ศ .... เพื่อเป็นการเยียวยาให้กับผู้เสียหายจากภัยอาชญากรรมออนไลน์ ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งภารกิจที่สำคัญของ คกก.ฯ โดยขณะนี้ ร่างกฎกระทรวงฯ อยู่ระหว่างการพิจารณา และจะมีการนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีพิจารณาในลำดับต่อไป” นายประเสริฐ กล่าว