
นัดดินเนอร์พรรคร่วมรัฐบาล ที่โรงแรมอีสติน แกรนด์ พญาไท เย็นวันนี้ (22 ก.ค.68) พรรคเพื่อไทยเป็นเจ้าภาพ มีข่าว “นายใหญ่” ทักษิณ ชินวัตร ร่วมแจม เป้าหมายสำคัญน่าจะแก้ไขปัญหา “เสียงปริ่มน้ำ” สร้างความมั่นใจให้ สส. โดยในวันเดียวกันนี้นอกจากมีดินเนอร์พรรคร่วมแล้ว ยังมีประชุม ครม. ที่มีหลายวาระสำคัญ
ปกติการประชุมแกนนำพรรคร่วมรัฐบาล หารือระดับนโยบาย มักไม่ค่อยให้ สส.ร่วม เหมือนงานเลี้ยงพรรค แต่ครั้งนี้ถือว่าพิเศษให้ สส.เข้าร่วมด้วย
นอกจากให้ สส.ร่วมแล้ว ยังมี “นายใหญ่” ปรากฏตัว แปลว่าต้องการเรียกความเชื่อมั่น แก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ โดยใช้เครดิต “นายใหญ่” แม้จะเสี่ยงถูกเล่นงานด้วย “นิติสงคราม” ซ้ำอีกรอบก็ตาม
แต่ในวันเดียวกันยังมีข่าวเตรียมเคาะชื่อ สส.ไปดำรงตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 แทน “รองแบด” ภราดร ปริศนานันทกุล สส.อ่างทอง พรรคภูมิใจไทย ที่ไปเป็นฝ่ายค้าน
ก่อนหน้านั้น “เลขาฯบอย” สรวงศ์ เทียนทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย ออกมาบอกทำนองว่า ตำแหน่งนี้เป็นโควตาพรรคร่วมฯอันดับ 2 คือ พรรครวมไทยสร้างชาติ
งานนี้ “ประธานวิป” ไม่ได้ประสานงาน แต่ประสานงา “เลขาฯพรรค” หรือไม่ มีความลักลั่นหรือไม่ เพราะตำแหน่งที่ว่าง คือ รองประธานสภา คนที่ 2 หาก คุณพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน ซึ่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 รอดมาตรา 144 จะทำให้พรรคเพื่อไทยมีรองประธานสภา 2 คน
หากเตรียมจะแบ่งเก้าอี้รองประธานสภาให้พรรคร่วมฯ โดยใช้ตำแหน่งคุณพิเชษฐ์ เท่ากับแช่งคุณพิเชษฐ์ ล่วงหน้า ว่าจะไม่รอดหรือเปล่า
หรือพรรคเพื่อไทยใช้ตำแหน่งรองประธานสภาคนที่ 2 แก้ปัญหาเสียงปริ่มน้ำ โดยนำเก้าอี้ไปเกลี่ยให้ สส.อีสาน แก้ปัญหา “คลื่นใต้น้ำ” และยึดรองประธานสภาทั้ง 2 ตำแหน่ง ไม่แบ่งให้พรรคร่วมฯ เพื่อสกัดปัญหา เพราะตัดสินใจยากว่าจะยกเก้าอี้ให้ใคร
รวมไทยสร้างชาติ - พรรคอันดับ 2 จริงหรือไม่ มี สส.ทางการ 36 แต่แบ่งเป็น 2 ซีก 18 -18
กล้าธรรม - พรรคอันดับ 3 จริงหรือเปล่า เพราะมี สส. ไม่เป็นทางการ อ้างตัวเลข 36-37 แต่เป็นเอกภาพ ไม่อกแตก
สุดท้ายเพื่อไทยจึงยึดไว้เอง เพื่อแก้ปัญหา เพราะอ้างได้ว่า ตำแหน่งประธาน เสียให้พรรคประชาชาติไปแล้ว
นอกจากนี้ในวันที่ 22 ก.ค.2568 ยังมีเรื่องวุ่นตามมา จากเอกสารจดหมายเปิดผนึกของนักวิชาการ ค้านการตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย รวมถึงอาจมีการปรับย้ายข้าราชการระดับสูงในกระทรวงมหาดไทย อาจถึงคิวอธิบดีกรมที่ดิน และอธิบดีกรมอื่นๆ อีกบางกรม