svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

สภาสูง ค้านชะลอเลือก กก.องค์กรอิสระ หลัง ปิดห้องลับ! ถกความเห็น

สภาสูง ค้านชะลอเลือกกรรมการองค์กรอิสระ หลัง ปิดห้องลับ! ถกความเห็น - "นันทนา" ข้องใจทำไมต้องมีลับลมคมในจะกระทบความมั่นคงประเทศหรือเก้าอี้ตัวเอง

นายเทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา เสนอญัตติด้วยวาจาต่อที่ประชุมวุฒิสภา ขอให้วุฒิสภา ชะลอหรือเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระการประชุมของวุฒิสภา ที่ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) วุฒิสภา จะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ตำแหน่ง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จำนวน 1 ตำแหน่ง เนื่องจาก ขณะนี้ ยังมี สว.จำนวนถึง 2 ใน 3 ตกเป็นคู่กรณีอยู่ใน 2 องค์กรนี้ จากคดีการฮั้ว สว. จึงควรรอให้มีคำวินิจฉัย หรือคำตัดสินออกมาก่อน

สภาสูง ค้านชะลอเลือก กก.องค์กรอิสระ หลัง ปิดห้องลับ! ถกความเห็น สภาสูง ค้านชะลอเลือก กก.องค์กรอิสระ หลัง ปิดห้องลับ! ถกความเห็น เทวฤทธิ์ มณีฉาย สมาชิกวุฒิสภา

ขณะที่ นายอเนก วีระพจนานันท์ สมาชิกวุฒิสภา ได้เสนอให้ที่ประชุม ดำเนินการพิจารณาญัตติของนายเทวฤทธิ์ ด้วยการประชุมแบบลับ เนื่องจาก เห็นว่า มีข้อบังคับการประชุม ข้อที่ 13 ที่ระบุว่า การประชุมฯ หาก สว.ไม่น้อยกว่า 1 ใน 4 หรือไม่น้อยกว่า 50 คน สามารถร้องขอให้มีการประชุมลับ

 

ทำให้ นางสาวนันทนา นันทวโรภาส สมาชิกวุฒิสภา ได้ทักท้วงและตั้งข้อสงสัยว่า ในการอภิปรายการเสนอให้ชะลอการพิจารณาให้ความเห็นชอบตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และกรรมการ กกต.เหตุใดจะต้องเป็นลับลมคมใน ที่ประชาชนไม่ได้รับทราบ และสื่อมวลชนไม่สามารถรับรู้ และรายงานไปยังประชาชนได้ เพราะประชาชน ก็ต้องการให้ถึงการเลือกกรรมการองค์กรอิสระ ทั้งที่ สว.ก็เป็นผู้ถูกกล่าวหา และผู้กล่าวหา ดังนั้น การอภิปรายอย่างเปิดเผย เพื่อให้ประชาชนเข้าใจชัดเจน จึงต้องการทราบเหตุผลการประชุมลับ เพราะเหตุใด ขัดต่อความมั่นคงของรัฐ หรือความสัมพันธ์ระหว่างประเทศอย่างไร หรือความมั่นคงในตำแหน่งของตนเองอย่างไร ประชาชนควรจะได้รับทราบเหตุผลการเดินหน้าเลือกกรรมการองค์กรอิสระ หรือชะลอการพิจารณา

ขณะที่ นายวุฒิชาติ กัลยาณมิตร สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะเลขานุการวิปวุฒิสภา สนับสนุนให้มีการพิจารณาในญัตติของนายเทวฤทธิ์ เพื่อให้ได้ความเห็นร่วมกันเป็นมติและไม่ควรมาพิจารณาทบทวนอีก เพราะทุกครั้งในการพิจารณาให้ความเห็นชอบกรรมการองค์กรอิสระ ก็มักจะมี สว.ส่วนหนึ่ง ตั้งคำถาม หรือถามหาความชอบธรรมโดยตลอด พร้อมยังสนับสนุนให้ที่ประชุม ได้พิจารณาแบบลับ เพราะการอภิปรายเกี่ยวข้องกับองค์กรอิสระ ไม่เฉพาะศาลรัฐธรรมนูญ หรือกรรมการ กกต.แต่ยังมีองค์กรอิสระอื่น ๆ อีก ซึ่งการอภิปรายอาจไปกระทบได้ จึงขอให้นายมงคล สุรัจสัจจะ ประธานวุฒิสภา ดำเนินการตามข้อบังคับการประชุม ให้มีการลงมติ เพื่อให้ที่ประชุมฯ ได้ดำเนินการการพิจารณาแบบลับ 

อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก 135 คน สนับสนุนให้มีการพิจารณาญัตติขอให้วุฒิสภา ชะลอหรือเปลี่ยนแปลงระเบียบวาระการประชุมของวุฒิสภา ที่ในวันพรุ่งนี้ (22 ก.ค.) วุฒิสภา จะมีการพิจารณาให้ความเห็นชอบบุคคล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ จำนวน 2 ตำแหน่ง และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. จำนวน 1 ตำแหน่ง ตามที่นายเทวฤทธิ์ เสนอ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้ใช้เวลาในการหารือกันประมาณ 1 ชั่วโมง ก่อนที่ที่ประชุมจะมีการลงมติว่า จะเห็นชอบให้วุฒิสภา ชะลอการลงมติเลือกกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญหรือไม่ โดยที่ประชุมมีมติเสียงข้างมาก 127 เสียง ต่อ 7 เสียง งดออกเสียง 13 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการชะลอการเลือกกรรมการองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ

 

:: “เทวฤทธิ์” แห้ว! สภาสูงไม่รับลูกชะลอเลือกกรรมการองค์กรอิสระ - เผยเสียงข้างมากหวั่นผิด ป.อาญา มาตรา 157 ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ - ยืนยันไม่ยื่นขออำนาจองค์กรอิสระสั่ง สว.ยุติเลือก ::

 

อย่างไรก็ตาม นายเทวฤทธิ์ ในฐานะผู้เสนอญัตติด้วยวาจาต่อที่ประชุมวุฒิสภา ขอให้วุฒิสภา ชะลอการให้ความเห็นชอบบุคคล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และคณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือ กกต. รวมถึงกรรมการองค์กรอิสระอื่น กล่าวภายหลังที่ประชุมวุฒิสภา มีมติเสียงข้างมาก ไม่เห็นด้วยกับข้อเสนอดังกล่าวว่า เป็นไปตามที่นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงศ์ สมาชิกวุฒิสภา ในฐานะโฆษกวิปวุฒิสภา ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนไปก่อนหน้าที่ ที่กังวลว่า หากวุฒิสภา ชะลอการพิจารณา อาจเข้าข่ายความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 157 ฐานะละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบได้ ซึ่งตนเองก็ไม่ได้เห็นด้วย เพราะการจะผิดตามมาตรา 157 นั้น จะต้องพิจารณาถึงเจตนาประกอบด้วย และข้อเสนอของตนเองนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการขัดกันของผลประโยชน์ รวมถึงไม่ได้เป็นข้อเสนอใหม่ เพราะเมื่อการตรวจสอบประวัติ และจริยธรรมของผู้ที่จะดำรงตำแหน่งกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ กรรมการ ป.ป.ช.ของคณะกรรมาธิการฯ เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา ก็มีกรรมาธิการฯ ขอลาออกจำนวน 13 คน เนื่องจาก กังวลผลประโยชน์ทับซ้อน เพราะมีการยื่น ป.ป.ช.ตรวจสอบจริยธรรมพันตำรวจเอกทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม รวมถึงพันตำรวจตรียุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือ DSI ในการพิจารณาคดีฮั้ว สว.

 

ส่วนหลังจากนี้ จะมีการนำหลักฐานการพิจารณาคดีฮั้ว สว.ต่าง ๆ ยื่นต่อผู้ตรวจการแผ่นดิน หรือศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อให้วุฒิสภา ได้ชะลอการเลือกกรรมการองค์กรอิสระอีกครั้งหรือไม่นั้น นายเทวฤทธิ์ ระบุว่า ตนเองไม่เห็นด้วยกับกระบวนการใช้กรรมการองค์อรอิสระ จึงขอเสนอเพียงการใช้กลไกให้วุฒิสภาได้พิจารณากันเอง