
20 กรกฎาคม 2568 งานนี้ไทยใช้ช่องทางตามอนุสัญญาออตตาวา กดดันกัมพูชาได้อย่างแน่นอน เพราะทั้งสองประเทศล้วนเป็นภาคีและให้สัตยาบันอนุสัญญานี้เช่นเดียวกัน จากทั้งหมด 165 รัฐ/ประเทศทั่วโลก
กัมพูชา : ลงนามในอนุสัญญา วันที่ 3 ธ.ค.1997 ให้สัตยาบันวันที่ 28 ก.ค.1999 และมีผลบังคับใช้ หรือเข้าร่วมอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 1 ม.ค. ปี 2000 (พ.ศ.2543)
ไทย : ลงนามวันที่ 3 ธ.ค.1997 ให้สัตยาบันวันที่ 27 พ.ย. 1998 และมีผลบังคับใช้ หรือเข้าร่วมอย่างเป็นทางการเต็มรูปแบบ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ปี 1999 (พ.ศ.2543)
โครงสร้างของอนุสัญญาฯ :
- มีโครงสร้างการกำกับติดตามเพื่อให้ประเทศสมาชิกปฏิบัติหน้าที่ โดยมีองค์ประกอบหลัก คือ
1. การประชุมรัฐภาคี - จัดทุกปี (นอกเหนือจากการประชุมทบทวนใหญ่ทุก 5 ปี) / เวทีนี้ใช้พิจารณาสถานการณ์การละเมิด การร้องเรียน และแผนฟื้นฟูหรือเก็บกู้ทุ่นระเบิดที่ยังหลงเหลือ
** ไทยใช้เวทีนี้หยิบยกประเด็นขึ้นร้องเรียน หรือเรียกร้องให้ที่ประชุมพิจารณากรณีพฤติกรรมของกัมพูชาได้
2. คณะกรรมการสหประโยชน์ - ครอบคลุมด้านการกำจัดทุ่นระเบิด การช่วยเหลือเหยื่อ การปฏิบัติการตามข้อผูกพัน และความร่วมมือระหว่างประเทศ
** ไทยสามารถเสนอให้เรื่องนี้เข้าสู่คณะกรรมการด้าน “การปฏิบัติตามพันธกรณี (Compliance)” ได้
3. บทบัญญัติเรื่องการร้องเรียน อยู่ใน Article 8 – Facilitation and Clarification of Compliance
- ประเทศภาคีใดสามารถยื่นคำร้อง หากสงสัยว่ามีรัฐภาคีอื่นละเมิด
- ขั้นตอนเริ่มจาก การหารือทวิภาคี, หากไม่คืบหน้า สามารถส่งต่อเลขาธิการสหประชาชาติ เพื่อดำเนินการตามกระบวนการอนุสัญญา
- อาจมีการตั้ง “คณะผู้ตรวจสอบ (Fact-Finding Mission)” ลงพื้นที่สอบสวน
4. องค์กรระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
- UNMAS (United Nations Mine Action Service) และ ICBL (International Campaign to Ban Landmines) ทำหน้าที่ติดตามสถานการณ์และสนับสนุนข้อมูล