
15 กรกฎาคม 2568 ช่วงฝุ่นตลบภาษีทรัมป์ ที่มีการยืดเส้นตายใหม่ไปวันที่ 1 สิงหาคม 2568 ทำให้ข่าวลือถาโถม โดยเฉพาะกับไทยที่ยังไม่บรรลุข้อตกลง
ล่าสุดมีข่าว “ทรัมป์” ส่งหนังสือถึงทางการไทยอีก 1 ฉบับ ยื่นเงื่อนไข 4 เรื่อง เพื่อพิจารณาลดภาษี
เรื่องนี้ถ้าถามรัฐบาล คงไม่มีใครยอมรับ แต่หากถามคนในแวดวงที่สนับสนุนงานรัฐบาลอยู่ ก็จะรู้ระแคะระคายว่ามีการส่งสัญญาณเรื่องเหล่านี้มาเป็นระยะ แต่จะถึงขั้นเขียนเป็นเงื่อนไขส่งถึงไทยเลยหรือไม่ ไม่มีใครยืนยัน
รายการ “ข่าวข้นคนข่าว” เนชั่นทีวี ได้ตรวจสอบข้อมูลจากหน่วยงานความมั่นคงทั้งทหารและพลเรือน
เรื่องที่ 1 เป็นเรื่องในกระบวนการยุติธรรม ฝ่ายความมั่นคงแทรกแซงไม่ได้ แต่ขึ้นกับนโยบายรัฐบาล
เรื่องที่ 2 การแก้ไขกฎหมายเป็นเรื่องของสภา แต่นโยบายรัฐบาลอาจแสดงท่าทีให้ความสำคัญได้ เช่น กฎหมายนิรโทษกรรม อาจเป็นการส่งสัญญาณบวก
เรื่องที่ 3 "อุยกูร์" ฝ่ายความมั่นคงยอมรับว่า ยังมีชาวอุยกูร์บางส่วนที่ยังอยู่ในเรือนจำ เพราะตกเป็นจำเลยในคดีวางระเบิดศาลพระพรหม ส่วนที่เหลือส่งกลับหมดแล้ว และบุคคลที่ทางการสหรัฐฯต้องการตัว ไม่ได้อยู่ในความของไทยแล้ว
เรื่องที่ 4 ฐานทัพเรือที่พังงา สหรัฐฯ เคยเสนอเรื่องมาขอใช้จริง แต่ฝ่ายไทยไม่ได้ตอบรับในรายละเอียด และไม่เคยอนุมัติ โดยการติดต่อขอใช้ มีวัตถุประสงค์เป็นศูนย์ซ่อมเรือสนับสนุนให้กับไทย ยืนยันว่าไม่ใช่ให้ตั้งฐานทัพ และไม่เกี่ยวกับการปฎิบัติการทางทหารใดๆ เพราะไทยต้องยึดหลักสมดุล
ขณะที่ แหล่งข่าวจากกองทัพเรือ บอกว่า ยังไม่เคยมีข้อเสนอว่า จะใช้ฐานทัพเรือพังงา เป็นฐานทัพเรือของสหรัฐฯ เพราะสำหรับประเทศไทย ไม่สามารถทำได้อยู่แล้วในการตั้งฐานทัพของประเทศใด
แต่ตามข้อตกลงระหว่างไทย-สหรัฐฯ เรื่องของการส่งกำลังบำรุง สหรัฐฯ สามารถมาจอดที่ฐานทัพเรือพังงา และรับการส่งกำลังบำรุง เติมน้ำมัน หรือพักเรือได้อยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นฐานทัพใดก็ตาม เช่น สนามบินอู่ตะเภา ที่สหรัฐฯ ก็มาใช้ตลอด ซึ่งกองทัพเรือมิตรประเทศ ก็สามารถที่จะมาจอดใช้ฐานทัพเรือต่างๆ ของกองทัพเรือไทย ตามข้อตกลงอยู่แล้ว ไม่มีข้อเสนอถึงขั้นการเป็นฐานทัพของสหรัฐฯ
ทั้งนี้ แม้ไทยจะรู้ว่าสหรัฐฯ อยากจะมีฐานทัพในประเทศไทยมายาวนานแล้วก็ตาม แต่รัฐบาลไทยทุกยุค และกองทัพเรือก็ไม่เคยยินยอม