"มาริษ-หวังอี้" ร่วมประชุม รมว.กต.อาเซียนจีน ยกระดับ "FTA 3.0"

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน ในห้วงการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (AMM) ครั้งที่ 58 ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซียนว่า ที่ประชุมฯ ได้หารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมือ ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน และได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นในประเด็นต่าง ๆ ซึ่งสมาชิกอาเซียน แสดงความยินดีที่จีนมีความประสงค์จะเข้าร่วมภาคีพิธีสารของสนธิสัญญาเขตปลอดอาวุธนิวเคลียร์เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยไม่มีข้อสงวน ซึ่งหากสามารถดำเนินการได้ จีนจะเป็นประเทศที่ครอบครองอาวุธนิวเคลียร์ประเทศแรก ที่จะร่วมสนธิสัญญาดังกล่าว 

นอกจากนี้ ที่ประชุมยังให้ความสำคัญการปราบปรามอาชญากรรมข้ามชาติและการค้ามนุษย์ การยกระดับ Asean-China FTA 3.0 รวมไปถึงการฉลองความสัมพันธ์ อาเซียน-จีนในปีหน้าด้วย 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยอีกว่า ในการประชุมระหว่างอาเซียน กับหลายประเทศคู่เจรจาในช่วงสัปดาห์นี้ ไทยจะผลักดันความร่วมมือใน 3 ประเด็นหลัก คือ การขับเคลื่อนความร่วมมือด้านเศรษฐกิจดิจิทัล ในฐานะที่ไทยเป็นประธานคณะกรรมการเจรจาเพื่อจัดทำกรอบความตกลงด้านเศรษฐกิจดิจิทัลของอาเซียน และต้องการจะผลักดันให้สำเร็จในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มโอกาสและรายได้ให้ภาคเอกชนและภาคธุรกิจในอาเซียน นอกจากนี้ ไทยยังย้ำถึงการแก้ไขปัญหาภัยคุกคามด้านความมั่นคงทุกรูปแบบ อาทิ ปัญหายาเสพติด, ปัญหาตามแนวชายแดน, รวมถึงปัญหาหมอกควัน ซึ่งปัญหาเหล่านี้หลายประเทศทั้งในและนอกอาเซียนต่างเห็นตรงกัน นอกจากนี้ ไทยยังย้ำบทบาทเรื่องการพัฒนาที่ยั่งยืน, แก้ปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ รวมไปถึงการพัฒนาสีเขียวด้วย 

 

สำหรับประเด็นมาตรกาภาษีของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ''ที่ประชุมในหลายวงประชุม'' ได้มีการนำประเด็นดังกล่าวขึ้นมาหารือ ซึ่งทุกประเทศสมาชิกเห็นตรงกันว่า ถึงเวลาที่อาเซียนควรมีความร่วมมือ เพื่อรับมือกับความท้าทายดังกล่าวอย่างจริงจัง

ทั้งนี้ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-จีน นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของไทย เข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ด้วย พร้อมนายหวัง อี้ รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณะรัฐประชาชนจีน ซึ่งประเทศมาเลเซีย ในฐานะประเทศเจ้าภาพ หวังว่า ความร่วมมือระหว่างจีนและอาเซียน จะแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น และมุ่งมั่นที่จะทำงานร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนทั้งหมดร่วมกับจีน เพื่อผลักดันความเป็นหุ้นส่วนนี้ให้ก้าวหน้าไปอีกขั้นที่จะนำมาซึ่งประโยชน์ที่แท้จริงต่อประชาชนในภูมิภาค

 

ที่ประชุมยังหารือแนวทางการส่งเสริมความร่วมมืออาเซียน-จีน ภายใต้ความเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์แบบรอบด้าน และแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับประเด็นระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศ โดยไทยได้ผลักดันประเด็นความร่วมมือที่สำคัญ ได้แก่ การรับมือกับภัยคุกคามข้ามพรมแดน โดยเฉพาะอาชญากรรมข้ามชาติและการหลอกลวงทางออนไลน์, การบูรณาการทางเศรษฐกิจในภูมิภาค เศรษฐกิจดิจิทัลและเศรษฐกิจสีเขียว และ การเสริมสร้างความสัมพันธ์ระดับประชาชน รวมทั้งได้เน้นย้ำบทบาทสำคัญของจีนต่อการรักษาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างประเทศมหาอำนาจ