
4 กรกฎาคม 2568 นายอรรถกร ศิริลัทธยากร รมว.กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พร้อมด้วย นายอัครา พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ มอบนโยบายขับเคลื่อนงานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยได้เน้นย้ำถึงหลักการทำงานสำคัญ โดยเฉพาะการพิทักษ์รักษาไว้ซึ่งสถาบันพระมหากษัตริย์ โดยมุ่งเน้นการสืบสาน รักษา และต่อยอด ควบคู่ไปกับการสานต่อนโยบายเดิม 9 นโยบายของ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีต รมว.เกษตรฯ และเพิ่มเติมมาตรการเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมแกร่งเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันได้ ภายใต้วิสัยทัศน์ Ignite Thailand ให้ไทยเป็นศูนย์กลางการเกษตรของโลก
นายอรรถกร กล่าวต่อว่า ระยะเวลาที่เหลือต่อจากนี้จะดำเนินการสานต่อ 9 นโยบายสำคัญของ ร.อ.ธรรมนัส และดำเนินการ มาตรการเร่งด่วนเพิ่มเติมคือ มาตรการเพื่อลดต้นทุน เพิ่มรายได้ และเสริมแกร่งเกษตรกรไทยให้สามารถแข่งขันได้ดังนี้
1. การลดต้นทุน เพิ่มรายได้ โดยมี การจัดหาพันธุ์ดี สนับสนุนพันธุ์พืช ประมง และปศุสัตว์คุณภาพได้มาตรฐานที่ตลาดต้องการ ไม่เน้นความหลากหลาย แต่เน้นคุณภาพที่เกษตรกรสามารถผลิตและขายได้ในราคาที่ดี ส่งเสริมการแปรรูปสินค้าเกษตร กระทรวงเกษตรฯ จะกำกับดูแลในมิติของการแปรรูปขั้นต้น รวมถึงการบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรและบริหารจัดการด้านการตลาดสินค้าเกษตร กระทรวงเกษตรฯ จะดูแลทั้งระบบตั้งแต่ข้อมูลการผลิต การส่งเสริมการผลิต การแปรรูป และการตลาด โดยส่งเสริมให้เกษตรกรหาตลาดได้ด้วยตนเอง องค์การตลาดเพื่อเกษตรกรจะต้องปรับตัวเป็นตลาดรองรับผลผลิต
ส่วนเรื่องที่ 2 เสริมแกร่งเกษตรกรให้สามารถแข่งขันได้ซึ่งต้องผลักดันเรื่องการสร้างโอกาสขยายระยะเวลาการชำระหนี้ของเกษตรกร และสร้างวินัยทางการเงินเพื่อบรรเทาภาระหนี้สินที่เพิ่มขึ้น ควบคู่ไปกับการสร้างโอกาสให้เกษตรกรมีเงินลงทุนทำการเกษตร รวมถึงสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนให้กับเกษตรกร
และเรื่องที่ 3 ปรับปรุงกฎหมายที่ล้าสมัยให้เป็นปัจจุบัน เพื่อลดขั้นตอนและกระบวนการที่เป็นอุปสรรค และป้องกันสินค้าเกษตรที่ทะลักเข้ามาในประเทศอย่างผิดกฎหมาย โดยให้ทุกหน่วยงานทบทวนและปรับปรุงกฎหมายกฎหมายที่ใช้อยู่ พร้อมทั้งกำหนดแนวทางแก้ไขพร้อม Timeline ที่ชัดเจนเพื่อผลักดันให้เกิดผลที่เป็นรูปธรรม
สำหรับ 9 นโยบายเดิม ประกอบด้วย
1. เน้นการสร้างวิธีการทำงานสู่การปฏิบัติ เล็งเห็นว่าการสร้างศักยภาพของทุกหน่วยงานเป็นสิ่งสำคัญ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จะต้องเข้าถึงเกษตรกรและพึ่งพาได้ เน้นเชิญชวนผู้บริหารเข้าถึงพื้นที่
2. จัดสรรที่ดินทำกิน รวมถึงมอบหมายให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) เร่งรัดการยกระดับเอกสารสิทธิให้เป็นโฉนดเพื่อการเกษตร ซึ่งขณะนี้กำลังติดตามตัวเลขการขอลงทะเบียนออกโฉนด รวมถึงผลการดำเนินการต่าง ๆ
3. การบริหารจัดการน้ำทั้งระบบ ปีนี้ประเด็นสำคัญของกระทรวงเกษตรฯ คือการบริหารจัดการน้ำให้มีคุณน้ำและมีศักยภาพเพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกร เน้นเพิ่มผลผลิตต่อไร่ให้มากขึ้น โดยจากข้อมูลปี 2567 พบว่ารายได้ของเกษตรกรลดลง หนึ่งในสาเหตุหลักคือภาวะน้ำแล้ง ส่งผลกระทบไปยังผลผลิตทั้งพืชและสัตว์
4. ยกระดับสินค้าเกษตรและสินค้าเกษตรมูลค่าสูงที่มี GDP ด้านการเกษตรสูงถึง 75.8%
5. ยกระดับศักยภาพของเกษตรกรและสถาบันการเกษตรกร เรามีความจำเป็นให้เกษตรกรเข้าถึงแหล่งเงินทุนสนับสนุนการเข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ (Soft Loan) และส่งเสริมให้เป็นผู้ให้บริการทางการเกษตรครบวงจร
6. จัดการทรัพยากรทางเกษตรที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
7. รับมือป้องกันภัยธรรมชาติ โดยการวางแผนมาตรการเชิงรุกเพื่อรับมือตั้งแต่การป้องกัน แก้ไข และฟื้นฟู หากพื้นที่ที่พบว่าวิธีการรับมือแบบเดิมไม่สามารถดำเนินการได้ ก็จะต้องศึกษาหาวิธีใหม่ ๆ
8. สานต่อการทำสงครามสินค้าเกษตรเถื่อน เราต้องเร่งปราบปรามมาตรการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตรที่กฎหมายซึ่งเป็นเรื่องที่เน้นย้ำความสำคัญและต้องดำเนินการอย่างเร่งด่วน
9. อำนวยความสะดวกด้านเกษตร สิ่งที่ทำได้ทันทีคือการแก้กฎหมายที่เป็นอุปสรรคต่อเกษตรกร มาตรการการนำเข้าสินค้าและส่งออกต้องมีความเท่าเทียมกันเพื่อปกป้องเกษตรกร
นายอรรถกร กล่าวระหว่างการมอบนโยบายว่า ตนโชคดีที่ได้กลับมาทำงานให้กับกระทรวงเกษตรอีกครั้ง จากก่อนหน้านี้ได้ทำจากก่อนหน้านี้ได้ทำมาแล้ว 120 วัน ซึ่งเวลาของรัฐบาลชุดนี้เหลืออีกหนึ่งปีครึ่ง จึงจำเป็นต้องเน้นนโยบายระยะสั้น โดยตนจะเชิญผู้บริหารของกระทรวงลงพื้นที่แก้ปัญหาให้กับเกษตรกรให้ได้มากที่สุด
นายอรรถกร กล่าวอีกว่า การที่ได้มีโอกาสทำงานตั้งแต่เป็น รมช.เกษตรฯ และเป็น รมว.เกษตรฯ ตนยืนยันและไม่อายใคร เพราะได้การสนับสนุนจาก ร.อ.ธรรมนัส ซึ่งตนจะนำความรู้สึกความปรารถนาดี นำแนวทางของท่าน มาทำใหม่ กับ ท่านอัครา เราสองคนช่วยกันทุกเรื่อง ได้รวบรวมแนวทางการทำงาน 9 ข้อ ที่ท่านธรรมนัส เคยเสนอต่อ นายเศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรี มาสู่การปฎิบัติ เช่นการต่อยอดโฉนดที่ดินเพื่อการเกษตร จะมอนิเตอร์ตัวเลขของเกษตรกรแต่ละจังหวัด ให้ออกโฉนดได้เร็วขึ้น การบริหารจัดการน้ำให้มีศักยภาพ เพื่อเพิ่มรายได้สินค้าเกษตร สิ่งสำคัญเร่งด่วน คือการลดต้นทุนการผลิต การเร่งระบายสินค้าเกษตร เพื่อแก้ปัญหาราคาตกต่ำ จึงเป็นหน้าที่ของข้าราชการทุกคนที่ต้องช่วยกันหาตลาดใหม่ๆ เพิ่มขึ้นให้ได้โดยเร็ว
รมว.เกษตรฯ กล่าวว่า หัวใจสำคัญคือการยกระดับศักยภาพ การผลิต และการสนับสนุนเครื่องจักรให้กับเกษตร จะลดต้นทุนภาคเกษตรลงได้ ต้องสำเร็จสมัยตนเป็นรมว.เกษตรฯ พร้อมกันนี้พวกเราต้องกันคิดแก้ไขให้ได้อะไรที่เกษตรกรทำแล้วเป็นหนี้ ต้องช่วยกันคิดแบบใหม่ เน้นเกษตรปราณีต ขอเน้นย้ำหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องป้องกันการทะลักเข้ามาของสินค้าเกษตร ยืนยันว่าไม่ได้กลั่นแกล้งใครไม่สนนายทุนจะเป็นใคร
ด้าน นายอัครา กล่าวว่า ไม่ต้องบอกเป็นนโยบายของใคร การเมืองมันสั้น แต่ตนโชคดีได้มาทำงานให้กับเแผ่นดินอีกรอบ สิ่งสำคัญการทำงานเกษตร ต้องมีน้ำมีดิน ได้ทำงานถวายในหลวง ตนให้กำลังใจข้าราชการ ทำงาน ไม่เคยไปล้วงเรื่องระบบงบประมาณ ให้โอกาสข้าราชการทำงานเต็มที่ เราเป็นระบบครอบครัว ซึ่งตนเห็นว่าการจัดสรรงบประมาณของประเทศให้ควาทสำคัญโครงสร้างพื้นฐานมากไป กระทรวงเกษตรฯงานหนักมาก แต่ได้งบน้อย ดังนั้นเมื่อสภาพอากาศแปรปรวนกระทบผลผลิตและทรัพยากรธรรมชาติน้อยลง ก็ตองหันมาเพาะเลี้ยง ตนจะทำโครงการนำร่องสักจังหวัด แต่ไม่รู้ว่าวาระการเป็นรัฐมนตรีจะยาวนานแค่ไหน