งานนี้ไม่ใช่ “พูโล” แต่สงสัย “พูเรา” สวมรอยเผา อบต.กลบโกง?

29 มิถุนายน 2568 ช่วงนี้สถานการณ์ไฟใต้ เหตุความไม่สงบในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ ถือว่า “คุโชน” ไม่แพ้ไฟขัดแย้งระหว่าง “สมเด็จฮุนเซน” กับคนตระกูล “ชินวัตร”

มีเหตุรุนแรงในพื้นที่ เกิดขึ้นรายวัน เช่นกรณีเช้ามืดวานนี้ (28 มิ.ย.) ที่มีกลุ่มก่อความไม่สงบรวม ตัวกันเข้าโจมตี ฐานปฏิบัติการของชุดคุ้มครองตำบลเกียร์ หรือ ชคต.เกียร์ อำเภอสุคริน จังหวัดนราธิวาส ข่าวแจ้งว่าระดมกำลังกันมาถึง 50 คน อาวุธครบมือ

 

แต่การก่อเหตุรุนแรงในพื้นที่ ซึ่งยืดเยื้อมากว่า 21 ปี ต้องตรวจสอบให้ดีๆ เพราะมีทั้ง “โจรใต้ - พูโล - พูเรา” หลายๆ ครั้งก็เป็นการก่อเหตุสวมรอย กลบเกลื่อนปัญหาอื่น

อย่างเช่น เหตุการณ์คนร้าบลอบวางเพลิงครั้งใหญ่ ที่อาคารสำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบลแป้น หรือ อบต.แป้น อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เมื่อช่วงค่ำวันที่ 25 มิ.ย. คือวันพุธที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้อุปกรณ์สำนักงาน เอกสารทางราชการ ตัวอาคาร และรถยนต์ ทั้งรถดับเพลิง รถขนขยะ และรถกระบะของ อบต.เสียหายวอดวายหย่างหนัก ซึ่งทีแรกคาดว่า เป็นน้ำมือของ “โจรใต้” นั้น

ล่าสุดมีข่าวจากทางคณะกรรมการ ป.ป.ช.ในพื้นที่ว่า อาจเป็นการเผาเพื่อทำลายหลักฐานการทุจริตที่กำลังถูกตรวจสอบอยู่อย่างเข้มข้น


เจ้าหน้าที่ ป.ป.ช.ในพื้นที่ รายหนึ่ง บอกว่า การเผา อบต.รอบนี้ ทำลายเอกสารโครงการที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบของ ป.ป.ช.และ ป.ป.ท. หรือ คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ทั้งหมด โดยโครงการนี้อยู่ในอำนาจการตรวจสอบของ สำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดปัตตานี นั่นก็คือ โครงการขุดลอกคลอง วงเงินงบประมาณ 6 ล้าน 8 แสนบาท

โครงการนี้ แม้จะส่งมอบงาน และเบิกจ่ายงบประมาณไปแล้ว แต่พบความไม่ชอบมาพากล ซึ่งทั้ง ป.ป.ช. และ ป.ป.ท.กำลังตรวจสอบอย่างเข้มข้น


 

พ.ต.อ.ธีรพจน์ ยินดี ผู้กำกับการ สภ.สายบุรี ยอมรับว่า ตำรวยยังไม่ได้สรุปสาเหตุการวางเพลิง โดยกำลังเร่งหาแรงจูงใจที่แท้จริงของคนร้าย รวมทั้งรอผลตรวจปลอกกระสุนปืนเอ็ม 16 ที่ตกอยู่ในที่เกิดเหตุ ว่าเคยใช้หรือเชื่อมโยงกับเหตุการณ์ใดบ้าง

ขณะที่ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวว่า เรื่องนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ด้าน เจ้าหน้าที่หน่วยข่าวกรองด้านความมั่นคง บอกว่า ก็เป็นไปได้ที่อาจมีการทุจริตเกิดขึ้น และมีการใช้คนจากกลุ่มขบวนการมาก่อเหตุ เพื่อผสมโรงกับสถานการณ์ความไม่สงบ ซึ่งที่ผ่านมาก็มีหลายเหตุการณ์ที่กลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ว่าจ้างกลุ่มขบวนการมาสร้างสถานการณ์ ซึ่งเมื่อตรวจสอบหลักฐานก็สอดคล้องไปในทางนั้น เพราะคนในขบวนการมาก่อเหตุจริงๆ แต่เมื่อจับกุมตัวได้ ก็จะได้ข้อมูลจากการสารภาพว่า บางกรณีไม่ใช่เรื่องของอุดมการณ์ แต่เป็นการรับจ้างกลุ่มอิทธิพลมาก่อเหตุ