
26 มิถุนายน 2568 นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณี ฮุนเซน ได้รับการแต่งตั้งเป็นเสนาธิการทหารสูงสุดกัมพูชา และมาตรวจสถานการณ์ชายแดนไทยกัมพูชา เป็นการส่งนัยยะว่า สถานการณ์จะรุนแรงขึ้นหรือไม่ โดยบอกว่าขณะนี้ฟังและพิจารณา พร้อมทั้งติดตามสถานการณ์ เนื่องจากมีความเปลี่ยนแปลงได้ตลอด ผู้ที่เกี่ยวข้องต้องไปคิดและวิเคราะห์ แต่มองว่าอย่าไปตามมาก เพราะเปลี่ยนแปลงได้ตลอด
ส่วนที่ ฮุนเซน ได้เป็นเสนาธิการทหารสูงสุดกัมพูชา คงไม่มองอะไร เพราะเราไม่รู้เหตุผล สื่อต้องไปสืบเอง ในขณะที่การประชุมสภากลาโหมวันนี้ ได้วิเคราะห์และประเมินสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นภายในประเทศ ส่วนของชายแดนไทย-กัมพูชา ที่เป็นปัญหาข้อพิพาท สงบลงไปเยอะแล้ว โดยรัฐบาลวางเป้าหมายว่า จะแก้ปัญหาโดยสันติผ่านกลไกทวิภาคี ส่วนมาตรการเปิด-ปิดด่าน ยังไปไม่ถึงการปิดด่านทั้งหมด เพราะไม่อยากให้ส่งผลกระทบ ต่อประชาชนตามแนวชายแดน รวมถึงยึดหลักมนุษยธรรม
ส่วนจะพิจารณามาตรการปิดปราสาทตาเมือนธม เพราะเป็นพื้นที่ละเอียดอ่อน ในขณะนี้หรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ยังอยู่ในสถานการณ์เดิม ทั้งนี้ ตนอยากแก้ข่าวกรณีที่ นายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. กล่าวหาว่า ตนเซ็นอนุญาตให้ทหารกัมพูชาขึ้นไปที่ปราสาทตาเมือนธม ไม่เป็นความจริงทั้งสิ้น และฝากถึงนายสมชัย อย่าพูดอะไรที่ก่อให้เกิดความเสียหายกับคนอื่น ตนยืนยันว่า ไม่เคยเซ็นอะไร ในฐานะที่ตนเป็นบุคคลสาธารณะก็พร้อมรับฟัง หากนายสมชัยมีปัญหา หรือหลักฐาน ก็เอามาเปิดเผย ตนยินดีจะพบทุกเวที
“ยืนยันว่าคงไม่ฟ้อง แค่อยากทำความเข้าใจ บ้านเมืองจะได้อยู่อย่างสงบ อีกทั้งคนที่ถูกกล่าวหา จะแก้ข่าวแต่ละครั้งเป็นเรื่องที่ยาก เพราะบางทีเป็นภาพจำของประชาชนไปแล้ว ตนเป็นนักการเมืองพร้อมพิสูจน์ตัวเอง วิจารณ์ได้แต่จะต้องอยู่บนพื้นฐานข้อเท็จจริง”
ส่วนการปรากฎภาพ เรือน้ำมันของไทย จอดอยู่บริเวณสีหนุวิลล์นั้น ยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบ
เมื่อถามถึงกรณีที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้รัฐบาลตรวจสอบข้อเท็จจริง เหตุลอบสังหารอดีตผู้นำฝ่ายค้านกัมพูชา ในประเทศไทยเมื่อต้นปีที่ผ่านมา นายภูมิธรรม ยอมรับว่า รัฐบาลตรวจสอบมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ซึ่งเป็นเรื่องการเมืองนอกประเทศเข้ามาเกี่ยวข้อง อาจต้องใช้เวลา เพราะเราไม่สามารถเข้าไปสอบสวนภายในประเทศเขาได้ แต่เราพยายามจะทำ