3 พฤษภาคม 2568 เมื่อช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน้าหอพื้นถิ่นล้านนา อำเภอเมือง จังหวัดเชียงใหม่ "พรรคประชาชน" ได้มีการจัดเวทีปราศรัย ที่ใช้ชื่อ กิจกรรรมว่า “เริ่มแล้ว รับเหมาปราศรัย ตอน ทำไมต้องธีรวุฒิ“
ซึ่ง นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน เดินทางมาขึ้นปราศรัยและช่วยหาเสียงเพื่อหวังให้ นายธีรวุฒิ แก้วฟอง หรือ เหมา ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครเชียงใหม่ พรรคประชาชนครองเก้าอี้นายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็นสมัยแรกให้ได้
โดยบรรยากาศก่อนที่นายพิธาจะเดินทางมาถึงบริเวณนี้ทาง สส.เชียงใหม่พรรคประชาชนก็ได้ขึ้นเวทีกล่าวสนับสนุนนายธีรวุฒิ ให้กับแฟนคลับพรรคประชาชนที่มาร่วมงาน และผ่านทางไลฟ์สด รวมประชาชนที่เดินทางผ่านบริเวณนี้ หลังจากนั้นเมื่อนายพิธามาถึง ก็ได้ทักทายแฟนคลับก่อนที่จะขึ้นบนเวทีปราศรัย
นายพิธา กล่าวว่า ตนเป็นอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล และตอนนี้เป็นผู้ช่วยหาเสียงของพรรคประชาชน วันนี้ขออนุญาตเข้าพื้นที่มาตามหาชัยชนะให้เพื่อนรักของผม เหมา-ธีรวุฒิ แก้วฟอง เบอร์ 2 วันนี้ขอมาขอคะแนนความไว้วางใจจากพี่น้องเทศบาลเทศบาลนครเชียงใหม่
เพราะการเลือกตั้งครั้งที่จะถึงนี้ มีความสำคัญและความเป็นไปได้อย่างยิ่งที่เราจะชนะ ตนในฐานะอดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกลเราได้ สส.เชียงใหม่มา 7 คน และแบบบัญชีรายชื่ออีกที่ถล่มทลาย เนื่องจากมีคนมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่กว่า 70% ครั้งนี้ถ้ามาใช้สิทธิ์กันเยอะแบบครั้งก่อนนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่เป็น “เหมา” แน่นอนแต่พอเป็นเลือกตั้งแบบท้องถิ่นความสนใจอาจจะแตกต่างกันกับเลือกตัังใหญ่ระดับประเทศ ตอน อบจ. ตนก็มาช่วยหาเสียงแม้ว่าจะแพ้แต่คนที่ใช้สิทธิ์เลือกตั้งเหลือแค่ 50% เท่านั้น แต่ถ้านับใน 4 แขวงจากการเลือกตั้งอบจ. ถือว่าเราชนะ
หลังจากนี้ตนต้องเดินทางไปต่างประเทศ วันนี้ขอแวะมาเชียงใหม่ก่อนด้วยความไม่สบายใจเห็นอดีตเลขาธิการพรรคบอกมันมี สมุดของอีแก่ออกมา บอกว่ามีทั้งชื่อมีทั้งเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ครบ หรือเราจะเรียกว่า เดธโน๊ต
สิ่งนี้ทำให้ตนไม่ค่อยจะมั่นใจเพราะหากประชาชนชาวเชียงใหม่ใน 40 ตารางกิโลเมตร 4 แขวงไม่ออกใช้สิทธิ์เลือกตั้ง เพราะอาจจะเบื่อหน่ายการเมืองรู้สึกว่าเลือกไปก็เปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้ตรงนี้น่าเป็นห่วง อยากจะบอกว่าการเลือกตั้งในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ก็สำคัญเช่นกันเพราะใกล้ชิดกับคนในพื้นที่
ครั้งนี้ตนมองว่าเป็นโอกาสที่เราจะปักธงกลางเมืองเชียงใหม่ ตนเข้าใจดีครั้งที่แล้วเป็นวันเสาร์ตนก็งงอยู่ว่าทำไมถึงเป็นวันเสาร์ แต่ครั้งนี้เป็นวันอาทิตย์แถมเป็นวันอาทิตย์ที่หยุดยาวอีก ฉะนั้นขอให้พี่น้องชาวเชียงใหม่คนที่อยู่ในพื้นที่เทศบาลเทศบาลนครเชียงใหม่วางแผนการเดินทางทำกิจกรรมกับครอบครัวแล้วก็ไปใช้สิทธิ์เลือกตั้ง
ตนตัวอยู่ไกลแต่ใจอยู่ใกล้ที่นี่ ในตอนที่หัวหน้า”เท้ง“
มีคนมาเรียกเค้าว่า “สึ่งตึง“ ตนคิดว่าต้องเปลี่ยนใหม่เป็น“ณัฐพงษ์ เหน็ดขนาด” (แปลว่า ดีมาก เก่งมาก)
ณัฐพงษ์ นามสกุล เรืองปัญญาวุฒิ จะไปเรียกปัญญาอ่อนได้อย่างไร อยู่ดีดีไปเรียกเขาสึ่งตึง คนอยากเสนอก็ภาษาเหนือคนละคำให้เปลี่ยนเป็นเหน็ดขนาดแทน
มันมีอีกเรื่องหนึ่งที่ตนเสียดายเค้าอุตส่าห์ทำนโยบายมามากมาย เหมาได้คิด นโยบายของเทศบาลนครเชียงใหม่แล้ว ยังได้เจาะไปในแต่ละแขวงว่าแต่ละแขวงเจอกับปัญหาอะไรและต้องแก้ไขอย่างไรในแต่ละพื้นที่ที่ปัญหาแตกต่างกัน แต่ฝั่งนั้นพยายามหาเรื่องอื่น ๆมาเป็นกระแส เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนลืมดูนโยบายไปเห็นเรื่อง ๆแทน
นายพิธา กล่าวอีกว่า ที่เขาบอกว่าตอนนั้น พรรคก้าวไกลตั้งรัฐบาลไม่ได้เพราะไม่มีเพื่อน ตนขอถามกลับนิดเดียวว่าแน่ใจเหรอ ว่าที่อยู่รอบรอบนั้นคือเพื่อน ข้างหลังถืออะไรไว้ก็ไม่มีใครรู้
แต่ที่ผ่านมาแล้วขอให้ผ่านไป ขอให้ประชาชนเชียงใหม่อย่าเสียสมาธิเป็นอันขาดอย่าไปตกหลุมกับดักของเค้าที่จะพยายามพูดเรื่องอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับนโยบายในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ 40 ตารางกิโลเมตรประชาชนต้องช่วยกันรู้เท่าทันวิธีคิดของฝ่ายตรงกันข้ามว่า เค้าต้องการพูดคำแรงแรงเพื่อที่จะให้พลาดหัวข่าวทุกอย่างเป็นแบบนั้นจะได้ไม่ต้องไปให้ประชาชนเห็นนโยบายว่าเป็นอย่างไร
ตนอยากให้ประชาชนดูการดีเบตแต่ละครั้งและแยกแยะอย่างมีสติตามนโยบายของผู้สมัคร นี่คือเดิมพันของพี่น้องชาวเชียงใหม่ทุกคนที่จะมีโอกาสที่จะชนะมีโอกาสที่จะปักธงได้ในครั้งนี้และถือว่าเป็นกระดุมเม็ดแรกในการสู้การเลือกตั้งครั้งใหญ่ในปี 2570ปี 2570 พรรคประชาชนจะเป็นรัฐบาลที่ดีที่สุด
สิ่งสำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือไม่ต้องมาถามหรอกว่าพรรคประชาชนจะจับมือกับพรรคโน้นพรรคนี้หรือไม่ ตั้งแต่อนาคตใหม่และพรรคก้าวไกล เราไม่เคยเปลี่ยนจุดยืน เราเหมือนเดิมมาโดยตลอด เราจะจับมือกับพรรคไหนกับใครเราดูที่อะไร ไม่ได้ดูที่ใครใครที่บอกว่าไม่สืบทอดรัฐประหาร ใครบอกว่าจะแก้รัฐธรรมนูญ ใครบอกที่ว่าจะปฏิรูปกองทัพ พรรคเราเหมือนเดิมกลับไปถามพรรคคุณเถอะว่าครั้งหน้าคุณจะทำอย่างไรคุณจะทำอะไร
ไม่ต้องมาถามเราหรอกว่าหาเสียงด้วยพรรคสีส้มเป็น สจ.แล้วย้ายพรรค ขอถามกลับว่าพรรคคุณมีอุดมการในการดูดคนของพรรคคนอื่นด้วยหรอ ต้องตั้งคำถามกับคนที่ย้ายไปและถามพรรคนั้นว่ามีนโยบายทำ ฟาร์มงูเห่าด้วยหรือ
แน่นอนว่าเราต้องรับผิดชอบ สท. ของเรา ครั้งนี้พี่น้องประชาชนสื่อมวลชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบ ถามเขาก่อนถึงจะวันเลือกตั้ง ไปถามเขาเลยว่าจะย้ายพรรคหรือเปล่าจะซื่อตรงกับประชาชนหรือเปล่ากินแรงเพื่อน หรือหาเสียงด้วยพรรคสีส้มแล้วถึงเวลาได้ตำแหน่งมาไปเปลี่ยนสีของตัวเอง คนที่ต้องโดนถามไม่แพ้กันก็คือคนที่เป็นคนดูดออกไป พรรคคุณมีนโยบายในการดูดงูเห่าอย่างนี้หรือ
คนที่ย้ายไปนั้น คราวหน้าคุณจะทำแบบนี้อีกไหม คุณจะหักหลังคนเชียงใหม่แบบนี้ใช่ไหม ครั้งหน้าจะเอาให้สูญพันธุ์ครั้งที่แล้วยังไม่เคล็ดลับอีกเหรอ
“วันที่ 11 พฤษภาคม นี้ เข้าคูหากันอย่างพร้อมหน้าถ้าพี่น้องประชาชนมาได้เท่ากับตอนเลือกตั้งอบจ. เชียงใหม่ก็ดีแต่ถ้าดีมากต้องให้เท่ากับก้าวไกลครั้งที่ผ่านมา ถ้าชนะเดี๋ยวได้เจอพิธาบ่อย ๆแน่นอน” พิธา กล่าว