กต.พร้อมเจ้าภาพการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC 2-4 เม.ย.นี้

นายนิกรเดช พลางกูร อธิบดีกรมสารนิเทศและโฆษกกระทรวงการต่างประเทศ แถลงความพร้อม และสถานการณ์ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และพื้นที่อื่น ๆ กลับเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว พร้อมยืนยันความพร้อมการเป็นเจ้าภาพการจัดประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC ครั้งที่ 6 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 2-4 เมษายนนี้ ที่โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ โดยอาคารโครงสร้างพื้นฐาน และสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ทั้ง ท่าอากาศยาน สถานที่จัดประชุม โรงแรม ที่พัก และช่องทางการคมนาคมขนส่ง มีความปลอดภัย สามารถใช้งานได้เต็มที่ตามปกติ และไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหวในเมียนมา 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังเปิดเผยด้วยว่า สำหรับการประชุมในครั้งนี้ ประเทศไทยได้ตั้งแนวคิด PRO-BIMSTEC หรือ Prosperous – Resilient – Open มั่งคั่ง ยั่งยืน ฟื้นคืน และเปิดกว้างสู่โอกาส เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจผ่านการเชื่อมโยงรอบด้าน ลดความยากจนผ่านการส่งเสริมการค้า และการลงทุน รักษาสิ่งแวดล้อม, ความยั่งยืน เพื่อสร้างความมั่นคงทางอาหาร และความมั่นคงทางสาะรณสุขในภูมิภาค ตลอดจนขยายความร่วมมือทางทะเล และการเปิดกว้างการมีส่วนร่วมภาคส่วนต่าง ๆ ผ่านการส่งเสริมทางท่องเที่ยว และสร้างเครือข่ายระหว่างประชาคม

สำหรับเอกสารผลลัพธ์การประชุม BIMSTEC ครั้งนี้นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ เปิดเผยว่า ที่ประชุมจะมีการรับรอง “ปฏิญญาผู้นำ BIMSTEC” และการรับรองเอกสารวิสัยทัศน์กรุงเทพฯ 2030, การลงนามความตกลงความร่วมมือด้านการขนส่งทางทะเล และการรับรองกฎระเบียบสำหรับกลไก BIMSTEC, การรับรองรายงานของคณะผู้ทรงคุณวุฒิว่าด้วยการกำหนดทิศทางของ BIMSTEC, การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง BIMSTEC, การลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่าง BIMSTEC และ Indian Ocean Rim Association หรือ IORA กับ UN Office on Drugs and Crime หรือ UNODC 

โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยังระบุอีกว่า การประชุม BIMSTEC ครั้งนี้ ถือเป็นกาประชุมครั้งแรกภายใต้รัฐบาลชุดนี้ จึงขอเชิญชวนชาวไทย ร่วมกันเป็นเจ้าภาพที่ดีในห้วงการประชุม 2-4 เมษายนนี้ ซึ่งในห้วงการประชุมครั้งนี้ ยังจะเป็นโอกาสการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายเค พี ศรรมะ โอลี นายกรัฐมนตรีเนปาล และนายนเรนทร โมที นายกรัฐมนตรีอินเดีย ตามคำเชิญของนางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อหารือทวิภาคี และลงนามบันทึกความเข้าใจระหว่างกันหลายฉบับ ซึ่งในการเดินทางเยือนประเทศไทยของนายกรัฐมนตรีเนปาลนั้น ถือเป็นการเดินทางเยือนประเทศไทยครั้งแรกของผู้นำเนปาล นับตั้งแต่มีการสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูต ตั้งแต่ปี 2502 ซึ่งจะมีการหารือรอบด้าน เพื่อยกระดับความร่วมทั้งด้านเศษฐกิจ สังคม สาธารณสุข เกษตร ท่องเที่ยว และอุตสาหกรรมบริหาร รวมถึงในการเยือนระดับสูงของนายกรัฐมนตรีอินเดีย ทั้ง 2 ฝ่าย จะมีการยกระดับความสัมพันธ์ไทย-อินเดียว สู่การเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ พร้อมลงนามความร่วมมือรอบด้าน ส่งเสริมความสัมพันธ์ทวิภาคี และความร่วมมือต่าง ๆ ระหว่างกัน

ส่วนการประชุมสุดยอดผู้นำ BIMSTEC ครั้งนี้ ผู้นำรัฐบาลของเมียนมาจะเข้าร่วมด้วยหรือไม่นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ระบุว่า ตามข้อมูลที่ได้รับในตอนนี้ ยังไม่ได้รับการยืนยัน แต่ไทยก็พร้อมสนับสนุนการเข้าร่วมการประชุมของผู้นำรัฐบาลเมียนมา ทั้งการเข้าร่วมโดยบุคคล หรือรูปแบบผสมผ่านการประชุมออนไลน์จากกรุงเนปิดอว์ 

ส่วนการรับมือต่อการประกาศเพิ่มอัตราการจัดเก็บภาษีของรัฐบาลสหรัฐอเมริกา ในวันพรุ่งนี้ (2 เม.ย.) นั้น โฆษกกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า นายกรัฐมนตรี และรัฐบาลไทยได้มีการตั้งคณะทำงานขึ้นมาเพื่อหารือมาตรการในการดำเนินการพูดคุย ที่ไทยอาจตกเป็นประเทศที่ได้รับผลกระทบ เพราะเป็นประเทศที่ได้ดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่ก็ยังไม่สามารถระบุได้แน่ชัดว่า ประเทศไทย จะอยู่ในรายชื่อประเทศดังกล่าวที่ได้รับผลกระทบทางภาษีหรือไม่ แต่ยอมรับว่า มาตรการทางภาษีประชาชน และเอกชน ทั้ง 2 ประเทศจะได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะสินค้าเกษตร ส่วนประกอบชิ้นส่วนต่าง ๆ แต่ก็เชื่อว่า ต่างฝ่ายต่างได้เตรียมมาตรการรับมือไว้แล้ว และยังคงมีความหวังว่า มาตรการดังกล่าวหากเกิดขึ้นจริง อาจจะมีการปรับโครงสร้างอัตราภาษีให้เป็นที่ยอมรับของ 2 ทั้งฝ่ายได้