
พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ตรวจความพร้อมรบของกองพันทหารปืนใหญ่ที่ 103 ทั้งด้านบุคคล อาวุธยุทโธปกรณ์ อุปกรณ์ประจำกาย และยานพาหนะ รวมทั้งการปฏิบัติทางยุทธวิธีก่อนปฏิบัติภารกิจ เพื่อความพร้อมเพรียงเป็นแบบแผนเดียวกัน และรับประกันความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจ
ทั้งนี้ มีภารกิจสำคัญในการดำเนินการยิงสนับสนุนด้วยปืนใหญ่ ที่สนามกองพันทหารม้าที่ 21 (รถถังหลัก) และ กองบัญชาการช่วยรบที่ 2
แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวให้โอวาทกำลังพลตอนหนึ่งว่า ความพร้อมและความเข้มแข็ง สามารถปฏิบัติการรบได้ในสถานการณ์ต่างๆ และทุกรูปแบบ ได้อย่างเต็มขีดความสามารถ อีกทั้งพร้อมในการรองรับภารกิจของกองทัพบก ในการปกป้องอธิปไตยของชาติ การปฏิบัติในทุกภารกิจให้ทหารทุกนายยึดถือนโยบายของผู้บังคับบัญชาอย่างเคร่งครัด และพร้อมเคลื่ิอนย้ายกำลัง เข้าที่หมายทันที เมื่อมีคำสั่ง
ผบ.ทบ. รายงาน “ภูมิธรรม” ชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ได้ขยับ แค่เตรียมพร้อมรบตามวงรอบ
ด้าน นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม กล่าวถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะนี้ ว่า เรื่องนี้ยังไม่มีอะไร และ พลเอก พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ได้รายงานสถานการณ์ในพื้นที่ให้ตน และ รมช.กลาโหม รับทราบ ซึ่งทาง ผบ.ทบ. ก็ยืนยันว่าไม่ได้มีการขยับขับเคลื่อนอะไร เป็นเพียงการเตรียมการสำหรับปกป้องอธิปไตยของตัวเอง ซึ่งถือเป็นการปฎิบัติตามปกติ และมีการฝึกซ้อมรบ ซึ่งอยู่ในห้วงของกรอบเวลา พร้อมยืนยันว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนของทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกัน ขณะที่ในระดับนโยบายก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ก็ได้งดกิจกรรมในพื้นที่ที่มีปัญหาอยู่ เพื่อป้องกันไม่ให้ปัญหาบานปลายจนลามไปสู่ความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายได้มีการพูดคุยกันและเห็นพ้องว่า ไม่อยากให้มีอะไรที่รุนแรง ยืนยันว่าเราปกป้องอธิปไตยของประเทศ แต่มีจุดยืนที่จะไม่สร้างปัญหา และที่ผ่านมาเราก็มีความสัมพันธ์ที่ดีมาโดยตลอด เพียงแต่บางครั้งมีสถานการณ์ ก็อยากขอร้องทุกคน
“กองทัพเขาก็รักชาติไม่น้อย แต่เราไม่อยากให้นำไปสู่การสู้รบอะไร คุยได้ก็คุยกัน ไม่อยากให้มีการแสดงออกที่อาจทำให้เกิดปัญหา อย่างเช่น การออกไปทำกิจกรรมต่างๆ และทั้งฝั่งของกัมพูชาและฝั่งไทย รวมถึงกรณีที่หัวหน้าพรรคการเมืองหนึ่ง ประกาศที่จะไปทำกิจกรรมบนปราสาทตาเมือนธม ตนยืนยันว่าเราห้ามไม่ให้ไปทำกิจกรรม มิเช่นนั้นหากปล่อยขึ้นไป ไทยก็จะเป็นฝ่ายละเมิดข้อตกลงเสียเอง“
เมื่อถามว่า มีขบวนการในการปล่อยคลิปบิดเบือนเพื่อปั่นกระแสความเกลียดชังของคนทั้งสองประเทศ ทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาหรือไม่ นายภูมิธรรม ระบุว่า ตนอยากให้สื่อได้ช่วยกัน อย่าเผยแพร่หรือแชร์คลิปที่บิดเบือน เพื่อให้สังคมได้มีสติ เพราะปัจจุบันไทยและกัมพูชาก็มีความสัมพันธ์ที่เป็นปกติ อะไรที่ก่อให้เกิดปัญหาและกระทบความสัมพันธ์ อยากให้ทั้งสองประเทศช่วยกันไปดูเงื่อนไขที่ถูกสร้างขึ้นมา เพื่อไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง เพื่อไม่ให้ปัญหาบานปลายไปมากกว่านี้ ในส่วนของตนไม่อยากจะตอบประเด็นนี้ แต่หากไม่ตอบก็จะถูกกล่าวหาว่าไม่สนใจ ซึ่งยืนยันว่าเราใส่ใจปัญหานี้มาตั้งแต่ต้น
ในขณะที่กองทัพก็เข้าใจสถานการณ์ดีทุกอย่าง เพียงแต่เราหลีกเลี่ยงไม่ให้เกิดความขัดแย้งที่รุนแรง เพราะมิได้สร้างประโยชน์ให้กับฝ่ายใด แล้วจะยิ่งทำให้ประเทศชาติมีปัญหา เรื่องไหนที่ยังไม่ชัดเจนก็อย่าหยิบพูดขึ้นมาให้เป็นประเด็น แต่จะกลายเป็นปัจจัยปะทุความขัดแย้ง มีอะไรก็ขอมาสอบถามกัน
ทั้งนี้ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับความสัมพันธ์ประเทศก็ดี หรือกระบวนการยุติธรรม ไม่อยากให้มีการลงรายละเอียด แต่หากพูดคุยกันในกรอบกว้างๆ ก็สามารถพูดคุยกันได้