นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เปิดเผยว่าในช่วงบ่ายวันนี้จะมีการประชุมสภาความมั่นคงแห่งชาติ หรือ สมช. เพื่อติดตามความคืบหน้าสถานการณ์ต่างๆ รวมถึงการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แต่ตนไม่ได้เข้าประชุม โดย สมช. เป็นการประชุมภายใน ส่วนตนจะเข้าต่อเมื่อมีการประชุมวาระใหญ่ๆ
ขณะที่ความคืบหน้าการตัดไฟฟ้า สัญญาณอินเตอร์เน็ต และงดส่งน้ำมันไปยังกัมพูชา นั้น นายภูมิธรรม บอกว่า ยังไม่ไปถึงตรงนั้น ขอเวลาดำเนินการในส่วนที่มีมาตรการไปก่อนหน้านี้
ส่วนที่ตนเดินทางไปตรวจบริเวณชายแดนไทยกัมพูชาที่ จ.สระแก้ว ก็ไปดูว่าหากมีการย้ายฐานของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากฝั่งเมียนมากลับไปอยู่ที่เดิมคือปอยเปต ประเทศกัมพูชา ก็ต้องดูว่าจะเตรียมรับมืออย่างไร ซึ่งขณะนี้มีการเตรียมตัดสัญญาณต่างๆไว้หมดแล้ว ส่วนจะใช้มาตรการเดิมที่ใช้กับฝั่งเมียนมาหรือไม่ ตนไม่สามารถคิดแทนเขาได้ว่าจะมาแบบไหน อีกอย่างสถานการณ์ชายแดนฝั่งกัมพูชาก็ไม่เหมือนกับทางเมียนมา
เมื่อถามย้ำว่า หากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ย้ายฐานจากฝั่งเมียนมาไปกัมพูชา จะมีการป้องปรามอย่างไร นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่ถ้าหรอก ถ้าเจอจริงค่อยว่ากัน ซึ่งไทยเตรียมการทุกอย่างไว้หมดแล้ว โดยพร้อมรับมือและจัดการ เห็นได้จากการประกาศซีลชายแดน ก็ดำเนินการเป็นขั้นตอนมา ซึ่งผลที่เกิดขึ้นตอนนี้ก็ถือว่าดี รวมถึงทูตประเทศต่างๆก็มาขอบคุณไทย ขณะที่ชนกลุ่มน้อยและกลุ่มต่างๆก็ประกาศว่าจะไม่เกี่ยวข้อง ถือเป็นเรื่องที่ดี
เมื่อถามถึงการส่งกลับเหยื่อแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ประมาณ 7000 คน มีแผนดำเนินการอย่างไร นายภูมิธรรม ปฏิเสธตอบคำถาม โดยบอกว่าถ้าพูดหมดก็ไม่สามารถดำเนินการอะไรได้ และที่พูดไปก็เยอะแล้ว ส่วนจะไปรับด้วยตัวเองหรือไม่ ขอให้เป็นไปตามกระบวนการ พร้อมยืนยันว่าขั้นตอนการส่งตัวกลับมา จะไม่รับเข้ามาทันที ต้องมีกระบวนการคัดกรอง และมีประเทศรองรับเรียบร้อย เราถึงจะปล่อยเข้ามา เราจะไม่เปิดให้ชายแดนไทยเป็นศูนย์อพยพอีก
ทั้งนี้ อยากให้ดูที่การกระทำ เพราะหลายคนวิจารณ์ว่าการประกาศออกไป เป็นการเล่นละครอย่างโน้นอย่างนี้ ซึ่งเราก็ทำให้ดูแล้ว รวมถึงมีนาย (ข้าราชการ) ต่างๆ เราก็เอาออกจากพื้นที่ และตั้งกรรมการตรวจสอบ ทุกอย่างก็ดำเนินการหมดแล้ว ดังนั้นขออย่าถามเพื่อให้เขาคิดต่อและเตรียมรับมือกับเราเลย ให้รอดูผลดีกว่า
เมื่อถามย้ำว่า แผนการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ครั้งนี้ จะทำให้ลดลงและหมดไปหรือไม่ นายภูมิธรรม ย้ำว่า รัฐบาลประกาศชัดเจนแล้ว และเป็นไปตามสิ่งที่ดำเนินการ อีกทั้งตนจะลงพื้นที่ตลอดภายใน 6 เดือนนี้
นายภูมิธรรม ยอมรับว่า ได้เห็นแถลงการณ์ที่พันเอกหม่องชิตตู ทำถึงตัวเองแล้ว และขอบคุณที่ส่งมาแต่เป้าหมายสูงสุดคือทำอย่างไรเพื่อให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์ตามชายแดนหมดไป และช่วยประชาชนไม่ว่าจะประเทศไหนได้กลับคืนถิ่น
เมื่อถามว่า พันเอกหม่องชิตตู พร้อมให้ความร่วมมือในการปราบแก๊งคอลเซ็นเตอร์ และอยากได้คำแนะนำจากไทย แต่ในขณะเดียวกันก็กำลังจะถูกออกหมายจับ นายภูมิธรรม ไม่ขอตอบ โดยบอกว่าให้เป็นไปตามกระบวนการ ซึ่งเราจะไม่ทำอะไรที่ผิดกฎหมาย