
พลตรี ธนาธิป สว่างแสง โฆษกกระทรวงกลาโหม ชี้แจงเพิ่มเติมหลัง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ จ.สระแก้ว และได้มีการรับฟังข้อคิดเห็นจากหน่วยงานความมั่นคง ทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ในพื้นที่ อ.อรัญประเทศ ซึ่งมีช่องทางธรรมชาติยาว 165 โลเมตร และมีการบูรณาการวางลวดหนามประมาณ 55 กิโลเมตร ที่เหลือก็ยังคงเป็นช่องทางธรรมชาติติดกับพื้นที่ปอยเปต ประเทศกัมพูชา ซึ่งเป็นจุดล่อแหลมในการหลบหนีเข้าเมือง หน่วยงานความมั่นคงไม่สามารถตรวจการณ์ได้ตลอดเวลา จึงเสนอสร้างกำแพง ซึ่งหลายประเทศทำอยู่ เช่น เม็กซิโก คือปิดรั้วรอบขอบชิด ส่งผลให้การตรวจสอบง่ายขึ้น พร้อมติดกล้องวงจรปิด และเครื่องปั่นไฟที่จะส่งสัญญาณแจ้งเตือน จะทำให้เห็นภาพมีใครข้ามไปมา เจ้าหน้าที่ก็จะสะดวกในการปฏิบัติงาน
ทั้งนี้ นายภูมิธรรม รับข้อมูล มาศึกษา และรัฐบาลอาจมีข้อมูลได้มากกว่านี้ เพื่อมาเสริมให้การปฏิบัติงานมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อพิจารณาแนวทางดำเนินการจะมีประโยชน์มากน้อยแค่ไหน นอกจากนี้ยังมีการเสนอเรื่องโดรน
ช่วยในการปฏิบัติงาน
"ยืนยันว่าเป็นเพียงแผนงานของรัฐบาลที่จะนำมาพิจารณา เพื่อหาแนวทางร่วมกันอีกครั้งเรื่องการสร้างกำแพง ซึ่งปัจจุบันยังไม่มีการสร้างกำแพง เพราะปัจจุบันยังเร็วเกินไป และยังต้องศึกษารูปแบบแนวทางภายใต้พื้นที่ที่ชัดเจน ที่ต้องไม่ติดพื้นที่ที่ทับซ้อนกัน รวมถึงการวิเคราะห์ผลกระทบของคนทั้งสองประเทศ ซึ่งมีของเอกชนที่ทำไปได้บ้างแล้ว ส่วนเส้นทาง 55 กิโลเมตร ที่จะดำเนินการเป็นช่องทางธรรมชาติ และเป็นจุดล่อแหลม" พล.ต.ธนาธิป กล่าว