svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

“ศิริกัญญา” มั่นใจพิพากษา "พิรงรอง" สะเทือนกลไกการตรวจสอบ

“ศิริกัญญา” มั่นใจ “พิรงรอง” ถูกฟ้องปิดปาก หวั่นสะเทือนกลไกลการตรวจสอบ – เชื่อผลมีต่อทิศทาง กสทช.จากนี้ด้วย - การันตีกระแสข่าวกดดันลาออกแลกถอนฟ้องเป็นเรื่องจริง

นางสาวศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ในฐานะรองหัวหน้าพรรคฯ กล่าวถึงกรณีที่นางสาวพิรงรอง รามสูต กรรมการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กรรมการ กสทช.ถูกศาลพิพากษาจำคุก 2 ปี ฐานกระทำความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ฐานเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ลงโทษจำคุกเป็นเวลา 2 ปีว่า ขณะนี้ คำพิพากษาฉบับเต็มยังไม่ออก และทราบจากข่าวประชาสัมพันธ์จากศาล จึงยังไม่มีทราบรายละเอียดครบถ้วน และขอให้ฟังข้อต่อสู้ของนางสาวพิรงรองด้วย แต่กรณีดังกล่าวนี้ ก็ทำให้กลไกการตรวจสอบถ่วงดุลสั่นสะเทือน เพราะเจ้าหน้าที่รัฐในฐานะผู้กำกับดูแลถูกฟ้อง แต่สิ่งที่ควรพิจารณาคือเจตนาในการคุ้มครองผลประโยชน์ผู้บริโภคมากกว่า จึงอยากเรียกร้องให้มีการแก้ไขกฎหมาย เพื่อให้มีการคุ้มครองเจ้าหน้าที่รัฐที่ทำหน้าที่กำกับดูแล ไม่เฉพาะ กสทช. ทั้ง สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ.ที่ดูแลเรื่องไฟฟ้าพลังงาน, สำนักงานคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า หรือ กขค. ที่ดูแลการแข่งขันของประเทศ เพื่อป้องกันในอนาคตอาจมีเอกชนฟ้องร้องหน่วยงาน ที่ต้องปฏิบัติหน้าที่ตามภารกิจ และเพื่อทำให้หน่วยงานสามารถปฏิบัติหน้าที่สร้างกลไกตรวจสอบได้อย่างเข้มแข็ง พร้อมเปิดเผยว่า ขณะนี้ ร่างกฎหมายที่ต่อต้านการป้องปิดปากกรณีดังกล่าวนี้ อยู่ระหว่างการพิจารณาในชั้นกรรมาธิการของสภาผู้แทนราษฎรอยู่

“ศิริกัญญา” มั่นใจพิพากษา "พิรงรอง" สะเทือนกลไกการตรวจสอบ “ศิริกัญญา” มั่นใจพิพากษา "พิรงรอง" สะเทือนกลไกการตรวจสอบ

ส่วนมองกรณีนี้เป็นการฟ้องปิดปากเจ้าหน้าที่รัฐหรือไม่นั้น นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า กรณีนี้เข้ากรณีของการฟ้องปิดปาก เพราะตามกระบวนการแล้ว สามารถไปร้องเรียนการปฏิบัติไม่เป็นธรรมได้หลายกลไก แต่เอกชน กลับใช้กลไกศาล ซึ่งเป็นศาลคดีทุจริต และดูเป็นการลัดขั้นตอน และหลังจากนี้ เชื่อว่า ในการพิจารณาของ กสทช.ที่เกี่ยวข้องกับเอกชนบริษัทนี้ นางสาวพิรงรอง จะไม่สามารถร่วมพิจารณาได้แล้ว และทำให้เสียงการลงมติของ กสทช.เปลี่ยนจากเดิมที่ จะมีเสียงประธาน กสมช.ประมาณ 3 เสียง และเสียงของนางสาวพิรงรอง 4 เสียง ทำให้การตัดสินใจต่าง ๆ จะมีความหมายมากขึ้น และไม่ง่ายเหมือนที่นางสาวพิรงรองมีเสียงข้างมาก

ส่วนความเป็นได้ในกรณีที่มีการกดดันให้นางสาวพิรงรองลาออกจากตำแหน่ง เพื่อระงับคดีดังกล่าวนั้น นางสาวศิริกัญญา ระบุว่า เท่าที่ได้ยินมานั้น เป็นเรื่องจริง โดยผู้ที่ยื่นข้อเสนอ เชื่อว่า เป็นบุคคลในกระบวนการยุติธรรม เพื่อต่อรองให้ถอนฟ้อง และกับการลาออกจากตำแหน่ง และเป็นเรื่องที่น่าประหลาดใจที่หลาย ๆ คนล่วงรู้ผลการตัดสินล่วงหน้าแล้วว่า จะมีการพิพากษาจำคุก 2 ปี โดยไม่รอลงอาญา แต่นางสาวพิรงรอง ก็ยังมีสิทธิ์ต่อสู่ในคดีนี้ จนถึงที่สุด