svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ระเบิดศาลา คร่าชีวิต "ทหารพราน" ยะลา วัยหนุ่ม!

ระเบิดศาลาปฏิบัติธรรมกลางระแงะ คร่า "ทหารพรานหนุ่ม" เสี่ยงทุกความเคลื่อนไหว อันตรายทุกนาที สะท้อนเหตุรุนแรงที่ชายแดนใต้ยังไม่สงบ

เหตุระเบิดที่เหมือนเป็นเหตุร้ายรายวันธรรมดาๆ เกิดขึ้นแทบจะเป็นปกติไปแล้ว เช่นกรณีล่าสุดที่ศาลาปฏิบัติธรรมใน อ.ระแงะ จ.นราธิวาส นั้น แท้ที่จริงได้ก่อความสูญเสียมากมาย และเป็นภัยร้ายที่ยังคงน่าสะพรึงกลัวในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ 

 

เหตุระเบิดศาลา ทำให้ทหารพรานหนุ่มจากยะลาเสียชีวิต และยังมีกำลังพลอีก 6 นายได้รับบาดเจ็บ ในจำนวนนี้ยังอาการสาหัสอีก 2 นาย ทหารพรานที่พลีชีพ คือ อาสาสมัครทหารพราน บุญชู นาคพัน อายุเพียงแค่ 31 ปี มีภูมิลำเนาอยู่ที่หมู่ 6 ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา ถือว่าเป็นคนพื้นที่ เป็นกำลังสำคัญของครอบครัว เลือกเป็นทหารพรานเพื่อดูแลบ้านเกิดให้สงบ สันติสุข แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงอย่างน่าเศร้า 

 

 

 

หากมองในแง่ยุทธการ เหตุระเบิดศาลาปฏิบัติธรรมในพื้นที่ อ.ระแงะ จ.นราธิวาส เมื่อวานนี้ กลายเป็นอีกหนึ่งประเด็นอ่อนไหวที่มองข้ามไม่ได้ในสถานการณ์ชายแดนใต้

 

- ศาลาที่ถูกระเบิด เป็นศาลาปฏิบัติธรรม ซึ่งมีรายงานว่าเป็นของสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งในพื้นที่ การลอบวางระเบิด แม้จะมีเป้าหมายต้องการทำร้ายกำลังพลของทหารพราน แต่ก็ถูกมองโยงไปถึงประเด็นทางศาสนาด้วย

 

- เหตุระเบิดค่อนข้างรุนแรง ดูจากสภาพของศาลาที่เสียหายอย่างหนักจากแรงระเบิด และผู้บาดเจ็บซึ่งเป็นกำลังพลทั้งหมดที่อยู่ในละแวกศาลา

 

- เป็นอีกครั้งหนึ่งของการก่อเหตุในลักษณะ “ลอบทำร้าย” หรือ “ก่อการร้าย” โดยโจมตีฝ่ายกองกำลังของรัฐระหว่างที่กำลังพักผ่อน หรือหละหลวมไม่ทันระวังตัว

 

กรณีของเหตุการณ์ล่าสุดนี้ เป็นการวางระเบิดกำลังพลที่เข้าไปบริเวณศาลา น่าจะเพื่อวางแผนการรักษาความปลอดภัยการประชุมของ อบต.บองอ ซึ่งประชุมกันอยู่ที่สำนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล ซึ่งไม่ห่างจากศาลามากนัก 

 

นี่คือความน่ากลัวของกลุ่มก่อความไม่สงบชายแดนใต้ที่สามารถทำให้ทุกที่ ทุกจุด มีอันตรายได้ตลอดเวลา

 

 

จะว่าไปแล้ว พื้นที่อย่าง “ศาลาที่พักริมทาง” หรือแม้แต่ “ศาลารอรถ” บริเวณริมถนนสายต่างๆ ก็มี “กฎเหล็ก” ที่แจ้งเตือนของหน่วยงานความมั่นคง ให้กำลังพลระมัดระวังเป็นพิเศษหากจะเข้าไปแวะพัก นั่งพักผ่อน เพราะเสี่ยงที่คนร้ายจะลอบวางระเบิดเอาไว้ และที่ผ่านมาก็เกิดระเบิดอยู่เป็นประจำเป้าหมายคือ กำลังพลชุดลาดตระเวนที่มักจะแวะพักเหนื่อย หรือนั่งดื่มน้ำ สูบบุหรี่ หลังจากออกเดินหรือลาดตระเวนตากแดดมาเหนื่อยๆ หลายชั่วโมง


นอกจากศาลาที่พักริมทางก็ยังมี “ม้าหิน” ตามสถานที่สาธารณะต่างๆ เช่น โรงเรียน หรือหน่วยราชการ ที่คนร้ายมักนำระเบิดไปซุกไว้เป็นประจำเพื่อโจมตี โดยคนร้ายจะเฝ้าสังเกตพฤติการณ์ของเจ้าหน้าที่ ซึ่งมักปฏิบัติเป็นวงรอบ เป็นกิจวัตร เหมือนกันแทบทุกวัน หรือไม่ก็อ่านทางล่วงหน้าว่าเจ้าหน้าที่จะไปพักคอยตรงจุดไหน ก็นำระเบิดไปวางดัก แล้วจุดระเบิดเมื่อกำลังพลเข้าไปนั่งพักหรือทำกิจกรรม ส่งผลให้เกิดความสูญเสียมานับครั้งไม่ถ้วน

 

ทั้งศาลา ม้านั่ง หรือแม้แต่รถยนต์ของเจ้าหน้าที่ที่จอดทิ้งไว้นานๆ ข้ามชั่วโมง ล้วนเสี่ยงเป็นจุดวางระเบิดได้ทั้งสิ้น แต่ที่ผ่านมาก็ยังมีเหตุการณ์และความสูญเสียเกิดขึ้นซ้ำๆ อย่างน่าเสียดาย