svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

ชาวชัยภูมิ เตรียม เฮ! คมนาคมเตรียมขยาย ทล.2054 และ 2389 แก้ปัญหาถนนแคบ

“อัครแสนคีรี” เผยชาวชัยภูมิ เตรียม เฮ! ก.คมนาคมเตรียมขยายทางหลวง 2054 และ 2389 ในปี 68-69 พร้อมศึกษาถนนเลี่ยงเมืองแก้งคร้อ แก้ปัญหาถนนคับแคบเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

ชาวชัยภูมิ เตรียม เฮ! คมนาคมเตรียมขยาย ทล.2054 และ 2389 แก้ปัญหาถนนแคบ

อัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม

นายอัครแสนคีรี โล่ห์วีระ สส.ชัยภูมิ พรรคกล้าธรรม เปิดเผยภายหลังการตั้งกระทู้ถามนางมนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในการสัญจรบนถนนที่คับแคบ และปัญหาจราจรบนถนนสายทางหลวงในเขตอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ เนื่องจากประชาชนในพื้นที่มีความจำเป็นจะต้องใช้ถนนสายหลักทางหลวง ในการสัญจรและการขนส่งสินค้าเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ โดยเฉพาะข้าว และอ้อย 

ในปัจจุบันมีทางหลวงสายหลักที่สำคัญอยู่จำนวน 3 สาย ได้แก่

 

1.ทางหลวงหมายเลข 2054 เป็นเส้นทางหลักที่ใช้ในการเดินทางเชื่อมอำเภอเมืองชัยภูมิ และอำเภอคอนสวรรค์ จังหวัดชัยภูมิ ปัจจุบันสภาพถนน สัญจรได้เพียง 2 ช่องจราจร คับแคบ ไม่มีไหล่ทางทำให้เกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง

 

2.ทางหลวงหมายเลข 201 ช่วงบริเวณเขตเทศบาลตำบลแก้งคร้อ อำเภอแก้งคร้อ ปัจจุบันมีรถบรรทุกขนาดใหญ่ใช้งานถนนร่วมกับรถยนต์ทั่วไป และในช่วงเวลาเร่งด่วนหรือช่วงเทศกาล ที่มีผู้ใช้ถนนเพิ่มขึ้น ถนนสายดังกล่าวมักจะมีการจราจรติดขัดอย่างมาก ทำให้การสัญจรไม่สะดวกและมีความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุสูง

 

3.ทางหลวงหมายเลข 2389 สายแก้งคร้อ-สระพัง ซึ่งเป็นถนนที่เชื่อมต่ออำเภอแก้งคร้อ จังหวัดชัยภูมิ ไปยังอำเภอหนองเรือ จังหวัดขอนแก่น สภาพถนน 2 ช่องจราจรไหล่ทางคับแคบ เป็นเส้นทางขนส่ง พืชเศรษฐกิจโดยเฉพาะอ้อยที่ส่งไปยังโรงงานน้ำตาลในอำเภอภูเขียว จังหวัดชัยภูมิ และอำเภอหนองเสือ จังหวัดขอนแก่น ทั้งสามเส้นทางที่เชื่อมต่อกัน เป็นเส้นทางหลักที่ประชาชนและชาวบ้านใช้เพื่อสัญจรในการดำเนินชีวิตประจำวัน รวมถึงการขนส่งผลผลิตการเกษตรซึ่งปัญหาคมนาคมบนถนนสายทางดังกล่าวเป็นอุปสรรคต่อการใช้ชีวิตของพี่น้องประชาชนรวมถึงการพัฒนาเศรษฐกิจของพื้นที่ในระยะยาว

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า หากมีการขยายไหล่ทางและเพิ่มจำนวนช่องจราจรในเส้นทางหลัก โดยเฉพาะถนนเส้น ทล.2054 และ ทล.2389 เพื่อเพิ่มพื้นที่การจราจร จะช่วยลดความแออัด และเพิ่มความปลอดภัยในการเดินทางของประชาชน หรือการแก้ปัญหาโดยการจัดทำถนนบายพาส (Bypass Road) หรือถนนเลี่ยงเมืองบนถนนเส้น ทล.201 เพื่อแก้ปัญหาจราจรติดขัดในเขตเทศบาลแก้งคร้อ ในบริเวณที่เหมาะสมเพื่อให้รถบรรทุกขนาดใหญ่สามารถใช้เส้นทางอื่นได้ ลดการจราจรบนถนนสายหลัก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการใช้งานหนาแน่นหรือในช่วงเทศกาล 

 

นอกจากนี้ ยังช่วยส่งเสริมให้เศรษฐกิจในพื้นที่เติบโต เนื่องจากการขนส่งสินค้าทางการเกษตรสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ราคาที่ดินอาจมีมูลค่าสูงขึ้น การแก้ไขปัญหานี้จึงเป็นการส่งเสริมคุณภาพชีวิตของประชาชนและสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจในชุมชนอย่างยั่งยืน 

 

“ผมจึงถามกระทรวงคมนาคมไปว่า ปัจจุบันยังมีแผนขยายช่องจราจรเส้นทาง ทล.2054 ลาดใหญ่ - ช่องสามหมอ เป็นถนน 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทาง หรือขยายไหล่ทางเพิ่มหรือไม่ และจะสามารถจัดสรรงบประมาณได้ในปีใด ส่วนถนนหมายเลข 201 จากช่องสามหมอไปยังเทศบาลแก้งคร้อ ในอดีตทราบว่ามีความพยายามที่จะสร้างถนนเลี่ยงเมือง หรือถนนบายพาส (Bypass Road) แต่ติดขัดด้วยงบประมาณ ปัจจุบันยังมีแผนที่จะสร้างถนนเลี่ยงเมืองทำถนนบายพาส (Bypass Road) ช่วงดังกล่าวหรือไม่ รวมถึงยังมีแผนขยายช่องจราจรเส้นทางหมายเลข 2389 เป็นถนน 4 ช่องจราจรตลอดเส้นทาง หรือขยายไหล่ทางเพิ่มหรือไม่ และจะจัดสรรงบประมาณในปีใด“นายอัครแสนคีรี กล่าว

 

โดยนางมนพร ตอบกระทู้ ว่าทางหลวงหมายเลข 2054 ลาดใหญ่ - ช่องสามหมอ เป็นถนนสายสำคัญ เชื่อม ชัยภูมิ กับอำเภอคอนสวรรค์ ปัจจุบันไหล่ทางคับแคบ กระทรวงคมนาคม เล็งเห็นถึงความสำคัญ ได้จัดสรรงบประมาณ ปี 2568 ปรับปรุงถนนเส้นนี้ จาก 2 ช่อง เป็น 4 ช่องจราจร โดยจะก่อสร้างเป็นถนนชุมชนก่อน ระยะทาง 1.680 กม. ซึ่งขณะนี้ อยู่ระหว่างจัดหาผู้รับจ้าง คาดว่าในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2568 ก็จะจัดหาผู้รับจ้างได้ ขณะที่ในปี 2569 เราขอรับการจัดสรรงบประมาณ เพื่อเพิ่มมาตรฐานทางหลวงชั้น 1 ความกว้างผิวจราจร 3.50 ม. ไหล่ทางกว้างข้างละ 2.50 ม. จะอยู่บนทางหลวงของสาย 2054 ลาดใหญ่ - คอนสวรรค์ ระยะทาง 17 กม. เพื่ออำนายสะดวก ความปลอดภัย ประชาชน ส่วนช่วงที่เหลือจากอพเภอคอนสวรรค์ ไปช่องสามหมอ กรมทางหลวง จะมีแผนตั้งงบประมาณในปีถัดไป ต่อไปจนแล้วเสร็จ  

 

นอกจากนี้ ถนนหมายเลข 201 จากช่องสามหมอไปยังเทศบาลแก้งคร้อ การสร้างถนนเลี่ยงเมือง หรือถนนบายพาส นั้น นางมนพร ระบุว่า ทางเลี่ยงเมืองมีความจำเป็น แต่ต้องใช้งบประมาณจำนวนมาก เพราะต้องศึกษา Hia Hea และการเวนคืน จ่ายกรรมสิทธิ์ที่ดิน ดังนั้นการทำทางเลี่ยงเมือง ขณะนี้เมืองขยายตัวมากขึ้น จึงต้องคำนึงทุกมิติ การมีส่วนร่วมของประชาชน ที่ส่งผลกับประชาชน โดยปี 2566 กรมทางหลวง ได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษา ศึกษาแผนขยายเส้นทางดังกล่าว เพื่อให้สอดรับกับยุทธศาสตร์ของการพัฒนาชาติยุทธศาสตร์ของการขยายถนนทางหลวง ออกไปสู่ประชาชน แต่พบว่ายังไม่มีความจำเป็นต้องทำบายพาสในเส้นทางดังกล่าว แต่ตนเห็นว่าผลของการศึกษากับความเป็นจริง ที่นายอัครแสนคีรี เสนอมาเราก็ต้องปรับตามสภาพความเป็นจริง ว่าถ้าเกิดมีความเจริญไปสู่พื้นที่ประชาชน วิถีของอุตสาหกรรม และเอสเอ็มอี การขยายความเจริญไปสู่เมือง พื้นที่ต่างอำเภอ และจังหวัดชัยภูมิ และจังหวัดอื่น เชื่อมั่นว่ากระทรวงคมนาคม จะมีแผนงานขยายเป็น 6 ช่องจราจร อย่างไรก็ตามการเปลี่ยนแปลงการพัฒนาเมือง ในทุกมิติก็จะดูเหตุผลความจำเป็น ที่จะสร้างทางเลี่ยงเมือง และดูถึงความเหมาะสม  

 

ส่วนแผนการขยายช่องจราจรสาย 2389 เป็น 4 ช่องจราจร จากอำเภอแก้งคร้อไปสระพัง ปัจจุบันที่เป็น 2 ช่องจราจร ต่ำกว่ามาตรฐานชั้น 4 ช่องจราจรกว้าง 3.50 เมตร มีไหล่ทางอย่างน้อย 1 เมตร เส้นนี้ จะมุ่งสู่จังหวัดขอนแก่น กรมทางหลวง เสนอแผนขอรับงบประมาณปี 2569 นี้ ในการก่อสร้างแผนชุมชนให้เป็น 4 ช่องจราจร ช่วงตำบลบ้านเต่า ระยะทาง 1.50 กม. งบ 50 ล้านบาท และเพิ่มมาตรฐานไหล่ทาง โดยจะขยายไหล่ทาง บนถนนหมายเลข 2389 ช่วงบ้านสระพัง ระยะทาง 35 กม. วงเงินงบประมาณ 35 ล้านบาท รวม 85 ล้านบาท เพื่อปรับปรุงถนนสายนี้ 

 

ส่วนช่วงที่เหลือเราจะดูความจำเป็น และความเดือดร้อนและจะพยายามให้ต่อเนื่องในการพิจารณางบประมาณในทุกปี เพราะถนนสายนี้ เป็นเส้นทางสายหลักเชื่อมจากจังหวัดชัยภูมิ ไปจังหวัดขอนแก่น  

 

นายอัครแสนคีรี กล่าวต่อว่า คำตอบที่ได้รับจากนางมนพร ถือว่าเป็นข่าวดีของชาวชัยภูมิ พร้อมขอฝากถนนท้องถิ่น ในส่วนขององค์การบริหารส่วนจังหวัดชัยภูมิ ที่ขาดงบประมาณ รื้อและทำถนนในหลายเส้น ตนจึงอยากฝากกระทรวงคมนาคม ถึงการพิจารณาแนวคิด รับโอนคืนถนนทางหลวงท้องถิ่นด้วย