6 พฤศจิกายน 2567 อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ แถลงต่อหน้าผู้สนับสนุนที่ เวสต์ปาล์มบีช ในรัฐฟลอริดา ในเช้าวันพุธ
โดยประกาศขอบคุณผู้สนับสนุนที่ทำให้เขาได้รับเลือกตั้งเป็นประธานาธิบดีคนที่ 47 ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีคนที่ 45 และให้สัญญาว่า เขาจะต่อสู้เพื่อครอบครัวและอนาคตของชาวอเมริกันในทุกวัน
และจะไม่หยุดพักจนกว่าจะสามารถสร้างอเมริกาที่แข็งแกร่ง ปลอดภัย และรุ่งเรือง ซึ่งจะเป็นยุคทองของอเมริกาอย่างแท้จริง
เขาบอกด้วย ว่า ชัยชนะครั้งนี้เป็นชัยชนะแสนวิเศษสำหรับประชาชนอเมริกัน ซึ่งจะทำให้อเมริกายิ่งใหญ่อีกครั้ง พร้อมทั้งให้คำมั่นว่าจะเยียวยาประเทศ
ทรัมป์ ยังบอกด้วยว่า อเมริกาได้ให้ฉันทามติที่ทรงพลังอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ซึ่งเขาหมายถึงพรรครีพับลิกันสามารถกลับมาครองเสียงข้างมากในวุฒิสภาแทนที่พรรคเดโมแครตได้สำเร็จ
การประกาศชัยชนะมีขึ้นแม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการว่าเขาได้อิเล็กทอรัลโหวตครบ 270 เสียง
โดย สำนักข่าว CNN รายงานว่า "ทรัมป์" ได้ 266 เสียง
ขณะที่ "รองประธานาธิบดีกมลา แฮร์ริส" ได้ 195 เสียง แต่คณะผู้เลือกตั้งจะลงคะแนนเพื่อเลือกประธานาธิบดีในวันที่ 17 ธันวาคม 2567 และสภาคองเกรสจะรับรองผลคะแนนอย่างเป็นทางการในวันที่ 6 มกราคม 2568 ที่จะทำให้เขาชนะอย่างเป็นทางการ จากนั้นจะสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคม 2568
นอกจากนี้ทรัมป์ บอกกับผู้สนับสนุนเกี่ยวกับเรื่องที่เขารอดชีวิตจากเหตุการณ์พยายามลอบสังหาร 2 ครั้งด้วยว่า
“พระเจ้าไว้ชีวิตเขาด้วยเหตุผล” และ “เหตุผล คือ เพื่อปกป้องประเทศของเรา และฟื้นคืนความยิ่งใหญ่ของอเมริกา และเราจะทำภารกิจนี้ให้ลุล่วงไปด้วยกัน” เขาบอกด้วยว่า งานนี้ไม่ง่าย และเขาจะใช้ทั้งพลังงาน จิตวิญญาณ และการต่อสู้เพื่อทำงานที่ประชาชนมอบความไว้วางใจแก่เขา
ชัยชนะครั้งนี้จะทำให้ทรัมป์เป็นประธานาธิบดี ที่ได้รับเลือกตั้งสมัยที่สอง ที่ไม่ติดต่อกันเป็นคนแรกในรอบกว่า 130 ปี และเขายังเป็นประธานาธิบดีคนที่ 2 ที่ถูกลงมติถอดถอน 2 ครั้ง และอดีตประธานาธิบดีคนแรกที่ถูกตัดสินว่ากระทำผิดคดีอาญา
นอกจากการเลือกตั้งประธานาธิบดีแล้ว พรรครีพับลิกันยังส่อคว้าชัยชนะทั้งในสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่มีการเลือกตั้ง สส. 436 ที่นั่ง และ สว. 34 ที่นั่งจาก 100 ที่นั่ง
โดยพรรครีพับลิกันได้ สส.196 ที่นั่ง ใกล้ถึง 218 ที่นั่งที่จะทำให้ครองเสียงข้างมาก และพรรคเดโมแครตได้ 169 ที่นั่ง นอกจากนี้พรรครีพับลิกันได้ที่นั่ง สว. เพิ่มขึ้น 13 ที่นั่ง ทำให้รวมเป็น 51 ที่นั่ง เกินกึ่งหนึ่งแล้ว และพรรคเดโมแครตมี 41 ที่นั่ง แต่ยังเหลือ 8 ที่นั่งยังไม่ประกาศผล