svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"ชวลิต ไทยสร้างไทย " ฉายภาพทางออก พิจารณา"ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม"

"ชวลิต ไทยสร้างไทย" ฉายภาพทางออก พิจารณา "ร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม" ต้น ธ.ค.67 ทั้งช่วยปกป้องพระเกียรติยศสถาบัน และ "นิรโทษกรรมคดีการเมือง" แนะตั้งคณะทำงานให้คำปรึกษาเยาวชนที่ต้องคดี "ม.112" เป็นรายบุคคล

28 ตุลาคม 2567 "นายชวลิต วิชยสุทธิ์" รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย  ให้ความเห็นต่อปัญหาการ"นิรโทษกรรม"ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรในคราวประชุมเมื่อวันที่ 24 ต.ค.67 มีมติ "ไม่เห็นชอบ" กับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการตรา พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่ได้เสนอทางเลือกการนิรโทษกรรมความผิดตาม ม.112 ไว้ 3 ทางเลือก นั้น

เห็นว่า หากทุกพรรคการเมืองได้ย้อนกลับไปดูมติการประชุมสภาผู้แทนราษฎร เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2563 มติดังกล่าวก็น่าจะเป็นมติ "ปิดปาก" ตนเองไปโดยปริยาย เพราะสภาเคยมีมติเป็นเอกฉันท์ ไม่มีผู้ใดคัดค้าน ดังนี้

1. นิรโทษกรรมเหตุการณ์ความไม่สงบทางการเมือง มีระยะเวลาตั้งแต่พุทธศักราช 2548 จนถึงปัจจุบัน

2. นิรโทษกรรมคดีการเมือง และคดีอาญาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ยกเว้นคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และคดีทุจริตทั้งนี้ กระบวนการในการพิจารณาคดีทุจริตต้องเป็นไปตามหลักนิติธรรม

ดังนั้น ถ้าหวังจะให้การนิรโทษกรรมคดีการเมืองเดินหน้าไปได้ ขอเสนอแนะให้นำรายงานการศึกษา เรื่อง แนวทางการสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ของคนในชาตื ที่สภา ให้ความเห็นชอบอย่างเป็นเอกฉันท์ ไม่มีผู้ใดคัดค้าน เมื่อ 19 ส.ค.63  มาปรับใช้ให้เหมาะสมกับสถานการณ์ที่จะมีการเสนอร่าง พ.ร.บ. นิรโทษกรรม ในช่วงเปิดประชุมสภาสมัยประชุมต่อไปในช่วงต้นเดือน ธ.ค.67
      

"นายชวลิต วิชยสุทธิ์" รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย

อย่างไรก็ตาม สังคมไม่ควรมองข้ามปัญหาเยาวชนที่ต้องหาคดีความผิดตามมาตรา 112 ซึ่งทางออกในกรณีนี้ควรยึดหลักการ "การให้อภัย" เช่นกัน เพียงแต่ผู้กระทำควรสำนึกในการกระทำของตน แล้วทำเรื่องขอพระราชทานอภัยโทษ เพราะเป็นการกระทำความผิดต่อองค์พระมหากษัตริย์ เหตุผลก็ คือ รัฐธรรมนูญ มาตรา 6 บัญญัติว่า "องค์พระมหากษัตริย์ทรงดำรงอยู่ในฐานะอันเป็นที่เคารพสักการะ ผู้ใดจะละเมิดมิได้ ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใด ๆ มิได้"

จากบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ มาตรา 6 ดังกล่าว แสดงฐานะของพระมหากษัตริย์ว่า 1. ทรงอยู่เหนือการเมือง 2. ผู้ใดจะกล่าวหาหรือฟ้องร้องพระมหากษัตริย์ในทางใดๆมิได้ เป็นที่ทราบกันโดยทั่วไปว่า คดีความผิดตาม "มาตรา 112" เป็นคดีความผิดอันยอมความมิได้ ต่างจากคดีดูหมิ่น หมิ่นประมาทของบุคคลทั่วไป ที่สามารถยอมความกันได้
     
ดังนั้น สภาผู้แทนราษฎรจะไปนิรโทษกรรมผู้ที่ดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ แทนพระองค์ท่าน จะสมควรหรือไม่ ตนเห็นว่าแนวทางที่สมควร คือ ผู้ที่ดูหมิ่น หมิ่นประมาทพระมหากษัตริย์ หากสำนึกในการกระทำ ก็สามารถขอพระราชทานอภัยโทษได้ หากเห็นว่า ตนเองมิได้ดูหมิ่น หมิ่นประมาทต่อองค์พระมหากษัตริย์ ก็มีช่องทางในการต่อสู้ตามกระบวนยุติธรรม หรือกรณีที่เห็นว่าถูกกลั่นแกล้งในการร้องทุกข์กล่าวโทษ ก็มีช่องทางที่พรรคการเมืองจะดำเนินการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญาในส่วนที่เกี่ยวกับการร้องทุกข์กล่าวโทษคดีความผิดตาม"มาตรา 112" โดยไม่จำเป็นต้องแก้ไขมาตรา 112 แต่อย่างใด

"นายชวลิต" กล่าวด้วยว่า หากผู้แทนปวงชนชาวไทยที่ได้ฉันทามติจากประชาชน ได้ร่วมมือกันใน 3 ส่วนสำคัญไปพร้อม ๆ กัน คือ ปกป้องรักษาพระเกียรติยศองค์พระประมุขของชาติ และ "อภัย"ผู้ที่มีความเห็นต่างทางการเมืองที่มีการกระทำที่ก่อให้เกิดความผิดเป็นคดีการเมือง และคดีอาญาที่มีมูลเหตุจูงใจทางการเมือง ก็จะสร้างความปรองดอง สมานฉันท์ให้เกิดขึ้นในบ้านเมืองได้ 

ซึ่งสังคมไม่อาจมองข้ามปัญหาของเยาวชนที่ต้องหาคดีอาญาตาม "มาตรา 112" โดยตนเห็นว่าควรมีคณะกรรมาธิการสามัญคณะใดคณะหนึ่งที่เกี่ยวข้องได้ตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาข้อมูลของคดีเป็นรายบุคคล แล้วร่วมกันหาทางออกให้กับเยาวชนอันจะนำไปสู่หลักการการได้รับ "การอภัย" ในที่สุด  

 

"วิสุทธิ์"ยืนยัน ไม่นิรโทษม.112 เด็ดขาด


ที่อาคารรัฐสภา "นายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ" สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล กล่าวว่า การประชุมสมัยหน้าที่จะมี "พระราชบัญญัตินิรโทษกรรม" จาก 2 พรรคการเมือง ทั้งพรรคประชาชนและพรรครวมไทยสร้างชาติ เสนอเข้ามาในที่ประชุมรัฐสภานั้น มี 2 แนวทางว่ารัฐบาลจะเห็นด้วยกับ พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมของพรรคไหน แต่ในส่วนของพรรคเพื่อไทยจะต้องมีการปรึกษาหารือกันก่อน

"นายวิสุทธิ์ ​ไชยณรุณ" สส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล

"สิ่งที่สำคัญที่สุดไม่ว่าจะเป็นการนิรโทษแบบไหน  เราจะไม่นิรโทษเรื่อง 112 โดยเด็ดขาด พร้อมยืนยันพรรคเพื่อไทยไม่เอาด้วย กับการแก้ พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมเพื่อแก้ไขปัญหา 112 แต่ถ้าเป็นคดีธรรมดา คดีการเมืองที่เกิดขึ้นมาหลายสิบปี ส่วนนี้อยู่ในข่ายที่เราจะพิจารณาได้ แต่ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องปรึกษาหารือกับสส.ในพรรคทั้งหมดก่อนและต้องปรึกษาหารือกับพรรคร่วมทั้งหมดด้วยว่าคิดเห็นประการใดและจะแก้ไขแบบไหนบ้าง" ประธานวิปรัฐบาล กล่าว 

 

เมื่อถามว่า การเสนอกฎหมายนิรโทษจะไม่เป็นรอยร้าวในพรรคร่วมรัฐบาลใช่หรือไม่ "นายวิสุทธิ์"  กล่าวว่า ต้องปรึกษาหารือกันเพราะพรรคร่วมโดยเฉพาะพรรครวมไทยสร้างชาติก็เสนอเข้ามาแต่ก็ไม่มีการนับรวม"มาตรา 112" แต่ก็ไม่มีอะไรน่าหนักใจระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องปรึกษาหารือ เพื่อให้ตกผลึกกันก่อน 

ส่วนในการประชุมสส.ของพรรคเพื่อไทยอาทิตย์นี้จะเน้นในเรื่องของการประชุมวันสุดท้าย ของสภาผู้แทนราษฎรเพราะมีการโหวตเรื่องพระราชบัญญัติการขนส่งทางราง ที่ยังต้องลงประชามติและตั้งกรรมาธิการต่อไป ส่วนสุดท้ายเพื่อไทยจะมีการเสนอร่าง พระราชบัญญัตินิรโทษกรรมด้วยหรือไม่ ก็ต้องถามที่ประชุมพรรคหลังจากปรึกษาที่ประชุมพรรค แล้วก็ต้องปรึกษาคณะยุทธศาสตร์ของพรรค สุดท้ายก็ต้องเสนอกรรมการบริหารพรรค