
1 กันยายน 2567 สำนักวิจัย ซูเปอร์โพล เสนอผลสำรวจเรื่อง ความนิยมต่อประชาธิปัตย์ กรณีศึกษาตัวอย่างประชาชนทุกสาขาอาชีพทั่วประเทศ ดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ (Quantitative Research) และการวิจัยเชิงคุณภาพ (Qualitative Research) รวมจำนวนตัวอย่างในการวิเคราะห์ทางสถิติทั้งสิ้น จำนวนทั้งสิ้น 1,346 ตัวอย่าง ดำเนินโครงการระหว่างวันที่ 29 – 31 สิงหาคม 2567 ที่ผ่านมา
เมื่อวิเคราะห์ความนิยมของประชาชน คนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ต่อพรรคประชาธิปัตย์ หลังมีข่าวเข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย พบว่า คะแนนนิยมต่อพรรคประชาธิปัตย์เพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก เพียงร้อยละ 39.9 ในขณะที่คะแนนนิยมส่วนใหญ่ต่อพรรคประชาธิปัตย์ลดลงหรืออยู่ในแดนลบ ถึงร้อยละ 60.1 ในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์
เมื่อวิเคราะห์ความนิยมของประชาชน คนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยต่อพรรคเพื่อไทย หลังมีข่าวพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาล พบว่า คะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยกลับเพิ่มขึ้นหรืออยู่ในแดนบวก สูงถึงร้อยละ 80.4 ในขณะที่คะแนนนิยมต่อพรรคเพื่อไทยลดลงหรืออยู่ในแดนลบ มีอยู่ร้อยละ 19.6 ในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทย
ที่น่าพิจารณาคือ เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ พบว่า พรรคประชาธิปัตย์เสียคะแนนนิยมในกลุ่มพนักงานเอกชน ที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด คือร้อยละ 81.1 รองลงมาคือกลุ่มเกษียณอายุ ร้อยละ 66.7 กลุ่มค้าขายอาชีพอิสระ ร้อยละ 65.3 กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 62.3 และกลุ่มเกษตรกร ร้อยละ 54.7 ของกลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์
อย่างไรก็ตาม เมื่อจำแนกออกตามกลุ่มอาชีพของคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทย พบว่า หลังมีข่าวพรรคประชาธิปัตย์เข้าร่วมรัฐบาลพรรคเพื่อไทย กลับ ทำให้คะแนนนิยมของประชาชนคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยเพิ่มขึ้น หรืออยู่ในแดนบวก สูงสุดในกลุ่มเกษียณอายุร้อยละ 81.8 รองลงมาคือ กลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 80.6 กลุ่มเกษตรกร ร้อยละ 79.2 กลุ่มค้าขาย อาชีพอิสระ ร้อยละ 73.8 และกลุ่มพนักงานเอกชน ร้อยละ 66.9 ของกลุ่มคนที่เคยเลือกพรรคเพื่อไทย
ที่น่าสนใจอีกประเด็นของผลสำรวจครั้งนี้คือ ความรู้สึกของประชาชน เมื่อพรรคก้าวไกลถูกยุบ พบว่า จำนวนมากสุดหรือร้อยละ 44.1 รู้สึกเฉย ๆ ในขณะที่ร้อยละ 29.7 เสียใจ แต่สัดส่วนใกล้เคียงกันคือร้อยละ 26.2 กลับรู้สึกดีใจ
รายงานของสำนักวิจัยซูเปอร์โพลครั้งนี้สะท้อนถึงความรู้สึกและการตอบสนองทางอารมณ์ของประชาชนต่อการเคลื่อนไหวทางการเมืองล่าสุดในประเทศไทยได้อย่างชัดเจน ทั้งนี้ การร่วมรัฐบาลของพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคเพื่อไทยทำให้มีการเปลี่ยนแปลงคะแนนนิยมที่น่าสนใจ โดยเฉพาะในกลุ่มคนเคยเลือกพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีความไม่พอใจเพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มคนเคยเลือกพรรคเพื่อไทยกลับมีความพึงพอใจเพิ่มขึ้นสูง
นอกจากนี้ การยุบพรรคก้าวไกลยังสร้างความรู้สึกที่หลากหลายในหมู่ประชาชน ซึ่งเป็นสัญญาณของการแบ่งขั้วทางความคิดและการตอบสนองที่แตกต่างกันตามสถานการณ์การเมืองในประเทศไทย ที่อาจนำพาไปสู่วงจรอุบาทว์ซ้ำซากได้