svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

เทียบชั้น “นายใหญ่เพื่อไทย-นายใหญ่ประชาชน” ในจุดที่การเมืองพ้นยุค คสช.

เทียบชั้น “นายใหญ่เพื่อไทย” กับ “นายใหญ่ประชาชน” ในสถานการณ์การเมืองพ้นยุค คสช.และ ”3 ป.“ กำลังเข้าสู่ยุค “ภูมิใจไทย”

ข้อกังขาของ ผศ.ดร.เชษฐา ทรัพย์เย็น ผู้ช่วยอธิการบดี มหาวิทยาลัยนวมินทราธิราช (นมร.)  และผอ.เนชั่นโพล โดยเฉพาะ “ดีลลับ” ระหว่าง “นายใหญ่ กับ ผู้นำจิตวิญญาณ“ ซึ่งอาจพัฒนาเป็น นายใหญ่เพื่อไทย กับ นายใหญ่พรรคประชาชน ถือเป็นประเด็นที่น่าสนใจ  โดยเฉพาะทั้งสองคนยังคงแตะมือกันจริงหรือไม่ ส่วนการพบปะกันนั้น เป็นข้อเท็จจริงที่ยุติไปแล้วว่าเคยพบและคุยกัน ตามข่าวคือฮ่องกง แต่เจ้าตัวบอก ดูไบ หรือจริงๆ แล้วอาจจะทั้งสองที่ และเจอกันหลายครั้งก็เป็นได้ 

อดีตหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคงระดับประเทศ เปิดเผยกับ “เนชั่นทีวี” ว่า อดีตนายกฯพยายามรักษาไมตรีกับทั้งก้าวไกลเดิม และพรรคใหม่ที่ชื่อพรรคประชาชน เพราะเป้าหมายของเพื่อไทยต้องการเป็นรัฐบาลต่อไปอีกหลังการเลือกตั้งรอบหน้า 

ขณะที่พรรคใหม่ ซึ่งปฏิเสธไม่ได้ว่า ไม่ว่าจะเปลี่ยนชื่ออีกกี่ครั้ง ก็คือพรรคของนายธนาธร ซึ่งมีบทบาททั้งผู้นำทางความคิด และเงินทุน ก็จำเป็นต้องรักษาพันธมิตรเอาไว้ เพราะโอกาสที่จะได้เสียงมากอย่างการเลือกตั้งที่ผ่านมา คงไม่เกิดขึ้นอีกง่ายๆ 

อีกทั้งการตั้งหัวหน้าพรรคประชาชน ประเมินไว้แล้วว่าน่าจะต้องวางตัวผู้ชายมากกว่าผู้หญิงเพราะจะทนแรงเสียดทานดีกว่า  และส่วนหนึ่งก็เพื่อเลี่ยงการปะทะกับ “อุ๊งอิ๊งค์” แพทองธาร หัวหน้าพรรคเพื่อไทยโดยตรง 

ทั้งนี้ยังมองว่า พรรคประชาชนในช่วงแรก มีแนวโน้มคะแนนนิยมลดลงบ้าง เพราะต้องยอมรับว่า “ก้าวไกล” ภายใต้การบริหารของนายพิธา ตัวนายพิธามีคะแนนนิยมที่เกิดจากตัวเองมากเป็นพิเศษ ส่วน “เท้ง ณัฐพงษ์” คนทั่วไปยังแทบไม่รู้จัก แต่คาดการณ์ได้ว่า แกนนำรุ่นก่อตั้ง ทั้ง นายธนาธร นายปิยบุตร ช่อ พรรณิกา และนายพิธา จะยังคงเคลื่อนไหวทางการเมืองเพื่อเป็นตัวช่วยพรรคใหม่ให้ได้รับความนิยมต่อไป

แต่การจะชนะเลือกตั้งแบบแลนด์สไลด์ ถือว่าเร็วไปที่จะคาดการณ์

อย่างไรก็ตามหากประเมินเฉพาะพรรคก้าวไกล หรือพรรคประชาชน ต้องยอมรับว่าช่วงหลังกระแสของพรรคผูกโยงกับตัวบุคคล และการสร้างภาพมากเป็นพิเศษ ซึ่งนายพิธาทำได้ดีในจุดนี้ และหาตัวเปรียบเทียบได้ยาก

ส่วนเรื่องมวลชนสนับสนุน ประเมิน ณ เวลานี้ว่า มวลชนยังมีจำนวนตายตัว และน่าจะถึงจุดสูงสุดไปแล้ว  กระแสแบบนี้จึงมีความท้าทายสำหรับผู้นำใหม่ที่บุคลิกด้อยกว่าคนเดิม 

ที่สำคัญการเมืองตอนนี้ พ้นยุค คสช.และ ”3 ป.“ ไปแล้ว กำลังเข้าสู่ยุคภูมิใจไทย ซึ่งมีความเขี้ยวทางการเมืองสูงมาก และปรับตัวเร็วกว่าพรรคอนุรักษ์นิยมอื่นๆ มาก