พลเรือเอก อะดุง พันธุ์เอี่ยม ผู้บัญชาการทหารเรือ ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการฝ่ายจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ (คจร.) เป็นประธานเปิดการฝึกการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค ณ บริเวณพระบรมราชานุสาวรีย์ พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล พระอัฐมรามาธิบดินทร เชิงสะพานพระราม 8 โดยมีกำลังพลในขบวนพยุหยาตราทางชลมารค และฝีพายเรือพระราชพิธี จำนวน 2,200 นาย ร่วมในพิธี
ผู้บัญชาการทหารเรือ มอบโอวาทแก่กำลังพล โดยขอให้ทุกคนมีความภาคภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญสำคัญยิ่งนี้ และจงทำหน้าที่ของตนให้เต็มที่ เพื่อให้การจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค เป็นไปด้วยความเรียบร้อยเรียบร้อยสง่างามและสมพระเกียรติ พร้อมย้ำว่าทุกคนคือความภูมิใจของกองทัพเรือ ทุกคนคือความภูมิใจของคนไทยทั้งชาติ ขอให้ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของพระราชพิธีอันสำคัญยิ่งนี้ และจงทำเรื่องหน้าที่ของตนให้เต็มที่ ที่สำคัญขอให้ดูเรื่องความปลอดภัยอย่าให้เกิดอุบัติเหตุ ขอให้รักษาสุขภาพ อย่าให้มีโรคภัยไข้เจ็บหรือโรคระบาดอย่างเด็ดขาด ขอให้ทุกคนมีกำลังใจที่จะทำหน้าที่นี้ให้เต็มที่
สำหรับรูปแบบการจัดขบวนเรือพยุหยาตราทางชลมารคในครั้งนี้ ใช้เรือพระราชพิธีจำนวนทั้งสิ้น 52 ลำ ความยาว 1,200 เมตร กว้าง 90 เมตร โดยใช้กำลังพลประจำเรือในขบวนเรือพระราชพิธี จำนวนทั้งสิ้น 2,200 นาย ซึ่งการซ้อมขบวนเรือพระราชพิธีเป็นการจัดรูปขบวนตามรูปแบบโบราณราชประเพณีทุกประการ รูปขบวนเรือ แบ่งออกเป็น 5 ริ้ว 3 สาย คือ
- ริ้วสายกลาง ซึ่งเป็นเรือสายสำคัญ ประกอบด้วย เรือพระที่นั่ง 4 ลำ มีเรือพระที่นั่งสุพรรณหงส์ เรือพระที่นั่งอนันตนาคราช เรือพระที่นั่งนารายณ์ทรงสุบรรณ รัชกาลที่ 9 และเรือพระที่นั่งอเนกชาติภุชงค์ นอกจากนี้ มีเรืออีเหลือง เรือกลองนอก เรือแตงโม ซึ่งเป็นเรือของผู้บัญชาการขบวนเรือ เรือกลองใน พร้อมด้วยเรือตำรวจนอก และเรือตำรวจใน
- ริ้วสายใน ขนาบข้าง ฝั่งซ้ายและฝั่งขวาของริ้วซ้ายกลาง มีเรือทองขวานฟ้าและเรือทองบ้าบิ่น เป็นเรือประตูหน้า เรือเสือทยานชล และเรือเสือคำรณสินธุ์ เป็นเรือพิฆาต เรือรูปสัตว์ 8 ลำ และปิดท้ายสายในด้วยเรือเอกไชยเหินหาว และเรือเอกไชยหลาวทอง ซึ่งเป็นเรือคู่ชัก
- ริ้วสายนอก อยู่ทางด้านซ้ายและขวาของริ้วสายใน ประกอบด้วยเรือดั้ง และเรือแซง สายละ 14 ลำ รวม 52 ลำ
โดยการฝึกซ้อมเป็นขบวน จะเริ่มทำการซ้อมย่อยเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา จำนวน 10 ครั้ง คือ วันที่ 1 , 8 , 15 , 22 สิงหาคม วันที่ 3 ,12 ,19 ,26 กันยายน วันที่ 1 และ 10 ตุลาคม
นอกจากนี้ มีการซ้อมใหญ่อีก 2 ครั้ง ในวันที่ 15 และ 22 ตุลาคม และซ้อมเก็บความเรียบร้อยในวันที่ 24 ตุลาคม โดยพระราชพิธีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 27 ตุลาคม 2567
ทั้งนี้ ประชาชนสามารถรับชม การฝึกซ้อมได้ตลอดเส้นทางที่ขบวนเรือแล่นผ่านโดยพื้นที่สาธารณะที่สามารถรับชมได้อย่างใกล้ชิด มีดังนี้ ฝั่งธน บริเวณใต้สะพานพระราม 8 ด้านพระบรมราชเสาวรีย์รัชกาลที่ 8 , สวนเฉลิมพระเกียรติ 72 พรรษา , ข้างโรงพยาบาลศิริราช , ท่าน้ำวัดระฆังโฆษิตาราม และวัดอรุณราชวราราม ส่วนฝั่งพระนคร ที่สวนสันติชัยปราการ ข้างป้อมพระสุเมรุ , ท่ามหาราช และท่าช้าง ตั้งแต่เวลา 15.00 น. ที่เรือพระราชพิธีเริ่ม เคลื่อนขบวนบริเวณสะพาน พระราม 8 จนเสร็จพิธีที่วัดอรุณราชวราราม