12 มิถุนายน 2567 กลายเป็นประเด็นร้อนทางการเมือง เมื่อ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ออกทิ้งบอมบ์ด้วยการแฉว่า ปัญหาการเมืองและคดีความ ที่ตนและพรรคเพื่อไทยเผชิญอยู่ในขณะนี้ ล้วนเป็นความจงใจให้เกิดขึ้น ไม่ใช่เกิดโดยธรรมชาติ โดยมี “บ้านในป่า” อยู่เบื้องหลัง
ซึ่งคำว่า “บ้านในป่า” นี้ คอการเมืองทั้งหลาย คงนึกถึงบุคคลอื่นไปไม่ได้ นอกจาก “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ อดีตรองนายกฯ 9 ปี ในรัฐบาล 2 ชุดหลัง คสช.ยึดอำนาจ
โดย พล.อ.ประวิตร อาศัยและทำงานอยู่ที่มูลนิธิอนุรักษ์ป่ารอยต่อ 5 จังหวัด ในกรมทหารราบที่ 1 มหาดเล็กราชวัลลภรักษาพระองค์ ริมถนนวิภาวดีรังสิต โดยเฉพาะช่วงที่ พล.อ.ประวิตร ยังเรืองอำนาจ ทำให้สื่อมวลชนและคนการเมือง เรียกสถานที่แห่งนี้ว่า “บ้านป่ารอยต่อ”
และเป็นที่น่าสังเกตว่า นับตั้งแต่ “อดีตนายกฯ ทักษิณ” เอ่ยถึง “บ้านในป่า” ปรากฏว่า ยังไม่มีความเคลื่อนไหวใด ๆ จาก “ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ซึ่งปัจจุบันต้องถือเป็นหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลอันดับ 3 ที่มีพรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำด้วย
ระยะหลัง “บิ๊กป้อม” ค่อนข้างเก็บตัว เพราะมีอาการป่วย เกี่ยวกับกระดูกและเส้นประสาทบริเวณหลัง ทำให้บางช่วงถึงขั้นเดินไม่สะดวก ต้องใช้รถเข็น และต้องเข้ารับการผ่าตัด ทำให้ไม่ได้ไปประชุมสภา แม้จะเป็น สส. และไม่ค่อยปรากฏตัวออกงานต่าง ๆ บ่อยนัก
ล่าสุด หลังถูกทิ้งบอมบ์ทางการเมือง พล.อ.ประวิตร ได้เปิดเผยกับเนชั่นทีวี หลังถูก นายทักษิณ พาดพิงคนบ้านในป่า เป็นผู้สร้างความวุ่นวายให้กับบ้านเมืองว่า
“ไปถามคนพูดสิ ฉันไม่ได้ไปเจอใครเลย คนในป่าไหนล่ะ”
มีรายงานว่า วันพฤหัสบดีที่จะถึงนี้ ซึ่งตรงกับวันที่ 13 มิ.ย. จะมี สส.พลังประชารัฐ จะรวมตัวกันไปหารือ “ลุงป้อม” ที่บ้านป่ารอยต่อ เพื่อตอบโต้ข้อกล่าวหาต่าง ๆ และแสดงจุดยืนปกป้อง “ลุงป้อม” โดย สส.กลุ่มนี้เห็นว่า การกล่าวหาของนายทักษิณ ถึง “บ้านในป่า” เป็นการจงใจโจมตี “ลุงป้อม” โดยไม่รักษาน้ำใจสถานะหนึ่งในพรรคร่วมรัฐบาล แต่ทั้งนี้และทั้งนั้น สส.พลังประชารัฐ กำลังรอสัญญาณจาก “ลุงป้อม” ว่า จะไฟเขียวให้เข้าพบหรือไม่