svasdssvasds
เนชั่นทีวี

การเมือง

"สกุลธร" แจง 5 ข้อยันถูกหลอกเช่าที่ดินปัดติดสินบน 20 ล้านบาท

"สกุลธร" น้องชาย "ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" แจง 5 ประเด็น ปมถูกดำเนินคดีติดสินบนเช่าที่ดินสำนักทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ ยันถูกหลอก ปัดมีเจตนาทุจริต ลั่นไร้การเยียวยาแต่โดนสอย พร้อมแจงตามกระบวนยุติธรรมในชั้นอุทธรณ์ต่อไป

22 พฤษภาคม 2567 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า "นายสกุลธร จึงรุ่งเรืองกิจ" น้องชาย "นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ" ประธานคณะก้าวหน้า ได้ทำหนังสือชี้แจงกับสื่อมวลชน ภายหลังถูกศาลอาญาคดีทุจริตฯ สั่งจำคุกจากคดีติดสินบน 20 ล้านบาท เช่าที่ดินสำนักงานทรัพย์สินฯ 6 เดือน ไม่รอลงอาญา โดยระบุว่า

เรียน สื่อมวลชน

กรณีซึ่งเกี่ยวข้องกับข่าวการทุจริตซึ่งเกิดขึ้นกับหน่วยงานราชการกล่าว คือ สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ อันเป็นกรณีคดีความตามที่ปรากฏในข่าว เมื่อวันที่ 20 พฤษภาคม 2567

ข้าพเจ้าขออนุญาตเรียนชี้แจงข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับกรณี ดังกล่าว ดังนี้

1) ข้าพเจ้าและคณะทำงานในขณะนั้น ได้ดำเนินการอันเกี่ยวข้องกับการเช่าที่ดิน ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เมื่อปี พ.ศ. 2560 โดยได้ดำเนินการเป็นไปตามระเบียบและขั้นตอนตามกฎหมายด้วยความสุจริต ไม่มีเจตนาทุจริตแอบแฝงใดๆ ในทางกลับกันกรณีดังกล่าวนั้น ข้าพเจ้าเป็นผู้เสียหาย ซึ่งได้ถูกหลอกลวงจาก บุคคลภายนอก โดยบุคคลดังกล่าวร่วมกับเจ้าหน้าที่ของรัฐได้ปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ และนำมาแสดงหลอกลวงข้าพเจ้า อันเป็นเหตุทำให้ข้าพเจ้าได้รับความเสียหาย

2) ต่อมาข้าพเจ้าได้ทราบถึงการหลอกลวง ข้าพเจ้าได้แสดงความบริสุทธิ์ใจ แจ้งเรื่องดังกล่าวไปยังสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เมื่อปี พ.ศ. 2561 โดยการนำเอกสารที่บุคคลดังกล่าวได้ทำการปลอมขึ้นไปมอบให้กับเจ้าหน้าที่ของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์เพื่อทำการตรวจสอบ จนทำให้สำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ รู้ตัวผู้กระทำความผิดและสามารถดำเนินคดีอาญากับบุคคลที่ได้ทำการปลอมแปลงเอกสารของสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ดังกล่าวได้

3) ในเมื่อปี พ.ศ 2562 พนักงานสอบสวนได้เรียกข้าพเจ้าไปให้การเป็นพยานในฐานะผู้เสียหาย แต่เนื่องจากในขณะนั้น ข้าพเจ้าติดภารกิจสำคัญอยู่ที่ต่างประเทศ จึงไม่สามารถไปให้การเป็นพยานได้

4) ข้าพเจ้าจึงเชื่อว่าการกระทำของข้าพเจ้า กระทำไปด้วยความสุจริต ทั้งยังเล็งเห็นถึงความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับหน่วยงานของรัฐและบุคคลอื่น การที่ข้าพเจ้าแจ้งเรื่องไปยังสำนักงานทรัพย์สินพระมหากษัตริย์ เพื่อให้มีการตรวจสอบนั้น ข้าพเจ้ามีเจตนาป้องกันไม่อยากให้เหตุเช่นว่านี้ทำให้หน่วยงานของรัฐและบุคคลใดๆ ได้รับความเสียหายอีก

หากการที่ข้าพเจ้าถูกหลอกลวงดังกล่าว และเป็นผู้เสียหายจากการกระทำเช่นว่านั้น นอกจากจะไม่ได้รับการเยียวยาความเสียหายและได้รับความคุ้มครองสิทธิแล้ว กลับถูกมองว่าเป็นผู้มีเจตนาทุจริตเสียเองเช่นนี้ คงทำให้ผู้เสียหายคนอื่นกลัวที่จะต้องปกป้องสิทธิของตน และคงยากที่จะกล้าต่อสู้กับการทุจริตของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานของภาครัฐ เพราะการต่อสู้ดังกล่าวนั้น อาจทำให้เขาตกเป็นผู้ได้รับความเดือดร้อนตามมา

5) ข้าพเจ้าขอยืนยันความสุจริตใจ และความบริสุทธิ์ใจในการกระทำดังกล่าวของข้าพเจ้า ข้าพเจ้าพร้อมชี้แจงและดำเนินกระบวนพิจารณาในกระบวนการยุติธรรมในชั้นอุทธรณ์ต่อไป