วิเคราะห์ปม "บิ๊กแจ๊ส" ลาออก เบื้องหลังคืออะไร เปิดภาพความร่วมมือ 3 นายก อบจ.

3 พฤษภาคม 2567 จากกรณี "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี หรือ นายก อบจ.ปทุมธานี ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี พร้อมระบุว่า..

ได้หารือเกี่ยวกับปัญหาน้ำหลาก เพื่อที่จะป้องกันได้อย่างไร จังหวัดลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่นครสวรรค์ลงมา สิงห์บุรี อ่างทอง ปทุมธานี ในช่วง 2 ถึง 3 ปีที่ผ่านมา ปริมาณน้ำมากจนก็เกือบจะแย่ แล้วช่วงฤดูน้ำหลากที่จะถึงนี้ปริมาณน้ำคาดว่าจะมากกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งทางปทุมเราสู้มาตลอดเวลาสามปีเพื่อให้จังหวัดปทุมธานีไม่จมน้ำ เราได้มีการประสานพูดคุยกันตลอดเพื่อเตรียมการตั้งรับ

เมื่อได้มีการเจรจากันทุกจังหวัดหากเข้าการเลือกตั้งตามปกติ ที่จะหมดวาระในวันที่ 19 ธันวาคม เมื่อหมดวาระแล้ว ก่อนหมดวาระ 6 เดือนเราจะช่วยเหลือประชาชนไม่ได้เลย อะไรก็ต้องอยู่ในกฎกติกาหมด เบิกจ่ายไม่ได้ ยิ่ง 3 เดือนสุดท้ายยิ่งแย่

ดังนั้นจึงตัดสินใจด้วยกันในฐานะประธานสมาพันธ์นายก อบจ.ภาคกลาง ทุกคนจึงมีความเห็นว่าหากเราช่วยเหลือประชาชนไม่ได้ เราจะอยู่ทำไม เมื่ออยู่แล้วทำอะไรไม่ได้ ซึ่งเราคาดว่าปีนี้น้ำจะเยอะ

"นี่คือเหตุผลหลัก เป็นเหตุผลที่ต้องออกก่อน ผมเองจะออกพร้อมกัน 3 จังหวัด โดยทาง นครสวรรค์ และอ่างทอง เราได้คุยกันโดยผมได้ยื่นใบลาออกมีผลตั้งแต่วันที่ 3 พ.ค. เป็นต้นไป ส่วนจังหวัดอื่นๆ เดี๋ยวคงตามมาอีก เพราะเมื่อเข้าสู้ 180 วันจะเริ่มระวังตัวกัน และข้อกฎหมายยุบยิบ" 

กระทั่งในเวลาต่อมา ปรากฎภาพ "บิ๊กแจ๊ส" พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายก อบจ.ปทุมธานี ได้หารือร่วมกับ พล.ต.อ.สมศักดิ์ จันทะพิงค์ นายก อบจ.นครสวรรค์ และ นายสุรเชษ นิ่มกุล นายก อบจ.อ่างทอง ซึ่งเป็น 3 นายก อบจ. ลุ่มแม่เจ้าพระยา จังหวัดนครสวรรค์ต้นน้ำ จังหวัดอ่างทอง กลางน้ำ และจังหวัดปทุมธานีปลายน้ำ 

ทั้งนี้ภาพดังกล่าวระบุว่า เป็นการปรึกษาหารือก่อนที่จะตัดสินใจร่วมกันลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ. เนื่องจากเป็นห่วงในเรื่องของการบริหารจัดการน้ำที่ทำมาตลอดและหวั่นว่าปีนี้น้ำจะมีปริมาณมากกว่าปีที่ผ่านมา หากอยู่ในห้วงเวลาของกฎหมายการเลือกตั้งจะขับเคลื่อนงานต่างๆได้ไม่มีประสิทธิภาพ ผลเสียจะตกอยู่กับประชาชน

ขณะที่ นายภาสกร บุญญลักษม์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ได้ลงนามเซ็นต์รับทราบ เรื่อง ขอลาออกจากตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ซึ่งมีเนื้อหาระบุว่า 

เรียน นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ตามที่ พลตำรวจโทคำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ยื่นหนังสือต่อผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2567 โดยแสดงความประสงค์ขอลาออกจากการดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้มีการจัดการเลือกตั้งใหม่ ซึ่งจะสามารถบริหารจัดการช่วยเหลือประชาชนได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 3 พฤษภาคม 2567 เป็นต้นไปนั้น

ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี รับทราบการลาออกดังกล่าวแล้ว จึงแจ้งมาเพื่อให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นต่อไป

อ่านเกม “บิ๊กแจ๊ส” ไขก๊อก ชิงธงการเมืองล้วนๆ?
การลาออกจากตำแหน่ง นายก อบจ.ปทุมธานี ของ “บิ๊กแจ๊ส” พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง สร้างกระแสฮือฮาอย่างมาก เพราะเป็นที่ทราบกันดีว่า นายกอบจ.รุ่น “บิ๊กแจ๊ส” จะหมดวาระวันที่ 19 ธันวาคมนี้อยู่แล้ว และจะมีการเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ พร้อมกับ สจ. หรือ ส.อบจ. ในช่วงต้นปีหน้า 

ที่ฮือฮายิ่งกว่าก็คือ “บิ๊กแจ๊ส” อ้างเหตุผลเรื่องช่วยเหลือประชาชนช่วงน้ำหลาก หากปล่อยให้เข้าห้วงเวลา 180 วันสุดท้ายก่อนหมดวาระ จะขยับตัวยาก เพราะตัวเองก็จะลงเลือกตั้งป้องกันแชมป์อีกสมัย จะจ่ายงบ หรือดำเนินการเกี่ยวกับ “รถราม้าใช้” ก็ลำบาก ถูกจับจ้อง เสี่ยงถูกร้องเรียน ช่วยประชาชนยาก แถมยังเสี่ยงเลือกตั้งการจัดเลือก สว. จึงตัดสินใจลาออก แถมจะมีนายก อบจ.ในภาคกลางลาออกพร้อมกันอีกหลายคน

เมื่อลาออกก่อนถึงเส้นตาย 180 วัน จึงต้องเลือกตั้งซ่อมภายใน 60 วัน 

  เหตุผลการลาออก ฟังขึ้นหรือไม่ ?  
แหล่งข่าวซึ่งเป็นนายก อบจ.ภาคอื่น และไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับ “บิ๊กแจ๊ด” บอกว่า สิ่งที่ “บิ๊กแจ๊ด” ทำ เชื่อว่าเป็นการใช้เทคนิคกฎหมาย เพื่อชิ่งหนีไม่ให้เลือกนายก อบจ. พร้อมกับ ส.อบจ.ช่วงต้นปีหน้า โดยมีเหตุผลที่แท้จริงคือ 

• 1.ไม่ให้คู่ต่อสู้ตั้งตัวได้ เพราะการเลือกตั้งซ่อมจะเกิดขึ้นในอีก 60 วันข้างหน้า ส่วนคู่แข่งที่เตรียมล้มแชมป์ เข้าใจว่าการเลือกตั้งจะมีในปีหน้า ก็จะยังไม่เร่งหาเสียงในช่วงนี้ คู่ต่อสู้บางคนอาจเปิดตัวไม่ทันด้วยซ้ำ 
• 2.ไม่ต้องรับผิดชอบค่าใช้จ่าย “ทีม สจ.” หรือ “ส.อบจ.” เพราะลาออกคนเดียว ก็เลือกตั้งซ่อมคนเดียว ไม่ต้องดูแลทีม แต่หากเลือกพร้อมกัน ก็ต้องดูแลค่าใช้จ่ายของทีม สจ.ทั้งหมด ที่ลงสมัครทีมเดียวกัน 
• 3.หลบกระแสการเมืองระดับชาติ เพราะการเลือกตั้งนายก อบจ.หนนี้ เป็นการประลองกำลังกันระหว่าง 2 พรรคใหญ่ คือเพื่อไทย กับก้าวไกล โดยเฉพาะในพื้นที่ปทุมธานี การเลือกตั้ง สส.เคยเป็นฐานที่มั่นสำคัญของพรรคเพื่อไทย แต่การเลือกตั้งปี 66 ก้าวไกลกวาดเก้าอี้ สส.ไป 6 ที่นั่งจากทั้งหมด 7 ที่นั่ง เหลือให้เพื่อไทยแค่ที่นั่งเดียว ส่วนภูมิใจไทยตกหมด 

หากนายก อบจ.ไม่ลาออก อยู่จนครบวาระ ก็จะเลือกตั้งพร้อมกันทั่วประเทศ ก็จะมีกระแสการเมืองระดับชาติเข้ามาเกี่ยวข้อง กรณี “บิ๊กแจ๊ด” หากเลือกผิดฝั่ง หรือไม่มีการเมืองระดับชาติสนับสนุน ก็อาจพ่ายแพ้ได้ 

ฉะนั้นการตัดสินใจลาออก จึงเป็นเหตุผล “ชิงความได้เปรียบทางการเมือง” ล้วนๆ ส่วนเรื่องช่วยประชาชน ถือเป็นข้ออ้าง 

แต่ปัญหาของการใช้เทคนิคกฎหมายในการชิงความได้เปรียบแบบนี้ ก็คือรัฐต้องเสียงบประมาณ 2 รอบในการจัดการเลือกตั้ง คือ เลือกซ่อมนายก อบจ. 1 รอบ และเลือก ส.อบจ.อีก 1 รอบ อีกทั้งการเลือกตั้งรอบต่อๆ ไปก็จะไม่พร้อมกัน ทำให้ประชาชนสับสน หรือส่งผลให้ประชาชนเบื่อหน่ายการเลือกตั้่ง 

รายงานด้วยว่า พรรคเพื่อไทยจะมีแถลงใหญ่ถึงแคมเปญการเมืองที่จะเดินหน้าทำต่อไปในวันพรุ่งนี้ (3 พฤษภาคม) ซึ่งข้อมูลวงในของพรรคยืนยันว่า จะมีการเปิดตัวชิงตำแหน่งนายก อบจ. ในจังหวัดที่พร้อมด้วย

ต้องรอลุ้นว่า “บิ๊กแจ๊ส” เป็นชื่อที่พรรคเพื่อไทยจะสนับสนุนหรือไม่ เพราะท่าทีของเพื่อไทย อาจส่งผลให้ “บิ๊กแจ๊ด” ตัดสินใจลาออกในวันนี้ 

ขณะที่ นายวิระศักดิ์ ฮาดดา นายกสมาคม อบต.แห่งประเทศไทย บอกกับ “ข่าวข้นคนข่าว” ทางเนชั่นทีวี ระบุว่า ตนได้ยินว่าจะมีนายก อบจ.บางจังหวัดลาออกเพิ่มเติม เช่น จังหวัดใหญ่ทางภาคเหนือตอนล่าง และนายกเทศมนตรีก็มีหลายพื้นที่จะใช้วิธีลาออกก่อนหมดวาระเช่นกัน ย้ำว่างานนี้เป็นการชิงความได้เปรียบทางการเมืองล้วนๆ ไม่มีเรื่องอื่น