“โครงการดิจิทัลวอลเล็ต” ซึ่งล่าสุด "นายกฯเศรษฐา" ประกาศแผนออกมาอย่างชัดเจนลุยเดินหน้าต่อ และจะเริ่มใช้ในช่วงปลายปีนี้ แต่หากกางกฎหมาย จะพบว่ายังมีช่องโหว่สุ่มเสี่ยงผิดกฎหมายอย่างน้อย 3 ประเด็น เริ่มจาก
1.โครงการไม่ตรงปก ไม่ตรงกับที่หาเสียงเอาไว้ โดยเฉพาะ 3 เงื่อนไขสำคัญ คือ
ปรากฏว่าเมื่อดำเนินโครงการจริง ทำไม่ได้ทันที แต่ล่าช้ากว่า 1 ปี พร้อมกับมีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการแจก คนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป ไม่ใช่ได้รับทุกคน และสุดท้ายคือ กู้มาแจก อย่างน้อยๆ ก็กู้ ธ.ก.ส.
โดยประเด็นนี้ต้องระวังมี “นักร้อง” ไปยื่นให้ กกต. หรือองค์กรอิสระตรวจสอบว่าเป็นการหาเสียงหลอกลวง สัญญาว่าจะให้หรือไม่ เพราะสุดท้ายทำไม่ได้จริงตามที่หาเสียงเอาไว้
2.การกู้ ธ.ก.ส.มาแจกเกษตรกรคนละ 10,000 บาท อาจมีปัญหา
โดยมาตรา 28 บัญญัติว่า “การมอบหมายให้หน่วยงานของรัฐ (ในที่นี้หมายถึง ธ.ก.ส.) ดำเนินกิจกรรม มาตรการ หรือโครงการ โดยรัฐบาลรับภาระจะชดเชยค่าใช้จ่ายหรือการสูญเสียรายได้ในการดำเนินการนั้น ให้กระทำได้เฉพาะกรณี….
1.อยู่ในหน้าที่และอำนาจตามกฎหมาย
2.อยู่ภายในขอบแห่งวัตถุประสงค์ของหน่วยงานของรัฐนั้น
3.เพื่อฟื้นฟูหรือกระตุ้นเศรษฐกิจ หรือเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประกอบอาชีพ ยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน และเพื่อช่วยเหลือฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากสาธารณภัยหรือการก่อวินาศกรรม
ดังนั้นนอกจากการดึงเงิน ธ.ก.ส.มาแจก จะต้องเป็นไปตามวัตถุประสงค์ของธนาคารและยังต้องมีเป้าหมายสอดคล้องกับอีกหลายเงื่อนไขตามกฎหมาย ซึ่งต้องลุ้นตีความว่าจะเข้าข่ายหรือไม่
โดยวัตถุประสงค์ของ ธ.ก.ส. บัญญัติอยู่ในมาตรา 9 ของพระราชบัญญัติธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร พ.ศ.2509
(1) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่เกษตรกร กลุ่มเกษตรกรหรือสหกรณ์การเกษตรสำหรับการ
(ก) ประกอบอาชีพเกษตรกรรมหรืออาชีพที่เกี่ยวเนื่องกับเกษตรกรรม
(ข) ประกอบอาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้
(ค) พัฒนาความรู้ในด้านเกษตรกรรมหรืออาชีพอย่างอื่นเพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร
(ง) ดำเนินกิจการตามโครงการที่เป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรมซึ่งเป็นการดำเนินการร่วมกับผู้ประกอบการ เพื่อเพิ่มรายได้หรือพัฒนาคุณภาพชีวิตของเกษตรกรหรือครอบครัวของเกษตรกร
(2) ประกอบธุรกิจอื่นอันเป็นการส่งเสริมหรือสนับสนุนการประกอบเกษตรกรรม
(3) ดำเนินงานเป็นสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนาชนบท โดยให้ความช่วยเหลือทางการเงินหรือการบริหารจัดการแก่บุคคล กลุ่มบุคคล ผู้ประกอบการ กองทุนหมู่บ้านหรือชุมชน รวมทั้งองค์กรที่จัดตั้งขึ้นในรูปแบบใดที่มีวัตถุประสงค์ในการสนับสนุนการประกอบอาชีพของเกษตรกรหรือชุมชน ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้มีการพัฒนาผลผลิตหรือผลิตภัณฑ์ของเกษตรกรหรือชุมชนให้มีประสิทธิภาพ ทั้งในด้านการลงทุน การผลิต การแปรรูป และการตลาด หรือเพื่อส่งเสริมให้ชุมชนมีความเข้มแข็งในด้านเศรษฐกิจหรือเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต
(4) ให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่สหกรณ์ เพื่อใช้ดำเนินงานภายใต้ขอบเขตวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งสหกรณ์
กฎหมาย ธ.ก.ส. มาตรา 10 ยังกำหนดให้ธนาคารมีอำนาจกระทำกิจการภายในขอบเขตของวัตถุประสงค์ตามมาตรา 9 อีก 17 อย่าง แต่ไม่มีการระบุไว้เรื่องการให้รัฐบาลกู้เงิน แล้วนำเงินไปแจกคนละ 10,000 บาทเป็นการทั่วไป หรือแจกเกษตรกรให้นำไปซื้อสินค้าอะไรก็ได้ ตามโครงการดิจิทัลวอลเล็ต
2.3 ประธานคณะกรรมการ ธ.ก.ส. ตามกฎหมาย มาตรา 14 มีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน
ปัญหาคือ นายกฯเศรษฐา นั่งควบตำแหน่ง รมว.คลังด้วย ดังนั้นจะเป็นผู้นั่งหัวโต๊ะประชุมบอร์ดธนาคาร
สมมติหากมีวาระที่บอร์ดจะต้องอนุมัติให้รัฐบาลกู้เงิน นำไปแจกในโครงการ “ดิจิทัลวอลเล็ต” นายกฯเศรษฐาเป็นประธานในที่ประชุม ในฐานะรมว.คลัง ที่ต้องคำนึงถึงและรักษาผลประโยชน์ของธนาคาร หรือจะเป็นประธานในฐานะนายกรัฐมนตรี ที่มีวาระหาเสียงเรื่อง “แจกเงิน 10,000 บาท” การตัดสินใจจะกลายเป็นผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่
แต่ปัญหานี้จะไม่เกิดขึ้นหากมีการปรับ ครม.ตามข่าว นั่นก็คือ "นายกฯเศรษฐา" เปลี่ยนไปควบตำแหน่งรมว.กลาโหม แทน
3.การดึงงบเหลือจ่ายจากงบประมาณปี 2567 มาใช้กว่า 1.7 แสนล้านบาท เนื่องจากคาดการณ์ว่าหน่วยงานต่างๆ จะใช้จ่ายงบไม่ทัน เพราะมีเวลาของปีงบประมาณเหลือเพียง 5 เดือน แม้จะนำงบเหล่านั้นไปแปะไว้ที่ “งบกลาง” แต่การนำงบเหลือจ่ายไปใช้ ต้องออก “กฎหมายว่าด้วยการโอนงบประมาณ” ด้วยหรือไม่ เพราะหากนำไปใช้ใน "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" จะถูกตั้งคำถามเรื่องความจำเป็นเร่งด่วน ซึ่งเป็นเงื่อนไขการใช้จ่ายงบกลาง
แต่หากเป็นการโอนไปเพื่อภารกิจใน "โครงการดิจิทัลวอลเล็ต" ก็ไม่มีการตั้งงบรายการนี้ไว้ แล้วจะโอนไปโดยพลการได้อย่างไร